จากกรณีข่าวของคุณครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือที่รู้จักกันแพร่หลายในนาม “ครูแพะ” ออกมาร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรมและหน้าสื่อมวลชนว่า ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดในคดีขับรถโดยประมาท จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต แต่กลับต้องโทษจำคุกมากกว่า 1 ปี ก่อนได้รับการอภัยโทษ ทำให้หลายฝ่ายต่างพากันตั้งคำถามว่าเป็นการจับแพะหรือไม่ Show
ขั้นตอนการดำเนินคดีอาญา ที่คนโดนหมายเรียกผู้ต้องหา โดนหมายจับ ควรรู้!เพื่อให้ความรู้ในเบื้องลึกแก่ผู้อ่านเกี่ยวกับคดีอาญา ผศ.ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ ผู้ช่วยอธิการบดีและอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า ตามกฎหมายไทย ขั้นตอนการดำเนินคดีอาญาแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนใหญ่ๆ คือ
เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการเก็บหลักฐานในขั้นตอนการสืบสวนคดีอาญาสำหรับขั้นตอนแรก จะเป็นการทำงานระหว่างพนักงานสอบสวนกับพนักงานอัยการ ด้านพนักงานสอบสวนก็จะสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด ส่วนอัยการจะเป็นฝ่ายพิจารณาว่า หลักฐานที่ได้มามีมูลเพียงพอไหมที่จะส่งฟ้องในชั้นศาล หรือจะสั่งไม่ฟ้องก็ได้ถ้าคิดว่าไม่มีมูลเพียงพอ หรือไม่ใช่ความผิดประเภทอาญา และต้องฟ้องตอนที่คดียังมีอายุความ ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่วันเกิดคดี ไปจนถึงวันสิ้นสุดตามความหนักเบาของโทษ การเก็บหลักฐานของพนักงานสอบสวน“ที่อยากจะย้ำ คือ พนักงานสอบสวนต้องรวบรวมหลักฐานทั้ง 2 ด้าน คือ
ผศ.ดร.ปารีณาย้ำ หมายความว่าพนักงานสอบสวนจะต้องไม่เก็บข้อมูลแต่เพียงฝ่ายเดียวเหตุที่ต้องเป็นเช่นนี้ เพราะกฎหมายไทยยึดแนวคิดตามหลักบัญญัติ Presumption of innocence หรือการสันนิษฐานว่าผู้ต้องหาไม่มีความผิด ดังนั้นผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนเองก็จะได้รับสิทธิในการพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ด้วย สิทธิของผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหาในคดีอาญาชั้นสอบสวนตัวผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนเองก็มีสิทธิในขั้นสืบสวนด้วยเช่นกัน เช่น
หากไม่มีทนายในคดีอาญาชั้นสอบสวน ต้องทำยังไง?เมื่อตกอยู่ในคดีอาญา แต่ไม่มีทนาย ถามว่าจะไปหาทนายที่ไหน ผศ.ดร.ปารีณาแจ้งว่า ในชั้นสอบสวนเจ้าหน้าที่สอบสวนหรือตำรวจจะต้องบอกสิทธิที่ผู้ต้องหามี และต้องถามด้วยว่าจะมีทนายไหม ถ้าไม่มีแล้วต้องการมี ก็จะต้องจัดหาทนายมาให้ หากไม่แจ้งสิทธิ หรือแจ้งผู้ต้องหาแล้วแต่ไม่จัดหาให้ จะถือว่าพยานหลักฐานที่ได้จะใช้ไม่ได้จนกว่าจะจัดหาทนายให้ก่อน การให้การในชั้นสอบสวนของคดีอาญา?สิ่งที่ต้องรู้เมื่อโดนหมายจับ ตกเป็นผู้ต้องหาในการให้การในชั้นสอบสวนของคดีอาญา คือ “ทุกครั้งที่มีการสอบปากคำจะต้องมีการบันทึก และจะต้องให้ฝ่ายผู้ต้องหาลงชื่อทุกครั้งว่าบันทึกเป็นไปตามคำให้การไหม จะขอให้เพิ่มก็ได้ หรือจะกลับคำให้การก็ได้แต่ต้องระวัง” ผศ.ดร.ปารีณากล่าว พร้อมกล่าวว่า การให้การในขั้นสืบสวนมีประโยชน์มากสุดกับตัวผู้ต้องหา เพราะถ้าเราไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดจริง อัยการก็อาจไม่สั่งฟ้อง คดีก็จบ ยกเว้นกรณีให้ผู้เสียหายยื่นเรื่องต่อศาลเอง เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการพิจารณาคดีในชั้นศาลสิทธิของจำเลยถ้ามีการสั่งฟ้อง เรื่องก็จะดำเนินไปชั้นศาล ในขั้นนี้เราไม่เรียกว่าผู้ต้องหาแต่จะเรียกว่าจำเลย ซึ่งก็มีสิทธิเหมือนกับผู้ต้องหาเช่นเดียวกัน เช่น
หากไม่พอใจผลการตัดสิน“คดีต้องมีที่สิ้นสุด” คือสิ่งที่ ผศ.ดร.ปารีณากล่าว เมื่อศาลชั้นต้นมีการตัดสินแล้ว หากจำเลยหรือฝ่ายโจทก์ไม่พอใจผลการตัดสินก็สามารถยื่นอุทธรณ์ไปถึงศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ซึ่งเป็นผู้ชี้ขาดและถึงที่สุดแล้ว ถ้าศาลเห็นว่าไม่มีความผิดหรือหลักฐานไม่พอก็จะยกฟ้อง และได้รับค่าชดเชยในคดีอาญา แต่หากมีความผิดก็จะจำโทษตามคดี การรื้อฟื้นคดีอาญาใหม่ ทำได้หรือไม่มีบางกรณีที่เกิดการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ แต่ต้องเป็นคดีที่มีการพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยรับโทษไปแล้ว แต่ต้องพบพยานหลักฐาน หรือพยานบุคคลนั้นเป็นเท็จหรือมีหลักฐานใหม่ที่ชัดแจ้งว่าไม่ได้กระทำความผิดโดยอำนาจการรื้อฟื้นจะอยู่ที่ศาลทั้งปวง และหากพิจารณาว่าไม่มีความผิดก็จะได้รับค่าทดแทน ผศ.ดร.ปารีณาระบุว่า ผู้ต้องหาหรือจำเลย ถือเป็น “ประธานแห่งคดี” ที่ต้องทำหน้าที่พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์กับฝ่ายศาลซึ่งถือเป็นอำนาจรัฐ การที่ให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ตัวผู้ต้องสงสัยหรือจำเลย นับว่าเป็นการมอบความเท่าเทียมให้ประชาชนมีอำนาจเท่ากับรัฐ เพื่อไม่ให้เกิดการฟังความฝ่ายเดียว ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้ สรุปแม้ว่าจะโดนหมายเรียกผู้ต้องหา โดนหมายจับ ก็ยังไม่ได้หมายความว่าจะถูกดำเนินคดี โดยในระหว่างคดีก็มีสิทธิต่างๆ ที่ควรรู้และพึงได้รับ ดังนั้นควรศึกษาขั้นตอนการดำเนินคดีอาญาและสิทธิให้ดี ๑๑ สารภาพของผู้ต้องหาทั้งหมดในชั้นจับกุมและสอบสวนและพบของกลาง ศาลฎีกายังพิพากษายกฟ้องจาเลยทั้งหมดโดยอ้าง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๗ วรรคสอง บทส่งท้าย การรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนโดยการกันผู้กระทาความผิดหรือผู้ต้องหาเป็นพยานนั้น เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของพนักงานสอบสวนเพื่อจะพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๓๑ เนื่องจากในกฎหมายยังมิได้มีบทบัญญัติที่ชัดเจนที่จะให้อานาจพนักงานสอบสวนสามารถดาเนินการได้หรือไม่ อีกทั้งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มิได้มีบทบัญญัติใดที่ห้ามมิให้พนักงานสอบสวนกันผู้กระทาผิดหรือผู้ต้องหาเป็นพยาน แต่อย่างใดก็ตามการดาเนินการดังกล่าวพนักงานสอบสวนจะต้องพิจารณาโดยรอบคอบ โดยต้องคานึงถึงว่าถ้าไม่กันผู้ต้องหาหรือผู้กระทาความผิดคนใดคนหนึ่งเป็นพยานแล้ว พยานหลักฐานที่มีอยู่เพียงพอแก่การที่จะดาเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดหรือไม่ ถ้อยคาของบุคคลนั้นรับฟังเป็นความสัตย์ได้เพียงใด และอาจแสวงหาพยานหลักฐานอื่นแทนเพื่อให้เพียงพอแก่การที่จะดาเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดนั้นได้หรือไม่ รวมทั้งความคาดหมายในการที่ผู้นั้นจะเบิกความเป็นประโยชน์ในการพิจารณาหรือไม่ด้วย และพึงพิจารณากันผู้กระทาความผิดน้อยที่สุดเป็นพยาน แต่ถ้าหากในคดีดังกล่าวมีพยานหลักฐานที่มีอยู่เพียงพอแก่การที่จะดาเนินคดีกับผู้ต้องหาหรือผู้กระทาความผิดที่ถูกกันไว้เป็นพยานและผู้ต้องหาหรือผู้กระทาความผิดทั้งหมด หรืออาจแสวงหาพยานหลักฐานอื่นแทนเพื่อให้เพียงพอแก่การที่จะดาเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดนั้นได้ การกระทาของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเบื้องต้นอาจถูกมองว่าไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน หรืออาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือจะมีผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความมั่นคงแห่งชาติ หรือต่อผลประโยชน์อันสาคัญของประเทศได้ แต่ใน พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๓๒ และข้อบังคับ กคพ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการสอบสวนร่วมกันหรือการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันในคดีพิเศษระหว่างพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกับพนักงานอัยการหรืออัยการทหาร พ.ศ. ๒๕๔๗ ข้อ ๔ ข้อ ๕ ที่ท่านอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(นายธาริต เพ็งดิษฐ์) ได้ร่วมพิจารณาร่างกฎหมายและข้อข้อบังคับ กคพ.ดังกล่าวสามารถนามาใช้ประโยชน์ในการที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะดาเนินการกันผู้กระทาผิดหรือผู้ต้องหาเป็นพยานได้ ซึ่งสอดคล้องกับสิทธิมนุษยชนในกระบวนยุติธรรมทางอาญา โดยสรุปการคุ้มครองสิทธิ มีดังนี้ ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรมหากพนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษสามารถปฏิบัติได้นี้โอกาสที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษจะถูกผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทาของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษฟ้องร้องทั้งทางแพ่งและทางอาญาตลอดจนถูกดาเนินการทางวินัยคงไม่มี |