Google sheets ใน google drive สามารถใช้นามสกุลใดได้

Google Drive คือ บริการพื้นที่เก็บข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต หรือที่เรียกว่าคลาวด์สตอเรจ (cloud storage) ซึ่งทำให้เราสามารถจัดเก็บไฟล์และเข้าถึงไฟล์ได้จากที่ใดก็ได้ เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเท่านั้น และเนื่องจาก Google Drive เป็นของกูเกิล (Google) จึงมีการหลอมรวมกับบริการอื่นๆ อย่าง Google Docs ด้วย ทำให้เราสามารถสร้างเอกสารต่างๆ ผ่าน Google Drive ได้ เช่นเดียวกับ Microsoft Office นอกจากนี้เรายังเพิ่มความสามารถของ Google Drive โดยติดตั้งแอปเพิ่มเติมได้อีกด้วย ถ้าอยากรู้ว่า Google Drive มีวิธีการใช้งานอย่างไร ก็ลองอ่านและทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เลย

ส่วน1

การใช้งานเบื้องต้น

  1. 1

    ลงชื่อเข้าใช้ Google Drive ในหน้าเว็บ Google Drive ด้วยกูเกิลแอคเคาท์ของคุณ. แต่ถ้ายังไม่มีกูเกิลแอคเคาท์ ก็สามารถสร้างแอคเคาท์ใหม่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เมื่อลงชื่อเข้าใช้แล้ว คุณก็จะสามารถจัดเก็บไฟล์ไว้ในคลาวด์ รวมถึงสร้างเอกสารต่างๆ ผ่านหน้าเว็บ Google Drive ได้

  2. 2

    เพิ่มไฟล์เข้าไปยัง Google Drive. การเพิ่มไฟล์มีสองวิธีคือ สร้างไฟล์เอกสารใหม่ใน Google Drive กับอัปโหลดไฟล์จากในคอมพิวเตอร์ โดยการสร้างไฟล์เอกสารใหม่นั้นทำได้โดยคลิกที่ปุ่ม “NEW” หรือ “ใหม่” ส่วนการอัปโหลดไฟล์หรือโฟลเดอร์นั้นทำได้โดยคลิกที่ “NEW” ก่อน แล้วค่อยเลือกอัปโหลดไฟล์หรือโฟลเดอร์

  3. 3

    ปรับเปลี่ยนลักษณะการแสดงผลของไฟล์. คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้ไฟล์ต่างๆ แสดงผลเป็นลิสต์รายการ (List) หรือเป็นไอคอนตาราง (Grid) ถ้าเลือกเป็นลิสต์ มันก็จะระบุด้วยว่าใครเป็นเจ้าของหรือผู้สร้างไฟล์ รวมถึงวันเวลาที่แก้ไขไฟล์ล่าสุด ถ้าเลือกเป็นไอคอน มันจะแสดงภาพพรีวิวหน้าแรกของไฟล์ขึ้นมา คุณสามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้โดยคลิกที่ไอคอนรูปลิสต์หรือหรือตาราง ซึ่งอยู่ในแถบด้านบน

  4. 4

    ใช้แถบด้านซ้ายเพื่อเรียกดูไฟล์ของคุณ.

    • “My Drive” หรือ “ไดร์ฟของฉัน” คือส่วนที่แสดงไฟล์และโฟลเดอร์ที่คุณอัปโหลดเก็บไว้ใน Google Drive ทั้งหมด
    • “Shared with Me” หรือ “แชร์กับฉัน” คือส่วนที่แสดงไฟล์และเอกสารที่คนอื่นแชร์ร่วมกับคุณ
    • “Starred” หรือ “ติดดาวไว้” คือส่วนที่แสดงไฟล์ที่คุณติดดาวไว้เพื่อบ่งบอกว่าเป็นไฟล์ที่สำคัญ
    • “Recent” หรือ “ล่าสุด” คือส่วนที่แสดงไฟล์ที่คุณแก้ไขล่าสุด
    • คุณสามารถลากไฟล์หรือโฟลเดอร์มาวางไว้ในส่วนใดก็ได้ใน Google Drive เพื่อจัดระเบียบหรือแบ่งหมวดหมู่ตามต้องการ
    • ติ๊กถูกตรงไฟล์หรือโฟลเดอร์เพื่อเลือก คุณสามารถใช้คำสั่งใดก็ได้ในแถบด้านบนกับไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ถูกเลือก (คลิกไอคอนที่เป็นรูปจุดสามจุดเพื่อแสดงคำสั่งเพิ่มเติมได้) ทั้งนี้ถ้าคุณแสดงไฟล์เป็นแบบไอคอนตาราง กล่องที่ใช้ติ๊กถูกจะถูกซ่อนไว้ แต่มันแสดงขึ้นมาเมื่อคุณวางเมาส์ไว้บนไอคอนดังกล่าว (ปัจจุบันฟีเจอร์ติ๊กถูกเพื่อเลือกไฟล์ถูกตัดออกไปแล้ว แต่คุณก็ยังสามารถเลือกไฟล์ได้โดยกดปุ่ม “Ctrl” ค้างไว้แล้วเลือกไฟล์ เหมือนเลือกไฟล์ในคอมพิวเตอร์)
    • คุณสามารถสร้างโฟลเดอร์ใหม่ได้โดยคลิกที่ “NEW” แล้วเลือก “Folder” หรือ “โฟลเดอร์” นอกจากนี้คุณยังสามารถสร้างโฟลเดอร์ย่อยในโฟลเดอร์หลักได้ด้วย

  5. 5

    ค้นหาไฟล์. คุณสามารถค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่อยู่ใน Google Drive ได้โดยใช้เสิร์ชบาร์ซึ่งอยู่ด้านบนสุดของหน้าเว็บ โดยค้นหาได้ทั้งชื่อไฟล์ เนื้อหาในไฟล์ และเจ้าของผู้สร้างไฟล์ ถ้าข้อความที่คุณพิมพ์ตรงกับชื่อไฟล์ใด ไฟล์นั้นก็จะขึ้นมาข้างใต้เสิร์ชบาร์ทันที ซึ่งทำให้คุณค้นหาและคลิกเลือกได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

  6. 6

    ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปในอุปกรณ์ต่างๆ. คุณสามารถดาวน์โหลดแอป “Google Drive” ได้จากใน App Store และ Google Play Store โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ โดยแอปนี้ติดตั้งได้ทั้งมือถือและแท็บเล็ต ไม่ว่าจะเป็นระบบ Android หรือ iOS เมื่อติดตั้งแล้ว คุณก็จะสามารถเข้าถึงไฟล์ต่างๆ ได้จากในมือถือหรือแท็บเล็ตของคุณ อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ต่างๆ ในแอปจะน้อยกว่าในเวอร์ชันเว็บ ถึงกระนั้นก็เพียงพอสำหรับการใช้งาน

ส่วน2

การใช้งานเอกสาร

  1. 1

    คลิกที่ปุ่ม “NEW”. เมื่อคลิกแล้วก็จะมีเมนูปรากฏขึ้นมาให้คุณเลือกว่าจะสร้างเอกสารประเภทใด โดยแอปสร้างเอกสารที่มีให้นั้นจะเป็นบริการของกูเกิล เช่น Google Docs และ Google Sheet เป็นต้น แต่คุณก็สามารถใช้แอปอื่นในการสร้างเอกสารได้ โดยคลิกที่ “Connect more app” หรือ “เชื่อมต่อแอปเพิ่มเติม” เพื่อเลือกแอปอื่นที่ไม่ใช่ของกูเกิล เมนูคำสั่งหลักๆ ในปุ่ม “NEW” มีดังนี้

    • “Folder” หรือ “โฟลเดอร์” ใช้สร้างโฟลเดอร์เพื่อจัดระเบียบไฟล์ใน “My Drive”
    • “Upload File” หรือ “อัปโหลดไฟล์” ใช้อัปโหลดไฟล์ในคอมพิวเตอร์มาไว้ใน Google Drive
    • “Upload Folder” หรือ “อัปโหลดโฟลเดอร์” ใช้อัปโหลดโฟลเดอร์ในคอมพิวเตอร์มาไว้ใน Google Drive
    • “Google Docs” หรือ “Google เอกสาร” ใช้สร้างเอกสารคล้ายกับ Microsoft Word โดยนอกจากจะใช้พิมพ์งานแล้ว คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนฟอร์แมตและการตั้งค่าหน้ากระดาษได้ผ่านเครื่องมือต่างๆ ในแถบเมนูด้านบน นอกจากนี้ยังสามารถเอ็กซ์พอร์ต (export) ไฟล์เป็น Microsoft Word, OpenOffice, PDF รวมถึงฟอร์แมตอื่นๆ ได้อีกด้วย
    • “Google Sheets” หรือ “Google ชีต” ใช้สร้างสเปรดชีต (spreadsheet) คล้ายกับ Microsoft Excel ซึ่งนอกจากใช้สร้างสเปรดชีตแล้ว ยังสามารถเอ็กซ์พอร์ตเป็น Microsoft Excel, OpenOffice, PDF, CSV รวมถึงฟอร์แมตอื่นๆ ได้อีกด้วย
    • “Google Slides” หรือ “Google สไลด์” ใช้สร้างงานนำเสนอคล้ายกับ Microsoft PowerPoint ซึ่งนอกจากใช้สร้างสไลด์แล้ว ยังสามารถเอ็กซ์พอร์ตเป็น Microsoft PowerPoint, PDF, JPG รวมถึงฟอร์แมตอื่นๆ ได้อีกด้วย
    • “Google Form” หรือ “Google ฟอร์ม” ใช้สร้างแบบฟอร์มที่ใช้กรอกออนไลน์ได้ ซึ่งสามารถเอ็กซ์พอร์ตเป็นไฟล์ CSV ได้ด้วย

  2. 2

    สร้างไฟล์ใหม่. เมื่อคุณคลิกสร้างเอกสารประเภทใดก็ตาม หน้าเอกสารนั้นก็จะปรากฏขึ้นมาเป็นหน้าว่างๆ แต่ถ้าคุณเลือก “Google Slides” หรือ “Google Form” มันก็จะมีตัวช่วยในการสร้างเอกสาร ซึ่งช่วยกำหนดรูปแบบหรือธีมขึ้นมาให้ด้วย

  3. 3

    ตั้งชื่อไฟล์. คุณสามารถตั้งชื่อไฟล์ได้โดยคลิกที่ข้อความ “Untitled <ประเภทเอกสาร>” หรือ “<ประเภทเอกสาร> ไม่มีชื่อ” เป็นข้อความที่ใช้ตัวเอียงและมีสีเทา ซึ่งอยู่ด้านบนของหน้าเอกสาร เมื่อคลิกแล้วก็จะมีเคอร์เซอร์ขึ้นมา ให้คุณลบข้อความดังกล่าวแล้วเปลี่ยนชื่อได้เลย

  4. 4

    แก้ไขเอกสารของคุณ. คุณสามารถพิมพ์และแก้ไขเอกสารได้ตามต้องการ โดยแอปที่ใช้สร้างเอกสารต่างๆ ก็มีฟีเจอร์เพียงพอกับการใช้งานเบื้องต้น ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับคนที่ต้องใช้คำสั่งหรือฟีเจอร์ที่ซับซ้อน

    • เอกสารของคุณจะถูกเซฟโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการแก้ไข

  5. 5

    เอ็กซ์พอร์ตและแปลงไฟล์. ถ้าคุณต้องการให้ไฟล์ที่สร้างขึ้นไปเปิดหรือใช้งานกับโปรแกรมอื่นได้ ให้คุณคลิกที่ “File” หรือ “ไฟล์” ในแถบเมนู แล้วเลือก “Download As” หรือ “ดาวน์โหลดเป็น” เสร็จแล้วก็จะมีเมนูขึ้นมาให้เลือกว่าจะดาวน์โหลดเป็นไฟล์ประเภทใด เมื่อคุณเลือกได้แล้ว ก็อาจจะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาให้ตั้งชื่อไฟล์และกำหนดตำแหน่งที่จะเก็บไฟล์ไว้ สุดท้ายไฟล์นั้นก็จะถูกดาวน์โหลดพร้อมทั้งแปลงเป็นประเภทไฟล์ที่คุณต้องการ

  6. 6

    แชร์เอกสารของคุณ. คุณสามารถแชร์เอกสารได้โดยคลิกที่ “File” แล้วเลือก “Share...” หรือ “แชร์...” หรือไม่ก็คลิกที่ปุ่มแชร์ซึ่งอยู่มุมบนขวา เพื่อเปิดหน้าต่างที่ตั้งค่ารูปแบบการแชร์ คุณสามารถเลือกแชร์แบบให้ดูไฟล์เพียงอย่างเดียว หรือแบบแก้ไขไฟล์ด้วยก็ได้ โดยกรอกชื่อคนที่ต้องการแชร์ลงไป

    • คุณสามารถแชร์ลิงก์ของไฟล์ไปให้คนที่ต้องการแชร์ได้ และสามารถแชร์ผ่านทาง Gmail, Google+, Facebook และ Twitter ได้ด้วย โดยคลิกที่ “Advance” หรือ “ขั้นสูง” แล้วกดไอคอนของเว็บที่ต้องการ
    • คุณสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเข้าถึงไฟล์ที่ถูกแชร์ได้โดยคลิกที่ “Change…” หรือ “เปลี่ยน...” ซึ่งโดยปกติมันจะตั้งให้เอกสารที่คุณสร้างขึ้นเป็นไฟล์ส่วนตัว คุณเข้าถึงได้เพียงคนเดียว แต่ถ้าอยากให้คนอื่นเข้าถึงไฟล์นี้ด้วยก็ต้องเชิญเขาเข้ามาใช้ไฟล์ร่วมกัน โดยกรอกชื่อหรืออีเมลคนนั้นลงไป คุณสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเข้าถึงไฟล์ได้ เช่น ให้คนที่มีลิงก์เท่านั้นที่จะเปิดดูไฟล์ได้ หรือเปิดเป็นไฟล์สาธารณะซึ่งทุกคนสามารถเสิร์ชหาได้ในอินเทอร์เน็ต
    • คุณสามารถให้คนอื่นเข้ามาแก้ไขเอกสารที่คุณสร้างได้ โดยกรอกชื่อหรืออีเมลของเขาลงในส่วนของ “Invite people” หรือ “เชิญคนอื่น” ซึ่งคนที่เชิญเข้ามานั้นต้องลงชื่อเข้าใช้ Google Drive ก่อนถึงจะเข้าถึงและแก้ไขเอกสารดังกล่าวได้
    • คุณสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเข้าถึงไฟล์ของคนที่ถูกเชิญได้โดยคลิกที่ลิงก์ซึ่งอยู่ด้านหลังชื่อของเขา ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะให้แก้ไข หรือแสดงความเห็น หรือดูได้เพียงอย่างเดียว

  7. 7

    เผยแพร่ (publish) เอกสาร. คุณสามารถเผยแพร่เอกสารได้โดยคลิกที่ “File” แล้วเลือก “Publish to the web...” หรือ “เผยแพร่ทางเว็บ...” เมื่อคุณกดเผยแพร่แล้ว เอกสารดังกล่าวก็จะถูกก็อปปี โดยตัวก็อปปีนี้จะกลายเป็นหน้าเว็บต่างหาก ไม่เชื่อมโยงกับเอกสารต้นฉบับ เพื่อให้คุณแชร์เอกสารดังกล่าวไปให้ใครก็ตามที่คุณต้องการ โดยไม่ต้องตั้งค่าการแชร์ใดๆ[1]

    • เอกสารที่ถูกเผยแพร่นี้จะไม่สามารถแก้ไขได้ แต่คุณก็ยังสามารถแก้ไขในเอกสารต้นฉบับที่อยู่ใน Google Drive ได้เหมือนเดิม

  8. 8

    ปริ๊นเอกสาร. ถ้าคุณติดตั้งปริ๊นเตอร์หรือเชื่อมต่อกับ Google Cloud Print เรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถปริ๊นเอกสารของคุณได้เลย โดยคลิกที่ “File” บนแถบเมนู แล้วเลือก “Print” หรือ “พิมพ์” ซึ่งอยู่ด้านล่างสุดของลิสต์ที่ขึ้นมา

    • เมื่อคลิกที่ “Print” หน้าตั้งค่าการปริ๊นก็จะเปิดขึ้นมา พร้อมกับหน้าพรีวิวหรือตัวอย่างการปริ๊น คุณสามารถเลือกเครื่องปริ๊นได้ โดยคลิกที่ “Change...” ซึ่งถ้าคุณใช้ Google Cloud Print คุณก็จะสั่งปริ๊นที่ไหนก็ได้ แม้จะอยู่นอกบ้านก็ตาม
    • นอกจากนี้ คุณยังสามารถระบุได้ว่าจะปริ๊นหน้าไหน เลือกได้ว่าจะตั้งค่าหน้ากระดาษอย่างไร ฯลฯ เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วให้คลิก “ปริ๊น” เพื่อทำการปริ๊นเอกสาร

  9. 9

    กลับไปยังเอกสารเวอร์ชันก่อนหน้า. ถ้าคุณแก้ไขเอกสารไปเรื่อยๆ แล้วไม่พอใจ ต้องการกลับไปยังเวอร์ชันก่อนแก้ไข คุณต้องใช้คำสั่ง “ดูประวัติการแก้ไข” เพื่อกลับไปเวอร์ชันเก่า ซึ่งทำได้โดยเปิดหน้าเอกสาร คลิกที่ “File” บนแถบเมนู แล้วเลือก “See revision history” หรือ “ดูประวัติการแก้ไข” จากนั้นหน้าที่แสดงประวัติการแก้ไขก็จะเปิดขึ้นมาทางด้านขวา ซึ่งคุณสามารถเรียกดูเพื่อกลับไปยังเวอร์ชันเก่าได้[2]

    • เมื่อคุณคลิกประวัติการแก้ไขของแต่ละช่วงเวลา หน้าเอกสารที่ถูกแก้ไขในช่วงนั้นก็จะเปิดขึ้นมาทางด้านซ้าย
    • เมื่อคุณเลือกได้แล้วว่าจะกลับไปยังเอกสารเวอร์ชันไหน ให้คลิกที่ “Restore this revision” หรือ “คืนค่ารุ่นนี้” ซึ่งเป็นลิงก์สีฟ้าข้างใต้ประวัติการแก้ไขที่เลือก

ส่วน3

การจัดการไฟล์

  1. 1

    การติดตั้งโปรแกรม “Google Drive” สำหรับการใช้งานบนคอมพิวเตอร์. ดาวน์โหลดโปรแกรม “Google Drive” โดยคลิกที่ “Get Drive for PC” หรือ “ดาวน์โหลดไดรฟ์สำหรับ PC” ในหน้าเว็บ Google Drive เมื่อคลิกแล้วหน้าเว็บที่ใช้ดาวน์โหลดก็จะเปิดขึ้นมา ให้คุณคลิกโหลดได้เลย โปรแกรมนี้จะช่วยให้คุณจัดการไฟล์ที่อยู่ใน Google Drive ง่ายขึ้น เหมือนกับจัดการไฟล์ในคอมพิวเตอร์ (แต่ถ้าคุณต้องการใช้ Google Drive ผ่านหน้าเว็บอย่างเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องโหลดก็ได้)

    • เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้ทำการติดตั้งและลงชื่อเข้าใช้ด้วยกูเกิลแอคเคาท์ จากนั้นโฟลเดอร์ “Google Drive” ก็จะปรากฏบนหน้าเดสก์ท็อป ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงไฟล์ที่อยู่ใน Google Drive ได้จากโฟลเดอร์นี้
    • ลากหรือก็อปปีไฟล์ใดก็ได้ที่คุณต้องการอัปโหลดไปวางไว้ในโฟลเดอร์ “Google Drive” จากนั้นมันก็จะอัปโหลดไปยัง Google Drive อัตโนมัติ เมื่ออัปโหลดเสร็จเรียบร้อย เครื่องหมายถูกสีเขียวก็จะปรากฏอยู่บนไฟล์ดังกล่าว

  2. 2

    การแปลงไฟล์ที่อัปโหลด. คุณสามารถแปลงไฟล์เอกสารที่อัปโหลดไปยัง Google Drive ให้เป็นไฟล์ที่เปิดด้วย Google Docs ได้ ซึ่งทำได้โดยคลิกที่ไอคอนรูปฟันเฟืองซึ่งอยู่มุมบนขวาของหน้าเว็บ Google Drive แล้วเลือก “Settings” หรือ “การตั้งค่า” จากนั้นติ๊กถูกตรงที่ “Convert uploads” หรือ “แปลงไฟล์ที่อัปโหลด” เสร็จแล้วมันก็จะแปลงไฟล์เอกสารที่อัปโหลดให้อัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอัปโหลดไฟล์ Word หรือ Excel ไปยัง Google Drive มันก็จะแปลงเป็นไฟล์ Docs หรือ Sheet ให้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถแปลงไฟล์ PDF เป็นไฟล์เท็กซ์ที่แก้ไขได้ด้วย

    • ให้คุณติ๊กถูกตรง “Convert uploads” ถ้าคุณต้องการแปลงไฟล์อัตโนมัติ และต้องการแปลงไฟล์ทุกครั้งที่อัปโหลดไฟล์เอกสาร
    • เว็บ Google Drive เวอร์ชันปัจจุบันสามารถเปิดไฟล์เอกสาร เช่น Word หรือ Excel ได้โดยไม่ต้องแปลงไฟล์ ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถแก้ไขเอกสารดังกล่าวในเว็บได้ จนกว่าคุณจะแปลงไฟล์ หรือดาวน์โหลดมาแก้ไขในคอมพิวเตอร์ที่มีโปรแกรมรองรับไฟล์ดังกล่าว

  3. 3

    การอัปโหลดไฟล์และโฟลเดอร์. คลิกที่ “NEW” แล้วเลือก “File upload” หรือ “อัปโหลดไฟล์” ไม่ก็ “Folder upload” หรือ “อัปโหลดโฟลเดอร์” จากนั้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการอัปโหลด แล้วกดปุ่ม “Open” เสร็จแล้วหน้าต่างที่แสดงความคืบหน้าของการอัปโหลดก็จะขึ้นมา โดยมันจะอัปโหลดตามการตั้งค่าที่คุณกำหนดไว้

    • สำหรับผู้ใช้ที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย Google Drive จะให้พื้นที่เก็บไฟล์ฟรี 15 GB โดยเป็นพื้นที่ที่รวมพื้นที่ใน Gmail และ Google Photos เข้าไปด้วยแล้ว ส่วนเอกสารที่สร้างผ่าน Google Drive เช่น Google Docs จะไม่นับรวมเป็นพื้นที่ใช้งาน ทั้งนี้คุณสามารถตรวจสอบพื้นที่ใช้งานได้ทางด้านล่างซ้ายของหน้าเว็บ Google Drive
    • ไฟล์ต่างๆ ที่ถูกอัปโหลดจะปรากฏอยู่ในส่วนของ “My Drive” ซึ่งคุณสามารถจัดระเบียบไฟล์ได้โดยการลากมันไปวางไว้ในโฟลเดอร์ที่ต้องการ

  4. 4

    การดาวน์โหลดไฟล์ใน Google Drive ลงคอมพิวเตอร์. ถ้าคุณต้องการดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ให้คลิกขวาที่ไฟล์ดังกล่าว แล้วเลือก “Download” หรือ “ดาวน์โหลด” ทั้งนี้คุณสามารถใช้เมาส์ลากคลุมไฟล์หลายไฟล์แล้วคลิกขวาเพื่อเลือก “Download” พร้อมกันได้ด้วย

    • ถ้าคุณดาวน์โหลดไฟล์เอกสารที่สร้างใน Google Drive มันจะแปลงเป็นไฟล์ Microsoft Office ให้อัตโนมัติ หรืออาจจะมีหน้าต่างขึ้นมาถามว่าต้องการแปลงไฟล์เป็นฟอร์แมตใด

  5. 5

    การลบไฟล์ที่ไม่ต้องการ. การลบไฟล์หรือโฟลเดอร์สามารถทำได้โดยคลิกขวาบนไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการลบ แล้วเลือก “Delete” หรือ “ลบ” แต่ถ้าคุณต้องการนำไฟล์ดังกล่าวกลับมา ให้คลิกที่ “Undo” หรือ “เลิกทำ” ซึ่งเป็นลิงก์ที่เด้งขึ้นมาหลังลบไฟล์นั้น หรือไม่ก็เข้าไปในส่วนของ “Trash” หรือ “ถังขยะ” เพื่อกู้ไฟล์คืน

    • จำไว้ว่าเอกสารที่สร้างใน Google Drive จะไม่ถูกนับรวมเป็นพื้นที่ใช้งาน

ส่วน4

การใช้แอปเสริม

  1. 1

    แก้ไขรูปภาพที่คุณอัปโหลดไว้ใน Google Drive. คุณสามารถใช้แอป “Pixlr” ในการแก้ไขรูปภาพที่อัปโหลดไว้ใน Google Drive ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม “NEW” แล้วเลือก “Connect more apps” จากนั้นเสิร์ชหา “Pixlr” ซึ่งเป็นแอปที่เปิดให้ใช้แก้ไขรูปภาพได้ฟรี แล้วติดตั้งลงไป

    • เมื่อติดตั้งแอป “Pixlr” เสร็จ ให้คลิกขวาบนรูปภาพที่ต้องการแก้ไข เลือก “Open with” หรือ “เปิดด้วย” แล้วคลิกที่ “Pixlr” จากนั้นรูปภาพของคุณก็จะเปิดขึ้นมาเป็นแท็บใหม่ผ่านแอป “Pixlr” ซึ่งคุณสามารถแก้ไขได้ตามต้องการ

  2. 2

    ฟังเพลงที่อัปโหลดไว้ใน Google Drive. ถ้าคุณอัปโหลดไฟล์ MP3s เก็บไว้ใน Google Drive คุณจะไม่สามารถเปิดไฟล์ผ่านหน้าเว็บได้ ถ้าไม่ดาวน์โหลดมาไว้ในเครื่องก่อน แต่ถ้าคุณติดตั้งแอปที่ใช้เปิดไฟล์เสียงได้ เช่น “Music Player for Google Drive” คุณก็จะสามารถฟังเพลงผ่านหน้าเว็บได้เลย แอปนี้สามารถดาวน์โหลดได้ใน “Chrome web store” โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

  3. 3

    วาดภาพใน Google Drive. ถ้าคุณต้องการวาดภาพใน Google Drive คุณต้องติดตั้งแอปที่ใช้วาดภาพไว้ เช่น “Google Drawings” (ปกติจะติดตั้งมาใน Google Drive อยู่แล้ว) ซึ่งจะมีภาพเรขาคณิตพื้นฐานต่างๆ ให้วาดและสร้างสรรค์ได้ตามต้องการ คุณสามารถใช้แอปนี้วาดภาพประกอบในเอกสารของคุณ หรือวาดภาพร่วมกับผู้อื่นก็ได้ โดยแชร์ภาพดังกล่าวไปให้วาดร่วมกัน

  4. 4

    รวม (merge) ไฟล์ PDF เป็นไฟล์เดียว. คุณสามารถรวมไฟล์ PDF ผ่านหน้าเว็บ Google Drive ได้ โดยติดตั้งแอปที่ใช้รวมไฟล์ เช่น “PDF Mergy” แล้วลากไฟล์ PDF ที่ต้องการรวมไฟล์มาวางไว้ในแอปดังกล่าว จากนั้นแอปก็จะทำการอัปโหลดไฟล์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ ดำเนินการรวมไฟล์ แล้วแสดงผลออกมาเป็นไฟล์ PDF ที่รวมเป็นไฟล์เดียวเรียบร้อยแล้ว

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ศัพท์ทางทหาร military words แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 พจนานุกรมศัพท์ทหาร ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง ไทยแปลอังกฤษ ประโยค lmyour แปลภาษา การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ประปาไม่ไหล วันนี้ ฝยก. ย่อมาจาก หยน ห่อหมกฮวก แปลว่า เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษาจีน ่้แปลภาษา onet ม3 การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 1 ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง ตตตตลก บบบย ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ เขียน อาหรับ แปลไทย เนื้อเพลง ห่อหมกฮวก แปลไทย asus zenfone 2e กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การประปานครหลวง ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบภาษาอังกฤษ ม.ปลาย พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ชขภใ ชื่อเต็ม ร.9 คําอ่าน ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน นยน. ย่อมาจาก ทหาร บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ฝสธ. ย่อมาจาก มัดหัวใจเจ้าชายเย็นชา 2 ซับไทย มัดหัวใจเจ้าชายเย็นชา 2 เต็มเรื่อง ยศทหารบก เรียงลําดับ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 รัชกาลที่ 10 ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คอร์ด