คัดมาเน้น ๆ 10 รถประหยัดน้ำมัน 2022 ที่มีค่าเฉลี่ยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และเบนซิน
เพราะปัจจัยในการเลือกรถยนต์ของคนเรามีความแตกต่างกัน บางคนมีสมาชิกในบ้านเยอะ ก็อาจมองหา รถครอบครัว ส่วนบางคนอาจอยากได้รถที่ขับแล้วเสริมบารมีทำให้ดูดีสมฐานะก็อาจโฟกัสไปที่ รถหรู ส่วนวันนี้ใครที่กำลังอยากได้ รถประหยัดน้ำมัน หรือรถที่มีอัตราบริโภคน้ำมันที่น้อย เหมาะกับยุคเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพง เราได้รวบรวมมาฝากเพื่อน ๆ กันแล้ว
ข้อความรู้ก่อนซื้อรถคันใหม่
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถใหม่ จะมีวิธีการเลือกหรือตัดสินใจอย่างไร เพื่อให้ได้รถที่เหมาะกับตัวเองและการใช้งานมากที่สุด มาดูกันเลย !
เลือกประเภทรถจากการใช้งาน คุณควรพิจารณาก่อนว่าจะนำรถไปใช้งานแบบไหน เพราะปัจจุบันรถยนต์มีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถ Eco Car ขนาดเล็ก รถเก๋ง ปิกอัพ หรือรถอเนกประสงค์ เช่น ถ้าใช้งานคนเดียวและใช้งานในเมืองเป็นหลักก็ควรเลือกรถที่ประหยัดอย่าง Eco Car หรือรถขนาดเล็ก แต่ถ้าต้องการซื้อรถมาใช้ภายในครอบครัว ถ้าเป็นครอบครัวขนาดเล็ก มีสมาชิก 2-3 คน ก็เลือกรถยนต์เก๋งซีดานหรือรถแฮตช์แบ็กแบบ 5 ประตู แต่ถ้ามีสมาชิกมากกว่า 5-7 คนขึ้นไป ก็ต้องเป็นรถครอบครัว ซึ่งจะมีทั้งในรูปแบบ SUV, MPV หรือ Mini Van
ตรวจสอบรายได้ของตนเอง ควรตรวจเช็กรายรับและรายจ่ายของตนเองว่าเพียงพอต่อค่าผ่อนรถหรือไม่ โดยค่าผ่อนรายเดือนไม่ควรเกิน 20-30% ของรายได้ เนื่องจากการซื้อรถใหม่ยังมีค่าใช้จ่ายรายเดือนและรายปีอื่น ๆ อีกด้วย
ตรวจสอบข้อมูลและรุ่นรถที่ต้องการให้ดี หลังจากตรวจสอบงบประมาณว่าพอสำหรับค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว ให้มาเช็กรายละเอียดดูว่ามีรถยี่ห้อไหน หรือรุ่นไหนบ้าง แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน ให้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด
- ต้องได้จับและทดลองขับก่อนซื้อ หลังจากที่ได้บทสรุปแล้วว่าต้องการรถรุ่นนี้ ควรต้องได้สัมผัสกับรถคนจริง พร้อมตรวจสอบดูว่ามีออปชั่นและสมรรถนะตรงตามความต้องการของเราหรือไม่ และที่สำคัญต้องได้ทดสอบลองขับขี่จริง
รถประหยัดน้ำมันปี 2022 รุ่นไหนน่าใช้
1. Haval Jolion Hybrid
เปิดประเดิมรถยนต์ประหยัดน้ำมันในปี 2022 กันด้วยยนตกรรมน้องใหม่จากประเทศจีน Haval Jolion Hybrid รถอเนกประสงค์ขนาดเล็กพิกัด B-SUV ที่พ่วงด้วยขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตร สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม GWM LEMON ที่เป็นแบบเดียวกับตัว Haval H6 ในด้านขุมพลังเป็นแบบไฮบริด ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ DHT ไปยังคู่ล้อหน้า โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 23.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีระบบขับขี่ทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ Standard, Sport, ECO และ Rain
ราคาจำหน่าย
Haval Jolion รุ่น TECH ราคา 879,000 บาท
Haval Jolion รุ่น PRO ราคา 939,000 บาท
Haval Jolion รุ่น ULTRA ราคา 999,000 บาท
ภาพจาก : gwm.co.th
2. MG HS PHEV
คันต่อมาเป็นเอสยูวีขุมพลังแบบปลั๊กอินไฮบริดระดับเรือธงจาก MG อย่างในรุ่น MG HS PHEV ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดที่ทาง MG เคลมไว้ว่ามีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 65 กิโลเมตร/ลิตร จากเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 120 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตัเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้กำลังรวมสูงสุด 284 แรงม้า 480 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 16.6 kWh เมื่อวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนจะให้ระยะทางไกลสุด 67 กม.
ราคาจำหน่าย
- MG HS PHEV รุ่น D ราคา 1,299,000 บาท
- MG HS PHEV รุ่น X ราคา 1,379,000 บาท
ภาพจาก : mgcars.com
3. Honda HR-V e:HEV
Honda HR-V e:HEV รถครอสโอเวอร์ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่หมดรอบคันจากรุ่นที่ผ่านมา เป็นแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง มีค่าเฉลี่ยความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทาง Honda เคลมไว้ที่ 25.6 กิโลเมตร/ลิตร จากเครื่องยนต์ฟูลไฮบริด e:HEV 1.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว จะให้กำลังขับเคลื่อน 131 แรงม้า มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ที่ติดตั้งอยู่ใต้พื้นห้องโดยสารด้านหลัง ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ E-CVT
ราคาจำหน่าย
Honda HR-V e:HEV 2021 รุ่น E ราคา 979,000 บาท
Honda HR-V e:HEV 2021 รุ่น EL ราคา 1,079,000 บาท
Honda HR-V e:HEV 2021 รุ่น RS ราคา 1,179,000 บาท
ภาพจาก : honda.co.th
4. Mitsubishi Outlander PHEV
ส่วนคันที่ 4 จะเป็นยนตกรรมเอสยูวีขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด Mitsubishi Outlander PHEV ที่มากับห้องโดยสารขนาดใหญ่สไตล์พรีเมียม เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และมอเตอร์เพลาล้อหน้า-หลัง มอบกำลังรวมสูงสุด 305 แรงม้า กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 13.8 kW ที่วิ่งด้วย โหมด EV ทาง Mitsubishi ประเทศไทยเคลมว่าสามารถทำระยะทางได้ 55 กม. และสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด 135 กม./ชม. ที่สำคัญทาง Mitsubishi ยังเผยว่ารถรุ่นนี้จะประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 52 กิโลเมตร/ลิตร
ราคาจำหน่าย
Mitsubishi Outlander 2.4 PHEV GT 4WD ราคา 1,640,000 บาท
Mitsubishi Outlander2.4 PHEV GT-Premium 4WD ราคา 1,749,000 บาท
ภาพจาก : mitsubishi-motors.co.th
5. Volvo XC60 T8
ขยับมาทางรถเอสยูวีหรูจากยุโรป ที่ขึ้นชื่อในเรื่องพละกำลังและมาพร้อมความประหยัด อย่าง Volvo XC60 T8 รถยนต์ขนาดกลาง ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Geartronic แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 10.4 kWh รวมพละกำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร มีสมรรถนะที่สูง แต่ให้อัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำเพียง 43.5 กิโลเมตร/ลิตร และสามารถขับขี่ด้วย Pure Mode ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวได้ระยะทางไกลถึง 40 กม.
ราคาจำหน่าย
Volvo XC60 T8 D4 AWD Momentum ราคา 3,090,000 บาท
Volvo XC60 T8 Twin Engine AWD Momentum ราคา 3,290,000 บาท
Volvo XC60 T8 XC60 Recharge T8 AWD R-Design ราคา 3,590,000 บาท
Volvo XC60 T8XC60 Recharge T8 AWD Inscription ราคา 3,690,000 บาท
ภาพจาก : volvocars.com
6. BMW 330e M Sport
ยังคงอยู่กับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด แต่ขยับมาทางด้านรถคอมแพกต์ซีดานจากค่าย BMW อย่าง BMW 330e M Sport ที่มากับเส้นสายคมชัด เสริมด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics ทั้งในส่วนด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลังของตัวรถ ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร Twin Power Turbo ที่ให้กำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 113 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 265 นิวตันเมตร โดยจะให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร มากับฟังก์ชั่น Electric Boost ”XtraBoost ” ช่วยเค้นกำลังสูงสุดเป็น 292 แรงม้า ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 41 กิโลเมตร/ลิตร ในด้านแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออนความจุ 12 kW และวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 60 กม.
ราคาจำหน่าย
BMW 330e M Sport ราคา 2.769 ล้านบาท
ภาพจาก : bmw.co.th
7. Toyota Corolla Cross Hybrid
Toyota Corolla Cross Hybrid ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA-C ร่วมกับ Corolla Altis โฉมปัจจุบัน รวมถึง C-HR ภายนอกได้รับการออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยว แข็งแกร่ง มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 1.8 ลิตร โดยเป็นระบบไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดเจเนอเรชั่นที่ 4 ที่พัฒนาในส่วนแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทนทาน โดยในขุมพลังนี้จะมีความประหยัดน้ำมัน ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ด้วยเครื่องยนต์เบนซินผสานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์ E-CVT และแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮดราย ให้กำลังรวมสูงสุด 122 แรงม้า ซึ่งเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฮบริดที่หลายคนสนใจ
ราคาจำหน่าย
Toyota Corolla Cross Hybrid HEV Smart ราคา 1,019,000 บาท
Toyota Corolla Cross Hybrid HEV Premium ราคา 1,089,000 บาท
Toyota Corolla Cross Hybrid HEV Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท
ภาพจาก : toyota.co.th
8. Mazda2 Hatchback 1.3 XDL Sports
มาถึงรถในรูปแบบ Eco Car ที่มากับขุมพลังดีเซลหนึ่งเดียวของแบรนด์ Mazda นั่นก็คือ Mazda2 Hatchback 1.3 XDL Sports ยังคงได้รับการออกแบบด้วยดีไซน์ภายนอกที่เรียบง่ายแต่สวยงาม มาพร้อมสีใหม่ล่าสุด โดดเด่นในด้านสมรรถนะการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ 4 สูบ 16 วาล์ว 1.5 ลิตร เสริมเทอร์โบ 77 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร โดยให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 26.3 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งให้การประหยัดที่เหนือกว่ารถ Eco Car เครื่องยนต์เบนซิน แถมมีให้เลือกทั้งตัวถังซีดาน และแฮต์แบ็ก
ราคาจำหน่าย
Mazda2 รุ่น XDL/XDL Sports ราคา 799,000 บาท
ภาพจาก : mazda.co.th
9. Mitsubishi Attrage
สำหรับคันที่ 9 ยังคงเป็นในรูปแบบ Eco Car แต่มาในแบบฉบับซีดาน นั่นก็คือ Mitsubishi Attrage ที่มากับดีไซน์สวยสไตล์สปอร์ต ห้องโดยสารกว้าง ขุมพลังเบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร มาพร้อมเทคโนโลยีชิ้นส่วนภายในที่ช่วยสนับสนุนในการทำงานของเครื่องยนต์ได้เต็มประสิทธิภาพ ก่อมลพิษต่ำ อัตราน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ด้านสมรรถนะนั้นให้แรงม้าสูงสุดถึง 78 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร
ราคาจำหน่าย
Mitsubishi Attrage รุ่น ACTIVE MT ราคา 494,000
Mitsubishi Attrage รุ่น ACTIVE AT ราคา 529,000
Mitsubishi Attrage รุ่น Special Edition AT ราคา 543,000
Mitsubishi Attrage รุ่น SMART AT ราคา 584,000
ภาพจาก : mitsubishi-motors.co.th
10. Suzuki Celerio
ปิดท้ายกันด้วย Suzuki Celerio รถซิตี้คาร์ขนาดเล็กที่สุดในตลาเมืองไทย ที่ให้ความคล่องตัวทุกการเดินทาง ดีไซน์ตัวรถออกแบบอย่างเรียบง่าย ด้านหน้าตกแต่งด้วยกระจังหน้าแบบโครเมียม ไฟหน้า-ไฟท้ายแบบฮาโลเจน พร้อมไฟเลี้ยวด้านข้างตัวรถ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้ว ภายในห้องโดยสารกว้างพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านขุมพลังใช้เครื่องยนต์เบนซิน K10B 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 68 แรงม้า ระบบส่งกำลังจะมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ มีอัตราการสิ้นเเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 20 กิโลเมตร/ลิตร
ราคาจำหน่าย
Suzuki Celerio GA/MT ราคา 328,000
Suzuki Celerio GL/CVT ราคา 408,000
Suzuki Celerio GX/CVT ราคา 437,000
ภาพจาก : suzuki.co.th
รถแต่ละคันเรียกได้ว่ามีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่น่าสนใจไม่น้อย ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับการขับขี่และการใช้งานของแต่ละคนด้วย อย่างไรก็ตาม อย่าลืมขับขี่ด้วยความไม่ประมาทนะครับ