ชวนอ่านงานวิจัย “ศึกษาทิศทางการพัฒนา ส่งเสริมและสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อสังคม ที่เหมาะสมกับประเทศไทย” โดย รศ. ดร.ธนิท เรืองรุ่งชัยกุล คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับการสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เผยแพร่ผ่านสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU-RAC) ปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวสู่การปฏิรูปประเทศในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม พลังงาน การเกษตร สาธารณสุข รวมถึงการศึกษา โดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาประเทศไปสู่ความ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ตามนโยบาย Thailand 4.0 โดยมีกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของประชาคมโลก (sustainable development goals: SDGs) โดยพัฒนาและปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์โลก ในยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขันด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม ความท้าทายในการขับเคลื่อนต่อการพัฒนาประเทศคือ “การขยายผลเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ประชาชน” เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางนวัตกรรมของสังคม การสร้างเครือข่ายธุรกิจ การเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ กำลังการผลิต โครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนากำลังคน โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือ “เพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน” ภายใต้กรอบประเด็นนวัตกรรมเพื่อสังคม (social innovation) 9 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 2) ด้านการเชื่อมโยงระหว่างอาหาร น้ำ และพลังงาน 3) ด้านภาครัฐและการศึกษา 4) ด้านการเงิน การจ้างงาน และสวัสดิการสังคม 5) ด้านเกษตรกรรมยั่งยืน 6) ด้านความเป็นเมือง 7) ด้านสุขภาพ 8) ด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม และ 9) ด้านการจัดการภัยพิบัติ งานวิจัยของ รศ. ดร.ธนิท ในครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทิศทางการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อสังคมที่เหมาะสมกับประเทศไทย โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบทของชุมชนและสังคมไทย เพื่อเป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก รวมถึงกรอบทิศทางการพัฒนาประเทศไทยในมิติต่าง ๆ ซึ่งงานวิจัยนี้สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 3 เป้าหมาย ได้แก่ เป้าหมายที่ 9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม เป้าหมายที่ 11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน และเป้าหมายที่ 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผลการศึกษาสามารถสรุปประเด็นสำคัญแบ่งได้เป็น 3 ส่วน ดังนี้ 1. การวิเคราะห์นโยบายนวัตกรรมเพื่อสังคมที่เหมาะสมกับประเทศไทย โดยการศึกษา รวมรวบ และวิเคราะห์ความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 เป้าหมาย และแผนนโยบายของ 18 หน่วยงานในประเทศ โดยวิเคราะห์ภายใต้กรอบประเด็นนวัตกรรมเพื่อสังคม 9 ด้าน พบว่า มีความสอดคล้องกับ “ด้านภาครัฐและการศึกษา” และ “ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” แสดงให้เห็นถึงประชาคมโลก รวมถึงประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรในประเทศ และการพัฒนาควรเป็นไปในความยั่งยืนโดยคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 2. การประชุมเชิงปฏิบัติการระดับชาติภายใต้หัวข้อ “ทิศทางการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อสังคม” จากการร่วมระดมความคิดเห็นของนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในมุมมองของบุคลากรในประเทศไทย โดยได้พิจารณาจากผลการวิเคราะห์ SDGs 17 เป้าหมายและแผนนโยบายของ 18 หน่วยงานในประเทศ ในการประชุมได้จำแนกประเด็นนวัตกรรมออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
3. การประชุมเชิงปฏิบัติการระดับนานาชาติภายใต้หัวข้อ “Thailand Future Week 2018 International Workshop on Future of Social Disruption and Sustainable Development Goals” ได้ลำดับความสำคัญของทิศทางการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อสังคมที่เหมาะสมกับบริบทของชุมชนและสังคมไทย โดยสามารถสรุปทิศทางในการพัฒนาในแต่ละด้าน 3 อันดับแรก ได้ดังนี้ ● ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
● ด้านความเชื่อมโยงระหว่างอาหาร น้ำ และพลังงาน
● ด้านภาครัฐและการศึกษา ด้านภาครัฐ
ด้านการศึกษา
● ด้านการเงิน การจ้างงาน และสวัสดิการสังคม ด้านการเงิน
ด้านการจ้างงานและสวัสดิการสังคม
● ด้านเกษตรกรรมยั่งยืน
● ด้านความเป็นเมือง ด้านเทคโนโลยี
ด้านฐานข้อมูลและการจัดการ
● ด้านสุขภาพ
● ด้านการท่องเที่ยว
● ด้านการจัดการภัยพิบัติ
กล่าวโดยสรุป ทิศทางการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อสังคมที่เหมาะสมกับบริบทของชุมชนและสังคมไทย พบว่า มีความเห็นที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญในการจัดการทรัพยากร ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ ได้เล็งเห็นถึงสถานการณ์ปัญหาในปัจจุบันที่ควรได้รับการแก้ไข ส่งเสริม และสนับสนุน การพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้ในระยะสั้น รวมถึงการจัดการทรัพยากร ต่อยอดองค์ความรู้ ผลิตภัณฑ์ชุมชน ความคิดสร้างสรรค์ โดยคำนึงถึงผู้ได้รับผลประโยชน์เป็นสำคัญ อาทิเช่น เกษตรกร กลุ่มกิจการเพื่อสังคม กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงพลเมืองและประชาสังคมในประเทศ เพื่อพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนแบบองค์รวมในประเทศต่อไป งานวิจัยดังกล่าวจัดอยู่ในกลุ่มการวิจัยระดับแนวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ธีมหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาและกลไกการขับเคลื่อน งานวิจัยดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ SDG9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม– (9.b) สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีการวิจัยและนวัตกรรมภายในประเทศกำลังพัฒนารวมถึงการให้มีสภาพแวดล้อมทางนโยบายที่นำไปสู่ความหลากหลายของอุตสาหกรรมและการเพิ่มมูลค่าของสินค้าโภคภัณฑ์ SDG11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน– (11.a) สนับสุนนการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในทางบวกระหว่างพื้นที่เมือง รอบเมือง และชนบท โดยการเสริมความแข็งแกร่งของการวางแผนการพัฒนาในระดับชาติและระดับภูมิภาค SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน– (17.14) ยกระดับความสอดคล้องเชิงนโยบายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน – (17.17) สนับสนุนและส่งเสริมหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาครัฐ-ภาคเอกชน และประชาสังคม สร้างบนประสบการณ์และกลยุทธ์ด้านทรัพยากรของหุ้นส่วน Research recommends แนะนำงานวิจัยของนักวิจัยธรรมศาสตร์ที่สนับสนุนการขับเคลื่อน SDGs กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านวิจัยแบบบูรณาการระดับแนวหน้า เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (TU-SDG Research Network) Manager of Knowledge Communications | "The good life is a process, not a state of being. It is a direction not a destination." − Carl R. Rogers |