หัวข้อหลัก : การใช้เทคโนโลยี |
|
การใช้เทคโนโลยี
กระบวนการเทคโนโลยีสามารถใช้เป็นแนวทางในการสร้างเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับการดำรงชีวิตและแก้ปัญหาของมนุษย์อย่างเป็นระยะ ระบบ โดยอาศัยทรัพยากรและความรู้ต่าง ๆ การทดสอบและประเมินผลชิ้นงานหรือวิธีการสร้าง ทำให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพตรงตามความต้องการมากขึ้น นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดการวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีและสามารถสร้างผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ ดังนั้น เทคโนโลยีจึงเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ การเลือกใช้เทคโนโลยีควรเหมาะสมกับปริมาณการผลิต คุณภาพของผลิตภัณฑ์ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ และกระทบสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ซึ่งการใช้เทคโนโลยีอาจเป็นการใช้ทเคโนโลยีที่เราสร้างขึ้นเอง หรือ เป็นเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว โดยจะเน้นไปที่คุณธรรม และจริยธรรมของการใช้เทคโนโลยี
การเลือกใช้เทคโนโลยี
พื้นฐานของเทคโนโลยีแต่ละท้องถิ่นหรือประเทศ สร้างและพัฒนาขึ้นด้วยความรู้และทักษะของตนเพื่อการดำรงชีวิตซึ่งมีทั้งสร้างสรรค์และขัดแย้ง ดังนั้น การเลือกใช้เทคโนโลยีจึงต้องคำนึงถึงการตอบสนองความต้องการ ความปลอดภัย ความเหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และประเมินอย่างมีวิจารญาณโดยใช้เกณฑ์ทางสังคมมาประกอบด้วย
การบริโภคผลิตภัณฑ์จากเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากร การผลิตสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีของท้องถิ่นไม่อาจตอบสนองความต้องการได้อย่างเพียงพอ
จำเป็นต้องแสวงหาจากแหล่งอื่นหรือต่างประเทศเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีแห่งหนึ่งอาจไม่เหมาะสมกับอีกแห่งก็ได้ จึงต้องเลือกใช้อย่างระมัดระวัง
เทคโนโลยีมีผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย์ เช่น เทคโนโลยีการแพทย์ทำให้มนุษย์สามารถสร้างเด็กในหลอดแก้ว หรือการโคลนนิ่ง (Cloning) ซึ่งส่งผลกระทบต่อศีลธรรมและสังคมของมนุษย์ เป็นต้น
ดังนั้นจึงควรพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นและประเมินเทคโนโลยีอย่างมีวิจารณฐาณ
โดยใช้เกณฑ์ทางสังคมมาประกอบด้วย
นอกจากนี้ การสร้างเทคโนโลยียังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ด้วย โดยนำมาเป็นเกณฑ์ในการออกแบบสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆและ การสร้างชิ้นงานก็ต้องอาศัยทักษะพื้นฐานต่าง ๆ เช่น งานไม้ งานโลหะ กาตัด ซึ่งต้องกระทำอย่างระมัดระวัง | |||
ความสามารถในการประเมินผลเทคโนโลยีจะช่วยให้ทราบข้อบกพร่อง และปรับปรุงพัฒนาเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในการใช้ เช่น ไม่เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม หรือเป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ เป็นต้น
การใช้เทคโนโลยีในระดับประเทศหรือผู้ประกอบการ
ก. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัจจัยทางการตลาดมีผลต่อการเลือกเทคโนโลยีสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะการพิจารณาถึงปริมาณการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีที่เลือกควรให้ตอบแทนทางการลงทุนที่คุ้มค่าในระดับการผลิตที่กำหนดให้สำหรับ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกเทคโนโลยี กล่าวคือ ผลิตภัณฑ์ที่กำหนดคุณภาพสูง ต้องใช้เทคโนโลยีที่ค่อนข้างซับซ้อนและมีราคาสูง | หุ่นยนต์อาซิโม จากการพัฒนาเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์ |
ข. ปัจจัยที่เกี่ยวกับการลงทุน
การเลือกเทคโนโลยีมีผลต่อการลงทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จำเป็นต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับการเงินที่ต้องลงทุนและประเมินผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ การเลือกเทคโนโลยีจึงแตกต่างกันไปตามป้จจัยทางการเงินของนักลงทุนแต่ละคน
ค.
ปัจจัยทางเทคโนโลยีของโรงงาน
โรงงานอันเกิดจากเทคโนโลยีนั้น จะต้องมีอายุการใช้งานให้เยาวชน บำรุงรักษาง่าย ผู้ซื้อสามารถรับเทคโนโลยีมาใช้งานต่อไปได้ เมื่อสิ้นสุดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและสามารถปรับปรุงและพัฒนาให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ที่ดียิ่งขึ้น
ลักษณะเทคโนโลยีในการผลิตเป็นชุดหรือต่อเนื่อง มีผลต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การบำรุงรักษาโรงงาน คุณภาพและชนิดของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งอัตราการใช้ทรัพยากรที่จำเป็นและมีขีดจำกัดสูง เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง การเพิ่มหรือลดอัตราการผลิต
คุณภาพผลิตภัณฑ์ สามารถใช้วัตถุดิบและพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงเทคโนโลยีว่ามีโอกาสทำให้เกิดมลภาวะต่อสภาพแวดล้อมมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะมีผลต่อคนงานและสาธารณะชนที่อาศัยโดยรอบโรงงาน อิทธิพลของสภาพแวดล้อมที่ดีมีผลต่อค่าใช้จ่ายในการลงทุน การบำรุงรักษาโรงงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งอายุของโรงงาน ค่าใช้จ่ายในการจัดทำทะเบียนต่าง ๆ
การพิจารณาเลือกเทคโนโลยีควรพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ให้ถ่องแท้ ไม่ควรละลายค่าใช้จ่ายในการทำทะเบียนต่าง ๆ ข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้ประเมินประสิทธิภาพการผลิต
การใช้วัตถุดิบและพลังงานของโรงงาน รวมทั้งคุณภาพของผลิตภัณฑ์ด้วย ข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้กิจการล้มเหลวได้
ง. ความเหมาะสมของเทคโนโลยี
ประเทศที่มีเทคโนโลยีไม่เพียงพอต่อการผลิตสินค้าหรือไม่สามารถผลิตเทคโนโลยีได้เอง จำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศสำหรับประกอบการผลิต ต้องพิจารณาว่าเทคโนโลยีนั้นเหมาะสมกับสภาพของประเทศตนมากน้อยเพียงใด
และคำนึงถึงผลที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีด้วย เช่นอาจก่อให้เกิดปัญหาการว่างงาน หรือใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนั้นไม่เต็มที่
ภาพแสดงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต หรือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชีวิตมนุษย์ |
ในอนาคตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะช่วยเตรียมให้มนุษย์มีความพร้อมที่จะเผชิญกับปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต และพบปัญหาอันเกี่ยวกับมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ข้อที่พึงตระหนัก คือ การดำรงชีวิตของมนุษย์มิใช่เพื่อกอบโกยผลประโยชน์จากธรรมชาติ หรือทำตนอยู่เหนือธรรมชาติ หากแต่มนุษย์ต้องเรียนรู้เพื่อดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่น สังคม วัฒนธรรมและธรรมชาติ
ดังนั้น
เป้าหมายของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คือ เพื่อเรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติ อีกทั้งเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์แก่สังคมอย่างผสมผสานหรือกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม ไม่รบกวนและทำลายธรรมชาติ ทุกคนต้องมีจิตสำนึกในหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคม สามารถเผชิญอนาคตด้วยตาที่มองการณ์ไกลมีคุณธรรมและสำนึกในหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และยึดสายกลางในการดำรงชีวิต “กินพอดีอยู่พอดี”
แม้มนุษย์สามารถสร้างเทคโนโลยีได้มากมาย แกต่ก็ไม่สามารถควบคุมธรรมชาติได้ทั้งหมด เช่น ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า น้ำท่วม แผ่นดินไหว เป็นต้น
ภาพ น้ำท่วม ฟ้าผ่า |
การศึกษาด้านเทคโนโลยีควรสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม ดังข้อเสนอของเปรื่อง กิจรัตนี ต่อไปนี้
1. พัฒนานักเรียนให้เข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือ วัสดุ กระบวนการและวิธีผลิต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสังคมยุคเทคโนโลยี
ภาพ เครื่องมือ วัสดุ |
2. ให้นักเรียนเรียนรู้และประสบการณ์จากการทำให้โครงงานและกิจกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มพูนปัญญา ทักษะและทัศนะคติ เมื่อเติบใหญ่จะเป็นประชากรที่มีส่วนร่วมพัฒนาสังคมได้อย่างดี
ภาพ โครงงานและกิจกรรมทางเทคโนโลยี |
3. ให้นักเรียนมีโอกาสสำรวจปัญหาทางสังคม อันเป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยี
4. กระตุ้นนักเรียนตระหนักถึงสาเหตุและผลจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต่อธุรกิจอาชีพอุตสาหกรรม และวัฒนธรรมของมนุษย์ทั่วโลก
5. เสริมสร้างให้นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการของเทคโนโลยีในอดีต ปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งผลกระทบขอนวัตกรรมต่อชุมชนทั้งระดับท้องถิ่นและระดับโลก
ภาพ พัฒนาการของเทคโนโลยี |
6. ปลูกฝังให้นักเรียนใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อเทคโนโลยีในฐานะพลเมืองดี เพื่อเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องและเหมาะสม
7. ให้นักเรียนมีทักษะเพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมอันเนื่องมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
8. ให้นักเรียนมีทักษะในระบบเทคนิคทั่วไป (การสื่อสาร การก่อสร้าง การผลิตอุตสาหกรรมและการขนส่ง) เพื่อการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพหลังจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว
9. ให้นักเรียนเข้าใจเทคนิคและเทคโนโลยี
และมีส่วนร่วมพัฒนาสมาชิกในสังคมให้มีความรู้และเข้าใจหลักการของเทคโนโลยี
10. ให้นักเรียนมีส่วนร่วมทำกิจกรรมในหลักสูตรแบบสหวิทยาการ เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับวิชาหรือศาสตร์อื่นๆ
ภาพ นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการแก้ปัญหาผ่านกิจกรรม |
การประเมินผลเทคโนโลยี
การตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยีใด ๆ ผู้ใช้ต้องศึกษาผลดีและผลเสียของเทคโนโลยีนั้น ๆ และพิจารณาว่า ผลเสียที่จะเกิดขึ้นสามารถควบคุมหรือป้องกันได้ หากประโยชน์ของเทคโนโลยีนั้นคุ้มค่าและมากกว่าผลเสีย จึงตัดสินใจนำมาใช้ประโยชน์ได้
สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกใช้เทคโนโลยี
1. ค่านิยมที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยี 2. ผลของเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อม ประชากรในสังคม สถาบันและหน่วยงานต่าง ๆ 3. ผลกระทบเทคโนโลยีต่อเศรษฐกิจ | |
นอกจากคำนึงถึงผลกระทบของเทคโนโลยีแล้ว การเลือกใช้ควรพิจารณาถึงความเหมาะสมกับสังคม ดังต่อไปนี้ 1. ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในชุมชน 2. ระบบนิเวศของชุมชน 3. ความสิ้นเปลืองทรัพยากรของท้องถิ่น หากนำเทคโนโลยีมาใช้ 4. ความต้องการและความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีของชุมชน 5. เทคโนโลยีต้องสอดคล้องกับวัฒนธรรม ศีลธรรมและสิ่งแวดล้อมของชุมชน |
การถ่ายทอดเทคโนโลยี (Technology Transfer)
เทคโนโลยีเป็นแนวคิดการสร้างหรือวิธีการจัดการจัดหาสิ่งของที่มนุษย์ต้องการใช้ในการดำรงชีวิตเกิดขึ้นพร้อมกับมนุษย เริ่มตั้งแต่อย่างง่ายแล้วพัฒนาปรับปรุง และวิวัฒนาการจนก้าวหน้าตามความรู้ของแต่ละชุมชน และถูกถ่ายทอดจากชนรุ่งหนึ่งไปสู่ชนอีกรุ่นหนึ่ง หรือ จากชุมชนหนึ่งไปยังอีกชุมชนหนึ่ง ทำให้ความรู้เหล่านี้กระจายไป และเกิดการคิดค้นวิธีการใหม่ ๆ
เพื่อสนองต่อความต้องการมนุษย์กว้างขวางยิ่งขึ้น ลักษณะดังกล่าวเรียกว่า “การถ่ายทอดเทคโนโลยี” หรือ การได้มาซึ่งความรู้ทางด้านเทคโนโลยี (Technology Know-How) สำหรับการผลิตสินค้าและบริการด้วย
ระดับของการถ่ยทอดเทคโนโลยี
การถ่ายทอดเทคโนโลยี อาจแบ่งได้ 4 ระดับ ดังนี้
ระดับที่ 1 เป็นการโยกย้ายทางภูมิศาสตร์ของเทคโนโลยี เช่น
การเคลื่อนย้ายโรงงานและเครื่องจักรจากภูมิศาสตร์หนึ่งไปยังอีกภูมิศาสตร์หนึ่ง ความหมายเช่นนี้ ผู้ขายเทคโนโลยีและนักวิชาการในประเทศพัฒนาแล้วนิยมใช้กันมาก ต่อมาเห็นว่า ความหมายนี้ไม่ยังครอบคลุม และควรเรียกการถ่ายทอดเทคโนโลยีในระดับนี้ว่า “การนำเข้าเทคโนโลยี”
ภาพ การนำเข้าเครื่องจักรจากนอกประเทศ |
ระดับที่ 2 การถ่ายทอดเทคโนโลยีเสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อผู้รับสามารถดำเนินการผลิตบำรุงรักษาแกละเปลี่ยนแผนการผลิต โดยมิต้องอาศัยผู้ให้อีกต่อไป
ภาพ ผู้รับการถ่ายทอด นำเทคโนโลยีไปใช้ |
ระดับที่ 3 เป็นระยะที่เทคโนโลยีซึ่งได้รับจากระดับที่ 2 ส่งผ่านหรือกระจาย (diffuse) ความรู้ดังกล่าวภายในสังคม อาจเป็นการกระจายโดยไม่เจตนาของผู้รับและผู้ให้ก็ได้
ระดับที่ 4 การถ่ายทอดในระยะนี้จะสมบูรณ์ เมื่อผู้รับเทคโนโลยีทั้งโดยตรงและทางอ้อม สามารถสร้างเทคโนโลยีชนิดหนึ่งขึ้นได้ใหม่ โดยไม่ต้องอาศัยผู้ถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมทั้งสามารถดัดแปลง แก้ไขเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมมากขึ้น
อย่างไรก็ดี การถ่ายทอดเทคโนโลยีทั่วไป หมายถึง การเคลื่อนย้ายวิทยาการหรือความรู้ความสามารถจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง อีกนัยหนึ่ง คือ การถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างประเทศ( Technology Transfer) ในระยะหลังให้ความสำคัญการถ่ายทอดเทคโนโลยีภายในประเทศ และภายในองค์การด้วย
สาเหตุการถ่ายทอดเทคโนโลยี
สาเหตุการถ่ายทอดเทคโนโลียีระหว่างประเทศ มี 3 ประการ คือ
ก. ผู้ซื้อต้องการใช้เทคโนโลยีนั้น
ข. ไม่มีเทคโนโลยีในประเทศนั้น
ค. ผู้ซื้อเชื่อว่าเทคโนโลยีในประเทศมีราคาสูงกว่าต่างประเทศ
ก.
ผู้ซื้อต้องการใช้เทคโนโลยีนั้น
ผู้ซื้อมีความเขื่อว่า จะได้รับประโยชน์และบรรลุวัตถุประสงค์ โดยการนำเข้าเทคโนโลยี จากต่างประเทศ แต่เทคโนโลยีนั้นต้องสอดคล้องกับนโยบายหรือวัตถุประสงค์ของรัฐและเอกชน โดยเอกชนต้องให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าวมากกว่าราคาของเทคโนโลยี
ข. ไม่มีเทคโนโลยีในประเทศนั้น
เนื่องจากค่านิยมที่เขื่อว่าสินค้าจากต่างประเทศดีกว่าสินค้าภายในประเทศ ทำให้การผลิตภายในประเทศต้องตอบสนองความต้องการของตลาด และการเลียนแบบของผู้บริโภค การดำรงชีวิตจึงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมสิ่งทอ เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้รับมีความรู้ไม่เพียงพอที่จะรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีนั้น เป็นเหตุให้ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศต่อไป
ค.
ผู้ซื้อเชื่อว่าเทคโนโลยีในประเทศมีราคาสูงกว่าต่างประเทศ
เพื่อให้การลงทุนการผลิตมีมูลค่าต่ำลง ทำให้ผู้ซื้อเทคโนโลยีบางรายเชื่อว่า เทคโนโลยีบรรษัทข้ามชาติมีราคาต่ำกว่า และหากคำนึงถึงระดับการพัฒนาเทคโนโลยีด้วย ทำให้ผู้ซื้อยินดีรับเทคโนโลยีจากต่างประเทศมากกว่าในประเทศ
ภาพ บริษัทร่วมทุนนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ |
นอกจากเงื่อนไขดังกล่าว การถ่ายทอดเทคโนโลยีอาจเกิดจากการเป็นบริษัทร่วมทุน ซึ่งผู้ร่วมทุนในประเทศถูกบังคับกรนำเข้าเทคโนโลยีอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
การได้มาซึ่งเทคโนโลยี
การถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นการตกลงทางการค้าระหว่างผู้จัดส่งและผู้รับ ซึ่งการได้มาซึ่งเทคโนโลยี มี 5 แนวทางด้วยกัน ดังนี้
1) การกระจายอย่างเสรีในรูปของข้อมูลข่าวสาร
การถ่ายทอดเทคโนโลยีลักษณะนี้ เกี่ยวกับความรู้เรื่องการประดิษฐ์ หรือวิธีการผลิต ผลิตภัณฑ์เป็นรูปแบบของการถ่ายทอดเทคโนโลยีอย่างไม่เป็นทางการ
มักเป็นเทคโนโลยีแบบง่าย ๆ และไม่ซับซ้อน แหล่งข้อมูลเหล่านี้ ได้แก่ หนังสือ วีดิทัศน์ รายการโทรทัศน์ การกระจายเทคโนโลยีแบบนี้อาจนำไปใช้ได้ แต่ไม่ตรงกับความมุ่งหมาย
ภาพ การถ่ายทอดเทคโนโลยีผ่านทางอินเทอร์เน็ต |
2) การกระจายผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์บางชนิดจำเป็นต้องมีคู่มือประกอบการใช้ เช่น เครื่องตัดหญ้า คอมพิวเตอร์ ผู้ผลิตจะให้คู่มือการใช้พร้อมกับวิธีการบำรุงรักษา เมื่อเครื่องเสียต้องนำไปให้ช่างซ่อม ช่างจึงมีโอกาสศึกษาวิธีการต่าง ๆ ทำให้ช่างเรียนรู้ส่วนประกอบของเครื่อง และสามารถผลิตเครื่องใหม่ได้ ถ้าหากช่างเกิดความชำนาญ
รอบรู้แสดงว่ามีการถ่ายทอดเทคโนโลยีมากับผลิตภัณฑ์
ภาพ การถ่ายทอดเทคโนโลยีที่มาผลิตภัณฑ์ |
3) การกระจายไปด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลหรือผู้สนับสนุนอื่น
ส่วนใหญ่รัฐบาลของประเทศพัฒนาแล้ว จะเสนอเทคโนโลยีกับประเทศที่กำลังพัฒนาด้านสุขภาพ การเกษตร และกระบวนการการผลิตอาหาร แต่ไม่เสนอกระบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรมที่ทันสมัย
4)
การกระจายไปกับสัญญาทางการค้ากับส่วนประกอบทางเทคโนโลยี
สัญญาหรือข้อตกลงที่เขียนเป็นชุดเพื่อใช้ควบคุมงาน เช่น ข้อตกลงทางวิศวกรรมโยธา ข้อตกลงการซื้อเครื่องจักร เครื่องกำเนิดไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้าและอื่น ๆ มักมีข้อบังคับให้วิศวกรเป็นที่ปรึกษาโครงการ แต่การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ผู้รับถึงขึ้นเกิดความขำนาญและรอบรู้มีน้อยมาก
5)
การกระจายไปทางสัญญาการได้มาซึ่งเทคโนโลยีเพื่อการค้า
การถ่ายเทคโนโลยีกระทำโดยผ่านสัญญา โดยครอบคลุมถึงระบบเอกสาร การฝึกอบรม และความช่วยเหลือทางเทคนิค
ขั้นตอนของกระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยี มีดังนี้
ก. การวิเคราะห์และวางแผน
การถ่ายทอดเทคโนโลยีมีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ ผู้ที่ต้องการเทคโนโลยี(ผู้รับ) ผู้มีเทคโนโลยี(ผู้ให้) และตัวเทคโนโลยี ผู้รับเทคโนโลยีต้องพิจารณาจุดอ่อนของตนและพร้อมจะรับเทคโนโลยีนั้นหรือไม่ ต้องวิเคราะห์ข้อได้เปรียบเสียเปรียบและวิเคราะห์เชิงเทคนิคด้วย
ข. การเสาะแสวงหาเทคโนโลยี
วิธีการค้นหาเทคโนโลยีสามารถทำได้หลายทาง
เช่น การค้นหาอย่างไม่เป็นทางการ งานจัดแสดงสินค้า สื่อหรือสิ่งพิมพ์ ปรึกษา ตัวแทนระหว่างประเทศ ค้นหาจากการบริการข้อมูลของรัฐบาลและผู้แข่งขัน
ภาพ เทคโนโลยีบางส่วนได้จากการจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการ |
ค.การประเมินเทคโนโลยี
ผู้รับเทคโนโลยีต้องประเมินด้วยการวิเคราะห์ตนเองและวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยใช้คำถามต่าง ๆ เช่น ประเทศต้องการเทคโนโลยีนั้นหรือไม่ ใช้ได้หรือไม่ สิ่งสุดท้ายของการประเมิน คือ การตัดสินใจจัดหาเทคโนโลยีในที่สุด
ง.
การต่อรองเงื่อนไขในสัญญา
เมื่อผู้รับเทคโนโลยีตัดสินใจรับเทคโนโลยีจากผู้ขาย ก่อนตกลงทำสัญญามักมีการเจรจาต่อรองเงื่อนไข เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
จ. การเขียนสัญญาอย่างเป็นทางการ
การเขียนสัญญาอย่างเป็นทางการเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการรับเทคโนโลยีจากผู้ให้โดยการทำสัญญาเพื่อให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีสำหรับการค้า
การเลือกใช้เทคโนโลยี ในระดับประเทศหรือผู้ประกอบการ ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
การประเมินเทคโนโลยี มีหลักเกณฑ์ที่แบบควรปฏิบัติดังนี้ |