การซ อหวยต วล าง ม โต ดเต ง ม ย

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เตรียมชงบอร์ดสลาก พิจารณารูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ “สลากตัวเลข 3 หลัก” ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะออกมาแข่งขันกับหวยใต้ดิน โดยกองสลากฯ จะพิจารณาตั้งเงินรางวัลให้อยู่ในอัตราที่สูง เพื่อให้สามารถแข่งขันกับหวยใต้ดินได้

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.2565) จะมีการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยจะมีการนำผลจากการทำประชาพิจารณ์การออกผลิตภัณฑ์ “สลากตัวเลข 3 หลัก” เสนอต่อที่ประชุม เพื่อพิจารณาและสรุปรูปแบบการจำหน่าย วิธีการออกรางวัล และเงินรางวัลของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้เร็วสุดต้นปี 2566 อย่างช้าสุดไม่เกินเดือนก.ย. 2566

จับพ่อค้าหัวหมอรายแรก ขายต่อสลากดิจิทัล

“สลากดิจิทัล” ก้าวสำคัญแก้ไขหวย “ทิพานัน” ย้ำช่วยตัดวงจรหวยแพง

การซ อหวยต วล าง ม โต ดเต ง ม ย

ขณะที่รูปแบบสลากตัวเลข 3 หลัก จะจำหน่ายใบละ 50 บาท เงินรางวัลจะแปรผันไปตามจำนวนผู้ซื้อ โดยเงินรางวัลจะพิจารณาในอัตราที่สามารถแข่งขันกับหวยใต้ดินได้ เพื่อไม่ให้การออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้ล้มเหลว

โดยการซื้อ "สลากตัวเลข 3 หลัก" หรือ "หวย 2-3 ตัว" ใน 1 ใบ สามารถลุ้นได้ 4 รางวัล คือ 1.รางวัล 3 ตัวตรง 2. รางวัล 3 ตัวสลับหลัก หรือ 3 ตัวโต๊ด 3.รางวัล 2 ตัว และ 4. รางวัลแจ็คพอต

ทีมข่าวพีพีทีวีเทียบเงินรางวัลระหว่าง “หวย2-3ตัว ”และ “หวยใต้ดิน” จะพบว่า ถ้าถูกรางวัล 3 ตัวตรงของรัฐบาลจะได้เงินรางวัลขั้นต่ำบาทละ 200 บาท ขณะที่หัวใต้ดินจ่ายบาทละ 500 บาท รางวัล 3ตัวโต๊ดของรัฐบาลจ่ายขั้นต่ำบาทละ 100 บาท ใกล้เคียงกับ สามตัวโต๊ดใต้ดิน จ่ายบาทละ 100 บาท ส่วนรางวัล 2 ตัวของรัฐบาลจ่ายขั้นต่ำบาทละ 50 บาท ขณะที่รางวัล 2 ตัว ของหวยใต้ดิน จ่ายบาทละ 65 บาท และกองสลากฯ ยังมีรางวัลแจ็คพอต จ่ายเงินรางวัล 1% ของ 60% จากยอดขายสลากในงวดนั้นๆ

ส่วนประเด็นที่มีรายงานข่าวว่า กรมสรรพากร จ่อรีดภาษี ลูกค้าที่ถูกรางวัลสลากจากแพลตฟอร์มขายออนไลน์ เนื่องจากเงินรางวัลที่ได้ อาจต้องมีการยื่นแบบคำนวนรายได้ เพื่อเสียภาษี เพราะถือเป็นเงินได้ตามกฎหมายหรือไม่ ล่าสุด นอท นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท เจ้าของกองสลากพลัสได้โพสต์เฟซบุ๊ก “เรื่องเก็บภาษีถูกหวย เป็นแค่ข่าวครับ ข่าวหวังดิสเครดิต กฏหมายเขียนชัดเจนว่าเสีย 0.5% ซึ่งจ่ายและมีใบเสร็จทุกครั้ง”

รู้ไหมว่าเจ้ามือหวยใต้ดินนั้น มีกลไกในเกมส์แห่งการเสี่ยงโชคอันนี้ มีหลักการมาจากอะไร และมันทำงานอย่างไร ทำไมเจ้ามือถึงอยู่ได้ และเขามีวิธีบริหารความเสี่ยงกันอย่างไร วันนี้เราจะนำหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยมาอธิบายสิ่งเหล่านี้กัน

คนทั่วไปจะเฉลี่ยซื้อหวยกัน 12 ครั้งต่อปี และใช้เงินกับมันไปปีละประมาณ 5 พันบาท ซึ่งไหนๆ ก็จะเล่นเกมพนันนี้แล้ว สู้เล่นให้ถูกกฎหมายจะดีกว่า ให้เจ้ามือเป็นสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะรายได้ย้อนหลังตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่าเกือบ 2 แสนล้านบาทเลยดีเดียว ถือว่าเสี่ยงโชคเพื่อช่วยชาติครับ

ทุกๆ วันที่ 1 และ 16 ของเดือน จะเป็นวันแห่งความหวังของคนหลายคน บางคนก็ได้เลขเด็ดมาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บางคนก็ฝันบอกลางมาแต่ไกล แล้วแต่จะตีความกันต่างๆ นานา

เรื่องมีอยู่ว่าในสมัยก่อนนั้น หลักคณิตศาสตร์ได้ถูกนำมาใช้ในการคำนวณเพื่อชิงไหวชิงพริบให้อีกฝ่ายได้เปรียบมากที่สุด และก็ถูกขยายผลมาสู่การพนันม้า การพนันบอล จนเป็นที่มาในวงการพนันสมัยใหม่ที่ต้องมีการจ้างนักคณิตศาสตร์ฯ ไปคำนวณและออกแบบเกมต่างๆ ในบ่อนคาสิโน รวมถึงเกมโชว์ต่างๆ ที่เห็นกันอยู่บ่อยๆ

เจ้ามือหวยใต้ดินก็เช่นกัน ที่มีการนำหลักการทางคณิตศาสตร์ประกันภัย 3 ข้อดังต่อไปนี้มาใช้ แต่ก่อนจะอ่านในรายละเอียด ขอให้ทำใจไว้ก่อนนะครับว่า อ่านจบแล้วอาจจะมีโอกาสแทงหวยได้ถูกมากขึ้น หรือไม่ก็อาจจะเลิกเล่นหวยกันไปเลย

ความน่าจะเป็น (Probability)

ถ้าเรียกกันง่ายๆ ก็คือ การคำนวณหาค่าของโอกาสที่จะเกิดขึ้น เช่น ลูกเต๋าที่มี 6 หน้า การจะออกหน้าใดหน้าหนึ่ง ก็คือมีโอกาส 1 ใน 6 ซึ่งถ้าเราเปรียบเลขท้าย 2 ตัว เหมือนกับ ลูกเต๋าที่มี 100 หน้า โอกาสที่จะถูกเลขท้าย 2 ตัว ก็คือ 1 ใน 100 (หรือ 1%) นั่นเอง ถ้าเป็นเลขท้าย 3 ตัว ก็มีโอกาสเป็น 1 ใน 1,000 และถ้าสามารถใส่เงื่อนไขต่างๆ เช่น ให้มันกลับไปกลับมาได้ โอกาสก็จะได้มากขึ้น

ค่าคาดหวัง (Expected Value)

เป็นการนำโอกาสที่จะเกิดขึ้นมาคำนวณหาต้นทุนของสิ่งต่างๆ เช่น ถ้าเจ้ามือบอกว่า การแทงถูกงวดนึงจะให้เงิน 2,000 บาท โดยถ้ามีโอกาสของเลขท้าย 2 ตัว คือ 1 ใน 100 แล้ว ต้นทุนของเกมครั้งนี้จะเป็น 20 บาท (คือ 1% ของ 2,000 บาท) ดังนั้นจะเห็นว่าเจ้ามือจะต้องคำนวณต้นทุนเฉลี่ยให้ได้เสียก่อน และจะไม่มีวันขาดทุนอย่างแน่นอน เพราะต้นทุนและราคาทุกอย่างได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว

กฎของจำนวนมาก (law of large numbers)

เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เจ้ามือไม่เจ๊ง เพราะหลักการอยู่ที่ว่ายิ่งมีจำนวนครั้งหรือจำนวนของคนที่เล่นนี้มีมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้ค่าเฉลี่ยไม่เพี้ยนไปจากที่คาดไว้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือคนที่ซื้อสลากออมสินเป็นปึก ก็จะมีโอกาสถูกเลขรางวัลอยู่เสมอ หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือ ให้คน 100 คน แทงเลข 100 ตัวกับเจ้ามือ โดยเลขไม่ซ้ำกันแล้ว ก็จะทำให้เจ้ามือ จ่ายแค่ 1 คนเท่านั้น หรือไม่ก็ถ้าเราแทงเลขเดิมซ้ำๆ ไป 100 ครั้ง มันก็จะมีโอกาสที่ได้ถูกกับเขาบ้างสักครั้ง เป็นต้น

รับรองว่าทางเจ้ามือนั้นก็มีเลขเด็ดจากเจ้าพ่อใบ้หวยในแต่ละสำนักเก็บไว้อยู่ในมือมากกว่าคนเล่นหวยเสียอีกครับ แต่นั่นก็เพื่อเอามาประกอบกับการทำสถิติและคำนวณความเสี่ยงเอาไว้ เพราะปกติแล้วเจ้ามือหวย ไม่สามารถบอกว่าเลขที่ออกนั้น จะออกมาเป็นเลขอะไร แต่จะสามารถคำนวณหน้าตักของตัวเองได้ว่า ถ้าเลขออกมาเป็นแบบไหน แล้วจะยังได้กำไรอยู่หรือขาดทุนครับ และอาจจะมีการคำนวณในการปรับราคา หรือ มีสิทธิ์ไม่รับในบางเลขก็ได้

ถ้ามันไม่เข้าสู่หลักการ 3 ข้อดังกล่าวนี้ นั่นหมายความว่า ถ้างวดไหนมีเจ้าพ่อหรือเจ้าแม่อวยเลขเด็ดมาให้ แล้วทุกคนแห่กันเข้าไปแทงแต่เลขนี้กันหมด เจ้ามือก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้นเพราะจะทำให้ค่าเฉลี่ยเพี้ยนไป และไม่เข้าสู่กฎข้อนี้ เพราะทุกคนกระจุกตัวไปกับเลขเดียวกันหมด เจ้ามือจะจัดการความเสี่ยงส่วนนี้ด้วยการบริหารเงินหน้าตักว่ารับได้มากสุดเท่าไร

สุดท้ายนี้ คนที่ซื้อหวยควรรู้อยู่เต็มอกว่าค่าเฉลี่ยของสิ่งที่จะได้กลับคืนมาจากการเล่นหวย นั้นจะมีมูลค่าน้อยกว่าราคาที่เสียเงินซื้อไปแน่นอน เพียงแต่การซื้อหวยของใครบางคนนั้นทำเพื่อได้ความสนุกในการเสี่ยงโชค หรือเพียงซื้อความฝันไปด้วยเท่านั้น

การซ อหวยต วล าง ม โต ดเต ง ม ย

ผู้เขียน

การซ อหวยต วล าง ม โต ดเต ง ม ย

Tommy Pichet

นายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย เจ้าของฉายา “เม่า...เก้าชีวิต” กับคอลัมน์หนังสือพิมพ์ “คุยฟุ้งเรื่องการเงิน” ที่พกพาดีกรีทางด้านวิศวกรรมการเงิน และคุณวุฒิด้านการเงินต่างๆ ด้วยสไตล์การถ่ายทอดที่เป็นกันเอง ผ่านเรื่องราวที่เข้าถึงง่าย พร้อมมุมมองในการบริหารเงิน บริหารความเสี่ยง และการลงทุน