ต องต งราคาขายเท าไรจ งได ยอดขายเท าเด ม

2. เปอร์เซ็นต์กำไรที่ต้องการ เช่น อยากได้กำไร 35% หรือ 30% หรือ 25% เป็นต้น อัตรากำไรในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับสินค้าที่เราขายและราคาตลาดด้วย ลองค้นหาใน Google ดูว่าสินค้าที่เราขายอยู่ปกติแล้วอัตรากำไรเขาขายกันอยู่ที่กี่ % แต่เพื่อให้ง่ายตอนนี้ลองสมมุติเอาก่อนก็ได้ครับแนะนำเป็น 20-35% ก่อน

3. เปอร์เซ็นต์ค่าธรรมเนียมของช้อปปี้ (ดูกรอบเส้นประในภาพประกอบ) โดยปกติพ่อค้าแม่ค้าจะเสียค่าธรรมเนียมการชำระเงินยืนพื้นอยู่แล้วที่ 2% ในทุก ๆ ออเดอร์ และหากท่านเข้าร่วมแคมเปญการขายต่าง ๆ ของช้อปปี้ด้วยและเป็นร้านค้า Shopee Mall ด้วย ก็จะมีค่าธรรมเนียมที่เพิ่มเข้ามา บวกให้ครบทุกรายการที่โดยหัก จนได้เป็นเปอร์เซ็นต์ค่าธรรมเนียมรวมที่เสียให้กับช้อปปี้ * หมายเหตุ ค่าธรรมเนียมการชำระเงิน 2% เอาจริง ๆ เวลาคำนวณเผื่อไว้เป็นราคาขาย ราคามันก็ไม่ได้ 100% (เมื่อเราโดนหักจริงๆ) เพราะตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าลูกค้าจะใช้ Coin เป็นส่วนลดไหม หรือในอนาคตเราอาจมีการจัดโปรโมชั่น หรือช้อปปี้อาจให้ส่วนลดอะไรแก่ลูกค้าบ้าง หรือสินค้านี้มีค่าจัดส่งเท่าไหร่ในช่วงเวลานั้น ๆ ดังนั้นคิดเผื่อไว้ก่อน ดีกว่าไม่คิดเลย เพราะสินค้าชิ้นเดียวกันบางครั้งลูกค้าซื้อก็ไม่ได้ชำระเงินเท่ากัน (ค่าธรรมเนียมตรงนี้คิดจากราคาสินค้า + ค่าขนส่ง และหัก Coin ที่ลูกค้าใช้ รวมถึงส่วนลดต่าง ๆ ทั้งที่ร้านค้าให้ลูกค้าเองและช้อปปี้ให้กับลูกค้า)

🛎 เริ่มกันเลย! ยกตัวอย่างเคสของแอดมิน สำหรับพ่อค้า/แม่ค้า ก็ใช้ข้อมูลของตัวเองได้เลย 👉 ต้นทุนสินค้า รวมต้นทุนแพ็คของ 75 บาท 👉 กำไรที่ต้องการ 35 (เปอร์เซ็นต์) 👉 แอดมินเสียค่าธรรมเนียมให้กับช้อปปี้ทั้งหมด 7% แบ่งเป็น 👉 ค่าธรรมเนียมการชำระเงินที่ 2% 👉 เข้าร่วมแคมเปญ ส่งฟรี 99.- และแคมเปญ Coins Cashback, เมื่อเข้าทั้งสองแคมเปญ เสียแบบเหมา ๆ ที่ 5%

🛎 เอาล่ะ สูตรการคิดคือ.. (100 x ต้นทุนต่อชิ้น) / 100 – (% กำไรที่ต้องการ + % ค่าธรรมเนียมรวมของช้อปปี้) * ให้คำนวณในวงเล็บก่อน

👉 มาดูกัน (ยกตัวอย่างจากเคสของแอดมิน) Step 1 : (100 x 75) / 100 – (35 + 7) Step 2 : 7500 / 100 – 42 Step 3 : 7500 / 58 Step 4 : 129.31.- หรือ 129.- #นี่คือราคาขายของสินค้า

🔑 มาดูเพิ่มอีกซัก 1 ตัวอย่าง เพื่อความเข้าใจ สินค้า : หูฟังไร้สาย (สินค้านี้อยู่ในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์) * สมมุติว่าเคสนี้ร้านค้าของแอดมินเป็นร้าน Shopee Mall 👉 ต้นทุนสินค้า รวมต้นทุนแพ็คของ 950 บาท 👉 กำไรที่ต้องการ 30 (เปอร์เซ็นต์) 👉 เสียค่าธรรมเนียมให้กับช้อปปี้ทั้งหมด 11% แบ่งเป็น 👉 ค่าธรรมเนียมร้านค้า Shopee Mall และขายสินค้าในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ เสียที่ 5% 👉 ค่าธรรมเนียมการชำระเงินที่ 2% 👉 เข้าร่วมแคมเปญ ส่งฟรี 99.- ที่ 4% * ค่าธรรมเนียมการขายของร้านค้า Shopee Mall คิดที่ 3% ยกเว้นสินค้าที่ลงขายนั้นอยู่ในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics) คิดที่ 5% (เฉพาะสินค้านะ ชิ้นไหนไม่ใช่หมวดอิเล็กฯ ก็คิดแค่ 3%) * สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics) หมายถึงสินค้าที่อยู่ในหมวดหมู่ต่อไปนี้ กล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ (Cameras) มือถือและอุปกรณ์เสริม (Mobile & Gadgets) คอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป (Computers & Laptops) เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (Home Appliances) สื่อบันเทิงภายในบ้าน (Home Entertainment) และเกมและอุปกรณ์เสริม (Games and Accessories)

👉 ลองคำนวณเคสนี้ดู Step 1 : (100 x 950) / 100 – (30 + 11) Step 2 : 95000 / 100 – 41 Step 3 : 95000 / 59 Step 4 : 1,610.16.- หรือ 1,611.- #นี่คือราคาขายของสินค้า สำหรับเคสนี้

สมมุติว่าเอาเคสนี้เอามาจัดโปรลดราคา (เท่าทุน) ดูนะว่าจะขาดทุนไหม 👉 ราคาสินค้าปกติ 1,611.- บาท 👉 ลดราคา 30% (ลดเท่าทุน) เหลือราคาขายที่ 1,127.70 หรือ 1,128.- บาท 👉 ค่าบริการจัดส่งที่ลูกค้าชำระ 40 บาท (ทดไว้ก่อนจะต้องคำนวณค่าธรรมเนียมการชำระเงิน) ✂ เสียค่าธรรมเนียมร้านค้า Shopee Mall (ที่ 5% ของราคาสินค้าหลังลด) = 56.4 บาท ✂ เสียค่าธรรมเนียมแคมเปญ ส่งฟรี 99.- (ที่ 4% ของราคาสินค้าหลังลด) = 45.12 บาท ✂ เสียค่าธรรมเนียมการชำระเงิน (คิดจากราคาสินค้า + ค่าบริการจัดส่ง ที่ 2%) 23.36 บาท

-:- สรุป -:- 👉 ราคาสินค้าหลังลด 1,128.- บาท ✂ รวมเสียค่าธรรมทั้งหมด 124.88.- (ช้อปปี้ปัดเศษขึ้น) เป็น 125.- บาท ✅ คงเหลือ 1,003.- บาท ยังไม่ขาดทุน!

และนี่ก็เป็นอีก 1 วิธีการตั้งราคาขายในช้อปปี้ที่แอดมินอยากจะมาแบ่งปัน จากการประยุกต์ใช้ในการคำนวณราคาขายสินค้าของแอดมินเอง

อย่าลืมว่าราคาสินค้าที่ขายนั้นต่างกันเพียงเล็กน้อยก็มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า พ่อค้าแม่ค้าเองก็ควรดูปัจจัยอื่นร่วมด้วย

ราคาก็ยังเป็นสิ่งสำคัญของการขายสินค้าและการทำธุรกิจ พยายามอย่าแข่งขันกันด้วยสงครามราคา แต่ให้นำเสนอผ่านคุณค่าของตัวสินค้า คุณภาพของการบริการ คอนเทนต์การขาย เช่น รูปภาพสินค้า วิธีการใช้เพื่อซื้อใจลูกค้าแทน