ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต
การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ย่อมมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ในทางตรงอาจมีความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันหรือเป็นศัตรูกันก็ได้ ทางอ้อมอาจมีความสัมพันธ์แบบเกี่ยวเนื่องกัน เช่น เสือกับหญ้า โดยเสือไม่กินหญ้า แต่กินสัตว์กินหญ้า เช่น กระต่าย กวาง วัว เป็นต้น
เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ จึงมีการใช้เครื่องหมายต่อไปนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่อาศัยรวมกัน
+ หมายถึง การได้ประโยชน์จากอีกฝ่ายหนึ่ง
- หมายถึง การเสียประโยชน์ให้อีกฝ่ายหนึ่ง
๐ หมายถึง การไม่ได้ประโยชน์แต่ก็ไม่เสียผลประโยชน์
สามารถแบ่งความสัมพันธ์ได้หลายแบบ ดังนี้
1. ภาวะเป็นกลาง (Neutralism ๐ )
เป็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีผลอะไรต่อกัน ต่างฝ่ายต่างไม่ได้รับประโยชน์และไม่เสียประโยชน์ เช่น กวางและนกฮูกที่อาศัยอยู่ในป่า แมงมุมกับกระต่ายอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้า แมงมุมกินแมลงเป็นอาหาร ส่วนกระต่ายกินหญ้าเป็นอาหารจึงไม่มีฝ่ายใดได้หรือเสียประโยชน์ เป็นต้น
2. ภาวะการแข่งขัน (Competition -/-)
ปลาคาร์ฟแย่งกันกินอาหาร
3. ภาวะอะเมนลิซึม (Amenlism ๐/-)
ภาวะที่ฝ่ายหนึ่งไม่ได้รับประโยชน์หรือเสียประโยชน์ แต่อีกฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์ เช่น ต้นไม้ใหญ่บังแสงต้นไม้เล็ก ทำให้ต้นไม้เล็กไม่เจริญขณะที่ต้นไม้ ใหญ่ไม่ได้รับหรือเสียประโยชน์แต่อย่างใด
ในป่านั้นมักจะมีต้นไม้ใหญ่ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะอะเมนลิซึมได้
4. ภาวะการล่าเหยื่อ (Predation +/-)
ความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ล่า (Predator) ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ถูกล่า หรือเหยื่อ เช่น นกกินแมลง งูกินกบ เสือล่ากวางกินเป็นอาหาร
หมาป่าล่าไก่ป่าเป็นอาหาร
5. ภาวะอิงอาศัย หรือภาวะมีการเกื้อกูล (Commensalism +/๐)
ความสัมพันธ์แบบนี้เป็นความสัมพันธ์ที่ได้ประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่เสียประโยชน์แต่อย่างใด
เช่น
เหาฉลามกับปลาฉลาม
เหาฉลามเป็นปลาชนิดหนึ่งที่มีอวัยวะสำหรับดูดเกาะติดปลาฉลาม อาศัยกินเศษอาหารจากปลาฉลาม โดยไม่ได้ดูดเลือดหรือทำอันตรายใดๆ แก่ปลาฉลาม
นกทำรังบนต้นไม้
นกทำรังบนต้นไม้ สัตว์เหล่านี้ได้ที่อยู่อาศัย หลบภัยจากศัตรูธรรมชาติโดยต้นไม้ไม่ได้และไม่เสียประโยชน์อะไร
เฟิร์นกับต้นไม้ใหญ่
ซึ่งเฟิร์นเป็นต้นไม้ใหญ่ที่อาศัยบนต้นไม้อื่น แต่ไม่เบียดเบียนต้นไม้อื่น เพียงแต่อาศัยร่มเงาและความชื้น เพื่อการดำรงชีวิต
6. ภาวะการได้ประโยชน์ร่วมกัน (Protocooperation +/+)
สิ่งมีชีวิต 2 ชนิดได้ประโยชน์ร่วมกันเมื่อมาอยู่ด้วยกันและสามารถแยกจากกันไปดำรงชีวิตตามปกติได้ เช่น ปูเสฉวนกับดอกไม้ทะเล นกเอี้ยงกับควาย แมลงกับดอกไม้ มดดำกับเพลี้ยอ่อน เป็นต้น
มดดำกับเพลี้ยอ่อน
ซึ่งมดดำจะดูดน้ำเลี้ยง (อาหาร) จากเพลี้ยอ่อนทางทวารหนักและคาบเพลี้ยอ่อนไปวางตามที่ต่าง ๆ เพื่อหาแหล่งดูดน้ำเลี้ยงต่อไป ซึ่งทำให้เพลี้ยอ่อนได้แหล่งอาหาร ใหม่ ๆ
นกเอี้ยงบนหลังควาย
นกเอี้ยงที่อาศัยกินแมลงบนผิวหนังควายเป็นอาหาร เนื่องจากความได้ประโยชน์จากการที่นกช่วยลดจำนวนแมลงที่เป็นปรสิตของควาย จัดเป็นความสัมพันธ์แบบการได้ประโยชน์ร่วมกันระหว่างควายกับนกเอี้ยง
7. ภาวะพึ่งพากัน (Mutualism +/+)
เช่น
ต่อไทรกับลูกไทร
ต่อไทรเป็นแมลงชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในดอกไทร มีลักษณะพิเศษที่อัดตัวกันแน่นจนมองคล้ายลูกไทร ภายในลูกไทรมีทั้งดอกตัวเมียดอกตัวผู้ และ ดอกกอลล์(Gall flower) ซึ่งเป็นดอกที่ตัวต่อไทรเข้าไปอาศัยอยู่ ต่อไทรจะทำหน้าที่ผสมเกสรให้โดยบินออกจากลูกหนึ่งไปผสมยังอีกลูกหนึ่ง ทำให้ต้นไทรยังคงสืบพันธุ์ต่อได้ ต่อไทรจะอาศัยในลูกไทรตลอดชีวิตวนเวียน เป็นวัฏจักรตลอดไปเครดิตรูปภาพ: //oknation.nationtv.tv/blog/nakriang/2011/08/28/entry-1
ไลเคน(Lichen)
เป็นสิ่งมีชีวิตสองชนิด คือ รากับสาหร่ายพบตามเปลือกต้นไม้ชนาดใหญ่ การอยู่ร่วมกันนี้ทั้งสาหร่ายและราต่างได้รับประโยชน์ กล่าวคือสาหร่ายสร้างอาหารได้เองแต่ต้องอาศัยความชื้นจากรา ส่วนราก็ได้อาศัยดูดอาหารที่สาหร่ายสร้างขึ้น
8. ภาวะปรสิต (Paratism +/-)
8.1 ปรสิตภายใน (Endoparasite) คือ ปรสิตที่อาศัยอยู่และหา
อาหารอยู่ภายในร่างกายของผู้ถูกอาศัย เช่น พยาธิตัวตืด พยาธิใบไม้ พยาธิตัวกลมเป็นปรสิตภายในของมนุษย์
8.2 ปรสิตภายนอก (Ectoparasite) คือ ปรสิตที่อาศัยและเกาะดินอยู่ภายนอกร่างกายของผู้ถูกอาศัย เช่น เหา ยุง เป็นปรสิตภายนอกของมนุษย์ นอกจากนี้ยังมี กาฝากกับต้นไม้ใหญ่ ซึ่งกาฝากชอนไชรากเข้าไปดูดน้ำเลี้ยงจากต้นไม้ที่อาศัยอยู่ เมื่อกาฝากเติบโตจะแย่งอาหารที่ต้นไม้หามาจนหมด ต้นไม้ใหญ่ก็จะตายลง
เห็บ เป็นปรสิตภายนอกของสุนัขและสัตว์ต่างๆ
กาฝากบนต้นไม้ใหญ่ ซึ่งกาฝากเป็นพืชที่อาศัยบนต้นไม้อื่น โดยชอนไชรากเข้าไปดูดน้ำเลี้ยงจากต้นไม้ที่อาศัยอยู่
9. ภาวะมีการหลั่งสารห้ามการเจริญ (Antibiosis ๐/-)
เป็นภาวะที่สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งหลั่งสารออกมานอกเซลล์ แล้วสารนั้นไปมีผลต่อการ เจริญเติบโต หรือการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่ง เช่น