ร านชานมไข ม ก เคร อเชลเตอร กร ว

เครื่องดื่มประเภทนี้มีจุดกำเนิดมาจากประเทศไต้หวันในช่วงปี 1980 แต่มีร้านค้าหลายร้านอ้างว่าเป็นผู้คิดค้นสูตรนี้ ซึ่งในตอนนั้นเป็นการเอาของที่คนไต้หวันคุ้นเคยอย่าง ชานม กับ ไข่มุกที่ทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งบางเจ้ากล่าวว่าเดิมทีก็เป็นของที่ใส่อยู่กับของหวานแบบอื่นๆ มาผสมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับชานมสไตล์ไต้หวัน

แต่ไม่ว่าใครจะเป็นคนเริ่มต้น เครื่องดื่มประเภทนี้ก็ได้กระจายตัวออกจากถิ่นกำเนิดมายังประเทศอื่นๆ รวมถึงบ้านเราที่รับเอากระแสเครื่องดื่มนี้เข้ามาในช่วงต้นของปี 2000 ก่อนที่กระแสจะโรยราไปตามกาลเวลา และเริ่มฟื้นคืนชีพอีกครั้งในช่วงปี 2015 จนถึงตอนนี้ ชานมไข่มุก ก็เป็นตัวเลือกแรกของใครหลายๆ คน

แล้วก็เป็นโอกาสอันดีที่เราจะมาทำการทดสอบรสชาติตามสไตล์ทีมงาน The MATTER ที่ระดมชานมไข่มุกจากแบรนด์ดัง 10 เจ้า ด้วยเมนูพื้นฐาน ไม่เพิ่มไม่ลดความหวาน ถ้วยไซส์ขนาดปกติมาใช้ในการพินิจพิจารณา และด้านรสชาติ เราก็แบ่งฝั่งฝ่ายเป็นคนชอบกินหวาน กับ คนไม่ชอบกินหวาน มาร่วมเมาท์มอยเพื่อเพิ่มอรรถรส และนี่คือผลลัพธ์ดังนี้

ป.ล. การกินชานมไข่มุกปริมาณมากในวันเดียวกันมีความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ไม่ควรลองทำตามทีมงานที่สละแล้วทางด้านสุขภาพ เพื่อความสุขของคุณผู้อ่าน

Moma’s Bubble Tea Bar

ร้านชานมไข่มุกแบรนด์ไทยกระแสดี ด้วยจุดขายที่ชัดเจนว่าเน้นปริมาณในราคาย่อมเยา พร้อมกับสไตล์เครื่องดื่มหลากหลาย จนทำให้เราได้เห็นคอมเมนต์จากชาวเน็ตจำนวนหนึ่งชื่นชอบกับแบรนด์นี้ จนมีคิวต่อแถวยาวอยู่ไม่น้อยในบางสาขา

– ราคา : 24 บาท

– ความสะดวกในการซื้อ : เกือบสะดวกแล้ว แม้ว่าจะมีทั้งหมด 23 สาขา และหลายสาขาอยู่ในพื้นที่ที่มีคนผ่านเยอะ และเดินทางไปได้ไม่ยากมาก แต่ทั้งหมดก็ยังกระจุกตัวอยู่ใน กทม.

– แพ็คเกจ : ถ้วยพร้อมซีลพลาสติก ขนาดใหญ่ตามสไตล์ที่เป็นจุดขายของร้าน หลอดสีดำ

– รสชาติจากกลุ่มคนไม่ชอบหวาน : คนกินหวานไม่น่าถูกโฉลก รู้สึกหวานเกินไป

– รสชาติจากกลุ่มคนชอบกินหวาน : มีกลิ่นหวานนำ ความเป็นชาน้อยเกินไป

– จำนวนเม็ดไข่มุกในแก้ว : 64 เม็ด

– ลักษณะเม็ดไข่มุก : สีดำเข้มตามลักษณะไข่มุกทั่วไป ตัวผิวนอกมีความยุ่ยอยู่มาก ผิวสัมผัสตอนเคี้ยวของตัวแป้งมีความเหนียว

Ochaya

ชานมไข่มุกแบรนด์ไทยที่หลายคนคุ้นเคย ปรากฎว่าร้านแห่งนี้มีผู้ก่อตั้งบริษัทเป็นพนักงานไต้หวัน ที่ปรับสูตรชาจากไต้หวันมาทำรสชาติใหม่ให้ถูกใจชาวไทย เป็นร้านมีจำนวนสาขาเยอะมาก ทั้งแบบที่บริษัทไปเปิดร้านเองและแบบแเฟรนไชส์ ด้วยราคาที่ไม่รุนแรง มนุษย์เงินเดือนสามารถไปซื้อกินได้ทุกวันแบบไม่ค่อยเฮิร์ทกระเป๋าเงินเท่าไหร่นัก นอกจากชานมไข่มุกแล้ว ก็มีชา-กาแฟประเภทอื่นๆ ให้เป็นทางเลือกด้วย

– ราคา : 35 บาท

– ความสะดวกในการซื้อ : สะดวกมากๆ มีสาขาประมาณ 300-360 สาขา ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด

– แพ็คเกจ : ถ้วยพร้อมซีลพลาสติก ขนาดใหญ่และสูง แก้วมีลวดลาย

– รสชาติจากกลุ่มคนไม่ชอบหวาน : หวานเกินไปมากๆ หวานจนปวดหัว

– รสชาติจากกลุ่มคนชอบกินหวาน : หวานรุนแรง แต่ยังมีความมันมาช่วยบ้าง เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับวันที่ร้อนๆ แล้วอยากกินอะไรหวานๆ เย็นๆ

– จำนวนเม็ดไข่มุกในแก้ว : 81 เม็ดครึ่ง

– ลักษณะเม็ดไข่มุก : สีดำเข้มใหญ่ ดูดขึ้นง่าย เคี้ยวดีหนึบหนับ ไข่มุกดีเป็นที่ยอมรับ

Dakasi

ก่อนอื่นเลย เราถกเถียงกันว่าแบรนด์นี้อ่านชื่อว่าอะไรกันแน่ ก่อนจะพบวิธีการอื่นของทางร้านที่ระบุว่า ‘ดาคาซี่’ ซึ่งเป็นการเพี้ยนเสียงมาจากภาษาจีนที่มีความหมายว่า ‘ดาราดัง’ ซึ่งเป็นที่มาของโลโก้ดาวของร้าน ตัวแบรนด์เริ่มต้นที่ไต้หวัน แต่ไปดังในจีน แล้วค่อยมาที่ไทย มีข้อมูลระบุว่าร้านมาเปิดในไทยตั้งแต่ 2009 แล้ว และนี่ก็น่าจะเป็นร้านโปรดของใครหลายๆ คนด้วย

– ราคา : 45 บาท

– ความสะดวกในการซื้อ : เกือบสะดวก 20 สาขา ทั้งแบบบูธใหญ่และบูธขนาดเล็ก

– แพ็คเกจ : ถ้วยพร้อมซีลพลาสติก ขนาดใหญ่ พร้อมชื่อร้านที่เป็นตัวอักษรโดดเด่น พร้อมหลอดสีใส ถ่ายรูปแล้วระวังกลืนไปกับฉากหลัง

– รสชาติจากกลุ่มคนไม่ชอบหวาน : ยังรับความหวานได้ แต่เรื่องของความมัน ทีมคนไม่กินหวานขอยอมแพ้

– รสชาติจากกลุ่มคนชอบกินหวาน : อยู่ในระดับปกติ แต่มีกลิ่นหอมมันนมจัดจ้าน จนพาลให้รู้สึกเลี่ยนได้ง่าย

– จำนวนเม็ดไข่มุกในแก้ว : 103 เม็ด

– ลักษณะเม็ดไข่มุก : สีดำเม็ดใหญ่ ดูสวยงาม รสชาติไม่โดดเด่น สัมผัสเหนียวและนุ่ม แต่ยังเคี้ยวสนุก

Kamu Tea

ร้านชาแบรนด์ไทยที่ตั้งใจทำชาคู่กับท็อปปิ้งให้เคี้ยวคู่กัน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้านที่ใช้คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ‘เคี้ยว’ โดยไฮไลต์ของร้านคือเมนูชาเขียวราดถั่วแดง และชากับครีมชีส แต่หลายๆ คนก็จดจำชานมไข่มุกของร้านนี้ได้ดี เลยต้องถือโอกาสจัดมาทดลองกัน ณ โอกาสนี้ด้วย

– ราคา : 45 บาท

– ความสะดวกในการซื้อ : ค่อนข้างสะดวก 44 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ใน กทม.

– แพ็คเกจ : ถ้วยพร้อมซีลพลาสติก ขนาดกลาง มีรูปมาสคอต หลอดสีดำ

– รสชาติจากกลุ่มคนไม่ชอบหวาน : หวานแหลมเกินไป

– รสชาติจากกลุ่มคนชอบกินหวาน : หวานแหลมนำ เกือบไม่มีความมัน จนรู้สึกไม่กลมกล่อมเท่าไหร่ แต่เมื่อกินคู่กับไข่มุกค่อนข้างโอเค

– จำนวนเม็ดไข่มุกในแก้ว : 79 เม็ดครึ่ง

– ลักษณะเม็ดไข่มุก : สีดำ ขนาดปานกลาง สภาพดูเปราะง่าย แต่อร่อยสู้ลิ้น สู้ฟัน กินคู่กับชาแล้วสนุก

Mr. Shake

‘เด็กหัวแหลม’ คือมาสคอทเด่นชัดของร้านนี้ที่เปิดตัวให้เราเห็นตั้งแต่กระแสความนิยมชานมไข่มุกเกิดขึ้นระลอกแรกในช่วงปี 1999 และ ปัจจุบันร้านนี้่ก็ยังคงอยู่ให้เราได้พบเจออยู่ แม้ในช่วงหลังจะเริ่มมีการอัพเกรดบางร้านให้เป็นรูปแบบใหม่ที่ใช้ชื่อ Mr. Shake Beyond แต่หลายคนก็ยังติดใจแบรนด์ปกติของร้าน หรืออาจชอบในบรรยากาศชวนระลึกถึงวัยรุ่น วัยจ๊าบ เลยทำให้เราหยิบจับมารีวิวกัน

– ราคา : 45 บาท

– ความสะดวกในการซื้อ : เกือบสะดวก มีสาขาอยู่ราวๆ 30 สาขา

– แพ็คเกจ : ถ้วยพร้อมซีลพลาสติก ขนาดกลาง มีรูปมาสคอตเด็กหัวแหลมชูนิ้วติดดาว พร้อมหลอดสีเหลืองที่คุ้นเคย และชวนดักแก่ (เอามือบังผมหงอก)

– รสชาติจากกลุ่มคนไม่ชอบหวาน : รสชาติและสีเข้มเหมือนชาไทยมากกว่าชานม

– รสชาติจากกลุ่มคนชอบกินหวาน : หวานไม่โดด มีความมันขึ้นจมูกเบาๆ กลิ่นชาจางไปนิดหน่อย

– จำนวนเม็ดไข่มุกในแก้ว : 47 เม็ด

– ลักษณะเม็ดไข่มุก : สีดำเม็ดขนาดปานกลาง มีความหนึบเป็นหลัก เนื้อตรงกลางเป็นแป้งชัดเจน

Kyoto Inari

ร้านระบุว่าเป็นแบรนด์ที่มาจากเมืองยูจิประเทศญี่ปุ่น ของเด่นที่ร้านภูมิใจนำเสนอก็คือเมนูกลุ่มชาวเขียวกับของหวานที่กินร่วมกันไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟ แต่หลายเมนูมีชาไข่มุกเป็นพื้นเพ เราเลยสั่งชานมไข่มุกเพียวๆ มาร่วมสังเวียนทดสอบรสชาติชานมไข่มุกด้วย

– ราคา : 55 บาท

– ความสะดวกในการซื้อ : ค่อนข้างยาก ณ ตอนที่รีวิวเพิ่งมีประกาศกำลังจะเปิดสาขาที่ 6 เท่านั้นเอง

– แพ็คเกจ : ถ้วยขนาดย่อม แต่ไม่มีการซีลถ้วย ใช้ฝาครอบถ้วยธรรมดา เอาขึ้นมอเตอร์ไซค์ระวังหก ซึ่งเรามารู้ทีหลังว่าจุดขายที่ร้านนำเสนอคือของหวานแบบเต็มถ้วยมากกว่าชาเพียวๆ เขาเลยทำถ้วยแบบนี้

– รสชาติจากกลุ่มคนไม่ชอบหวาน : ความเป็นชาชัดเจน ถ้าสั่งหวานน้อยคงน่าระรื่นใจมาก

– รสชาติจากกลุ่มคนชอบกินหวาน : กลิ่นชาชัดเจน รสชาติน้ำชาไม่หวานมาก คงเพราะอยากให้กินควบกับของหวานที่ร้านด้วย

– จำนวนเม็ดไข่มุกในแก้ว : 127 เม็ด

– ลักษณะเม็ดไข่มุก : สีดำเข้มตามลักษณะไข่มุกทั่วไป กลางๆ ไม่มีอะไรน่าจดจำเป็นพิเศษ

Cha Bar

ชา-บาร์ แค่ชื่อก็บอกชัดว่า ร้านนี้เน้นขายชาแน่ๆ จุดเด่นไฮไลท์ของเจ้านี้ นอกจากการไปกินที่ร้านสไตล์ชิคๆ แล้วก็ขึ้นชื่อกับการเป็นร้านชาที่ดีต่อสุขภาพ แคลอรี่น้อยกว่าเจ้าอื่นๆ บวกกับรสชาติที่ดี ก็ทำให้คนกินรู้สึกผิดบาปน้อยลง และไม่เสียรสชาติไปมากนัก

– ราคา : 59 บาท

– ความสะดวกในการซื้อ : ยากพอสมควร จากการมีสาขาแค่ 2 สาขาเท่านั้น

– แพ็คเกจ : ถ้วยพร้อมซีลพลาสติกขนาดค่อนข้างเล็กกว่าเจ้าอื่นๆ พร้อมชื่อร้านโดดเด่น ผิวพลาสติกบางกระชับ บุบตามแรงจับได้ง่าย โปรดจับเบาๆ หากต้องการถ่ายรูปสวยๆ

– รสชาติจากกลุ่มคนไม่ชอบหวาน : หอมชา รสชาติไม่หวาน ไม่มัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ชอบนะ

– รสชาติจากกลุ่มคนชอบกินหวาน : กลิ่นหอมชามาเต็ม จืดไปนิดนึง สัมผัสได้ถึงความ healthy ที่ชาเจ้านี้ชูเป็นจุดเด่น

– จำนวนเม็ดไข่มุกในแก้ว : 61 เม็ด

– ลักษณะเม็ดไข่มุก : สีม่วงปนดำเป็นเอกลักษณ์ของการผสมแป้งไรซ์เบอร์รี่ มองจากภายนอกชวนคิดถึงแป้งบัวเลย ข้อเสียที่ชัดเจนคือผิวสัมผัสที่ร่วนกว่าเจ้าอื่นๆ ทำให้ความเหนียวหนึบหายไป

Brown Café

ร้านชานมไข่มุกจากเชียงใหม่ที่เดินทางมาเปิดร้านสาขาในกรุงเทพ จุดเด่นที่ร้านนำเสนอคือไข่มุกหลายรสชาติหลายสี พร้อมแพ็คเกจที่มีให้สั่งซื้อทั้งแบบแก้ว และ แบบขวด

– ราคา : 60 บาท

– ความสะดวกในการซื้อ : ยาก สาขาต้นฉบับอยู่ในเชียงใหม่ และในกรุงเทพฯ เพิ่งเปิดสาขาเดียวคือที่สยาม

– แพ็คเกจ : ถ้วยพร้อมซีลพลาสติกขนาดค่อนข้างเล็กกว่าเจ้าอื่น จุดเด่นอยู่ที่ก้นถ้วยมีความโค้งสวยกระชับมือถือง่าย หลอดที่มาก็เป็นสีน้ำตาลทอง ถือแล้วแอบดูแกรนด์เบาๆ

– รสชาติจากกลุ่มคนไม่ชอบหวาน :หวานกินได้ แต่ความมันอาจทำให้เลี่ยนจนกินไม่หมด

– รสชาติจากกลุ่มคนชอบกินหวาน : รสหวานมัน กลิ่นใบชาเข้มเต็มที่

– จำนวนเม็ดไข่มุกในแก้ว : 131 เม็ด

– ลักษณะเม็ดไข่มุก : สีดำขลับ เม็ดสวยกลม หนึบหนับสู้ลิ้น

KOI Thé

แฟรนไชส์ชานมไข่มุกเจ้านี้เป็นเจ้าที่โด่งดังและมีสาขาเยอะในสิงคโปร์ แต่จริงๆ เป็นแบรนด์แยกจากชานมไข่มุก 50 Lan (อู๋ชื่อหลาน) จากไต้หวัน เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นรสชาติจากต้นตำรับอยู่ ในบ้านเราหลายท่านจดจำแบรนด์นี้ได้จากการเป็นชานมไข่มุกสีทองบ้าง ชานมไข่มุกรอคิวยาวเวอร์บ้าง แล้วก็ด้วยคำร่ำลือแบบนี้นี่แหละที่เราจะต้องมาแอพพรูฟว่า มันดีขนาดนั้นจริงๆ หรือเป็นแค่การตลาดแบบอุปทานหมู่กันแน่

– ราคา : 70 บาท

– ความสะดวกในการหาซื้อ : เกือบสะดวก จำนวนสาขาตอนนี้อยู่ที่ 15 สาขา ตามศูนย์การค้าใหญ่ๆ ในกทม.

– แพ็คเกจ : ถ้วยเล็กกำลังดี จนแอบคิดได้ว่าแพงไปหรือเปล่า

– รสชาติจากกลุ่มคนไม่ชอบหวาน : ถึงรสพื้นเพจะหวานเกินไปสำหรับคนกินไม่หวาน แต่กลิ่นชากับไข่มุกก็กลมกล่อมมาก

– รสชาติจากกลุ่มคนชอบกินหวาน : ถ้าต้องเป็นเบาหวานเพราะชาไข่มุก ก็ขอเลือกแบรนด์นี้ เข้าใจแล้วทำไมคนยอมต่อคิวรอ ความกลมกล่อม หอม หวาน มัน กำลังดี

– จำนวนเม็ดไข่มุกในแก้ว : 235 เม็ด

– ลักษณะเม็ดไข่มุก : สีอำพันแวววาว ขนาดเล็กกว่าร้านอื่นในตลาด มองไกลๆ ระวังเข้าใจผิดว่าเป็นไข่ปลา บอกเลยว่านี่เป็นไข่มุกแบบ เล็กพริกขี้หนู ด้วยไซส์ที่ย่อมกว่าทำให้อรรถรสตอน ดูด เคี้ยว เข้ากันกับรสของชานม มั่กๆ

Seoulcial Club

คาเฟ่ร้านนี้ จริงๆ เป็นร้านสไตล์เกาหลี ที่ขึ้นชื่อในฝั่งกาแฟกับของหวานหลากหลายแบบ และก็มีเมนูกลุ่มหนึ่งที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอนั่นคือ Tiger Series ที่หนึ่งในนั้นเป็นเมนูชานมไข่มุก ที่มีคนบอกว่าราคาและรสชาติเอาเรื่อง จนทีมงาน The MATTER เปิดรับเมนู Fire Tiger Milk มาร่วมทดลองกันในครั้งนี้ด้วย

– ราคา : 150 บาท

– ความสะดวกในการซื้อ : ยากจริงจัง ร้านมี 1 สาขาถ้วน

– แพ็คเกจ : ถ้วยขนาดกลาง ไม่ได้ทำการซีลฝาแต่ใช้ฝาครอบธรรมดา ทรงสูงเผื่อพื้นที่ให้คนอยากเติมวิปครีม แต่ถือดีๆ ระวังหกนะ!

– รสชาติจากกลุ่มคนไม่ชอบหวาน : รสชาติกำลังดี มีความฝาดชา แต่ถ้าเป็นคนไม่ชอบกินกาแฟอาจไม่ปลื้มกลิ่นน้ำตาลไหม้ที่เกิดจากการเผาน้ำตาลทรายแดงกับวิปครีม ส่วนคนชอบกาแฟแฮปปี้มาก

– รสชาติจากกลุ่มคนชอบกินหวาน : ถ้าเอาเฉพาะตัวชาเปล่าๆ จะรู้สึกจืดไป แต่เมื่อกินร่วมกับไข่มุกและเยลลี่น้ำตาลทรายแดงที่มีรสหวานอ่อนๆ มันจะหลอมรวมกันเป็นเมนูที่ครบถ้วน ถือว่าคุ้มค่าสมราคา

– จำนวนเม็ดไข่มุกในแก้ว : 149 เม็ด

– ลักษณะเม็ดไข่มุก : สีดำอมน้ำตาลเม็ดไม่กลมมากนัก และเนื่องจากมาพร้อมกับเยลลี่น้ำตาลแดงจะทำให้ไข่มุกติดกันเป็นกลุ่ม กระนั้นรสชาติหวานอ่อนๆ ทำให้กินรวมกับน้ำชาแล้วอร่อยมาก

สรุปผล

ความสะดวกในการซื้อ

Ochaya ชนะเลิศด้วยจำนวนสาขาทั่วไปเยอะระดับแตะเลข 300 ส่วนร้านที่หาซื้อยากสุดก็ไม่ใช่ Seoulcial Club ที่มีเพียงสาขาเดียว แต่ความจริงก็หาได้ไม่ยากเพราะตั้งอยู่ในโซนสยามสแควร์ ที่หายากจริงๆ คือร้านชาสุขภาพดีอย่าง Cha Bar ที่อยู่ใกล้กับ BTS ศาลาแดง และตรงสีลมซอย 3 หลังธนาคารกรุงเทพ

ราคาต่อแก้ว

ชานมซีรีส์ Tiger ของ Seoulcial Club แพงนำมาแบบไม่ต้องวัดผลกับใครเพิ่ม กระนั้นด้วยของที่ได้ในถ้วยเดียวก็ถือว่าสมศักดิ์ศรีกับเงินที่ต้องจ่ายไป และ Moma’s Bubble Tea Bar ก็ถูกที่สุดสมกับเป็นจุดขายของร้าน ที่บอกว่าแค่ 24 บาท ก็ได้ชาหนึ่งแก้วปริมาตร 700 มิลลิลิตร แล้วนั่นล่ะ

แพ็คเกจ

ตอนแรกเราก็คิดว่าความเป็นเครื่องดื่ม ก็น่าจะหาจุดแตกต่างของภาชนะได้ไม่มากนัก แต่ Brown Café จากเชียงใหม่ ได้ทำให้เห็นว่าบรรจุภัณฑ์ก็ชิคได้ แค่เพิ่มความโค้งมนถือง่ายที่ตัวแก้ว ที่ไม่ว่าจะถือยังไงก็คูล

เม็ดไข่มุกที่ดีที่สุด

ยกมือกันแบบเอกฉันท์เหมือนคณะรัฐมนตรีดันกฎหมายผ่านในยามวิกาลว่า ไข่มุกสีอำพันของ KOI Thé เป็นผู้ชนะในการทดสอบครั้งนี้ ไซส์ที่เล็กกว่าปกติเป็นกระบวนการที่ผ่านความคิดมาแล้ว เมื่อเม็ดไข่มุกเล็กลง การดูดกินก็ทำได้ง่าย เคี้ยวกำลังเพลินแบบไม่รู้ว่าสึกว่าความหนึบหรือความแป้งจะแซงหน้ากัน ดีจริง ยอมใจ

เม็ดไข่มุกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ความยูนีคเฉพาะตัวของไข่มุกจากร้าน Cha Bar ทำให้ทีมงานผู้ทดสอบชานมไข่มุกเห็นพ้องต้องกันว่า เราควรจดบันทึกเอาไว้ แม้จะมีความแปลกจากผิวสัมผัสที่ร่วนกว่าไข่มุกของเจ้าอื่น แต่ก็โดดเด่นจนเราจดจำมันได้แม้จะกินชาแก้วสุดท้ายเสร็จไป อรรถรสของไข่มุกจากร้านนี้ก็ยังตรึงอยู่ในใจ

จำนวนไข่มุกที่เยอะที่สุด

จากการนั่งนับทีละเม็ดๆ ของทีมงานก็ได้ข้อสรุปว่าในบรรดา 10 ยี่ห้อที่เราเลือกมา KOI Thé เป็นร้านที่ให้ไข่มุกเยอะที่สุดด้วยจำนวน 235 เม็ด ซึ่งไม่แน่ใจว่าอาจเป็นเพราะไซส์ที่เล็กกว่าเจ้าอื่นๆ ด้วยหรือเปล่าจึงทำให้ได้ไข่มุกในจำนวนนี้ ส่วนร้านที่ให้ไข่มุกน้อยที่สุดคือร้าน Mr. Shake ที่มีเม็ดไข่มุกเพียง 47 เม็ดเท่านั้น

ชาไข่มุกที่ยอมใจไปเปย์

ก่อนที่เราจะกินครบทุกแก้ว เราก็คิดในใจว่า ควรจะมีผู้ชนะสุดท้ายแค่หนึ่งเดียวในสาขานี้ แต่เสียงของทีมงานก็แตกกระจายออกเป็นสองฝั่งในสัดส่วนเท่าๆ กันเราเลยเห็นว่า ควรจะลงคนได้ตำแหน่งนี้ตามความเห็นของคนทั้งสองฝั่งน่าจะดีกว่า

ฝั่งแรก ซึ่งเป็นนิยมทั้งชาและกาแฟ หลงเสน่ห์ของความครบครันทั้ง รูป กลิ่น และรสชาติ ของ Fire Tiger Milk จากร้าน Seoulcial Club แม้ว่าราคาจะสูงไปสักนิดก็ตามที่ แต่ถ้านานๆ เปย์ทีก็ยินดีเลย

ฝั่งสอง ซึ่งเป็นผู้นิยมชาแต่ไม่นิยมกาแฟ ขอเลือกให้ KOI Théเป็นหนึ่งใจ ด้วยการบาลานซ์รสชาติของชากับเม็ดไข่มุกได้เป็นอย่างดี และไม่หวานเกินไป ทำให้พวกเขายินดีมากๆ ที่จะจ่ายเงินให้ร้านนี้