ปัจจุบันโลกของเรามีการก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี ไอที รวมถึงวิศวกรรมที่มีการพัฒนาเติบโตไปอย่างรวดเร็ว ทำให้สายงานเหล่านี้มีความต้องการอย่างมากในท้องตลาดโลก วันนี้ ALTV ขอพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักสาขาวิชาหนึ่งที่น้อง ๆ หลายคนอาจไม่เคยรู้กับ “เมคคาทรอนิกส์” สู่อาชีพที่สำคัญระดับโลก !
จุดเริ่มต้นของวิชา“เมคคาทรอนิกส์”
ในปี ค.ศ.1970 สาขาวิชาเมคคาทรอนิกส์ เกิดขึ้นครั้งแรกในโลกที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มต้นจาก “Mr.Tetsura Mori” เป็น Senior Engineer ของบริษัท Yaskawa Electric corporation ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เกิดจากการรวมตัวกัน ระหว่างเมคานิกส์ (Mechanic) กับ อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics) ซึ่งเป็นการทำงานของระบบกลไก มาผสมผสานกับไฟฟ้า จึงกลายเป็น เมคคาทรอนิกส์ (Mechatronics) โดยมีการยื่นจดทะเบียนสิทธิบัตรสาขาวิชานี้ และได้รับรองอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1973 เป็นต้นมา
เมคคาทรอนิกส์คืออะไร ?
เป็นอีกหนึ่งวิชาในด้านวิศวกรรมศาสตร์ ประกอบด้วยองค์ความรู้ทั้ง 3 ด้านหลักคือ วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมการควบคุมอัตโนมัติ และศาสตร์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อการออกแบบ และสร้างชิ้นส่วนหรือผลิตภัณฑ์ รวมถึงพัฒนางานในระบบอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เมคคาทรอนิกส์ จะพัฒนาศักยภาพของเครื่องจักรกลโรงงาน จำพวกหุ่นยนต์โรงงาน ระบบอัจฉริยะ ให้มีการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการเรียนนั้นจะเริ่มต้นตั้งแต่ ความรู้พื้นฐานทางด้านวงจรไฟฟ้า การออบแบบวงจรควบคุม การออกแบบเครื่องจักรกลหนักและโครงสร้างของเครื่องจักร และการควบคุมเครื่องจักรกลในโรงงาน เป็นต้น
ค้นหาพรสวรรค์ของตนเองพาไปสู่อาชีพที่ชอบ
ก่อนที่น้อง ๆ จะตัดสินใจเลือกเรียนสาขาใดสาขาหนึ่งให้ตรงถามความถนัดของตนเอง อยากจะชวนทุกคนได้รู้จักตัวเองผ่านแบบทดสอบค้นหาพรสวรรค์ (StrengthsFinder) ซึ่งวิจัยและพัฒนาขึ้นโดยทีมวิจัยที่เชี่ยวชาญเรื่องการพัฒนาคน โดยจำแนกพรสวรรค์ออกเป็น 34 คุณสมบัติ ใน 4 กลุ่ม ดังต่อไปนี้
👉บ้านมือ Executing (การปฏิบัติการ)
สำหรับคนที่ถนัดด้านการจัดการ มีความระเอียด รอบคอบ มีวินัย
- ผู้บรรลุเป้าหมาย (Achiever) เป็นคนที่มีความอดทนสูง ถนัดทำงานหนัก มีความสุขกับการได้ทำสิ่งต่างและสร้างสรรค์ผลงานอยู่เสมอ
- นักจัดการ (Arranger) เป็นคนที่มีไหวพริบ มีความสามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ดี
- ผู้มีความเชื่อ (Belief) มักเป็นคนที่มั่นคงกับสิ่ง ๆ หนึ่ง และมีเป้าหมายในการดำเนินชีวิต
- ผู้มีความยุติธรรม (Consistency) คือคนที่จะปฏิบัติต่อทุกคนบนโลกอย่างเท่าเทียมกัน
- ผู้มีความละเอียดรอบคอบ (Deliberative) เป็นคนที่จริงจังต่อการตัดสินใจ และเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับอุปสรรคอยู่เสมอ
- ผู้มีวินัย (Discipline) เป็นคนที่ชอบในสิ่งที่เป็นรูปธรรมและจับต้องได้อย่างเป็นแบบแผน
- ผู้มีเป้าหมายชัดเจน (Focus) เป็นคนที่กำหนด และติดตามการทำงานจนบรรลุเป้าหมาย คอยประคับประคองให้งานเป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้
- ผู้ที่มีความรับผิดชอบ (Responsibility) คนที่สำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขารับปากว่าจะทำให้
- นักปรับปรุงแก้ไข (Restorative) มีความชำนาญในการจัดการ และแก้ไขปัญหา พร้อมเรียนรู้และทำความเข้าใจในสิ่งที่ทำผิดพลาด
👉บ้านปาก Influencing (การโน้มน้าว)
เหมาะสำหรับคนที่ชอบพูดคุย สื่อสารเก่ง จูงใจเก่ง
- นักริเริ่มทำงาน (Activator) เป็นคนที่ผันความคิดมาเป็นสิ่งที่ลงมือทำให้เกิดขึ้นได้
- นักบัญชาการ (Command) เป็นผู้ที่ดูมีอำนาจ สามารถควบคุมสถานการณ์ และตัดสินใจเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี
- นักสื่อสาร (Communication) มักแสดงความคิดเห็นออก และผู้ที่นำเสนอความคิดเห็นออกมาได้ดี
- นักแข่งขัน (Competition) เป็นคนที่วัดความก้าวหน้าของตนเอง กับผลงานคนอื่น ๆ
- ผู้สรรหาความเป็นเลิศ (Maximizer) เน้นไปที่จุดแข็งเพื่อผลักดันให้คน ๆ หนึ่ง พยายามเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้กลายเป็นสิ่งที่เยี่ยมยอด
- ผู้มีความเชื่อมั่น (Self-Assurance) จะรู้สึกมั่นใจในความสามารถที่จะควบคุมชีวิตของตนเอง คนเหล่านี้มีเข็มทิศชี้ทางในตัวที่ทำให้มั่นใจว่าการตัดสินใจของตนเองนั้นถูกต้องแล้ว
- ผู้เห็นความสำคัญ (Significance) เป็นคนที่รักอิสระ และต้องการให้ผู้อื่นมองเห็นคุณค่าของตนเอง
- ผู้ชนะใจ (Woo) จะรักความท้าทายในการพบปะผู้คนใหม่ๆ และทำให้คนเหล่านั้นชอบตน พวกเขามีความสุขในการทำความรู้จัก และสร้างเครือข่ายการติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น
👉บ้านใจ Relationship Building (การสร้างความสัมพันธ์)
เป็นคนที่มีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ปรับตัวได้ง่าย
- ผู้ที่มีความสามารถในการปรับตัว (Adaptability) ชอบทำตัวกลมกลืนตามสถานการณ์ และมักใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
- ผู้เห็นความเชื่อมโยง (Connectedness) เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นว่าทุกสิ่งในโลกนี้มักเกี่ยวข้องกัน และสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุและผลเสมอ
- นักพัฒนา (Developer) เป็นคนที่มองเห็น และช่วยสร้างความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัวของผู้อื่น
- ผู้ที่มีความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) สามารถรับรู้ถึงอารณ์ และความรู้สึกของคนอื่น ๆ ได้ดี
- ผู้สร้างความกลมเกลียว (Harmony) คนกลุ่มนี้ ไม่ชอบการขัดแย้ง และจะพยายามมองหาความคิดเห็นซึ่งเป็นการยอมรับของทุกคน
- ผู้ไม่ทอดทิ้ง (Includer) มักยอมรับในตัวผู้อื่น และเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้อื่นอยู่เสมอ
- ผู้เข้าใจความแตกต่าง (Individualization) เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการคิดหาวิธีพาคนที่มีความแตกต่าง หันมาทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ผู้มองโลกในแง่ดี (Positivity) เป็นคนร่าเริง มีพลังบวก และสามารถทำให้ผู้อื่นรู้สึกตื่นเต้นไปกับสิ่งที่จะทำ
- ผู้สร้างสัมพันธ์ (Relator) ชอบความใกล้ชิดสนิทสนมกับคนอื่นๆ และมีความพอใจที่ลึกซึ้งในการทำงานหนักร่วมกับเพื่อนๆ เพื่อบรรลุถึงเป้าหมาย
👉บ้านสมอง Strategic Thinking (การคิดเชิงกลยุทธ์)
เป็นคนที่ชอบวิเคราะห์ ชอบคิด ใฝ่รู้อยู่เสมอ
- นักวิเคราะห์ (Analytical) คนกลุ่มนี้มักมีความสามารถในการมองเห็นสาเหตุทุก ๆ ด้านที่อาจมีผลกระทบต่อสถานการณ์นั้น ๆ
- ผู้คำนึงถึงอดีต (Context) เป็นคนชอบนึกถึงอดีตที่ผ่านมา และเข้าใจเหตุการณ์ในปัจจุบัน โดยศึกษาค้นคว้าถึงประวัติที่มาของสิ่งนั้น
- ผู้มองอนาคต (Futuristic) เป็นคนที่อาศัยอนาคตและสิ่งที่อาจเกิดขึ้นเป็นแรงบันดาลใจ วิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของพวกเขาจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น
- นักคิดสร้างสรรค์ (Ideation) มักเป็นคนที่สนใจไอเดียความคิดในสิ่งที่แตกต่างได้ดี
- นักสะสม (Input) เป็นผู้ที่ฝักใฝ่ในการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และมักจดบันทึกข้อมูลทุกชนิด
- นักคิด (Intellection) คนกลุ่มนี้ชอบครุ่นคิด สนุกกับกิจกรรมที่ใช้สมองและความคิด
- ผู้ใฝ่รู้ (Learner) เป็นคนที่ชอบเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สิ่ง ๆ นั้นดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา
- นักกลยุทธ์ (Strategic) เป็นคนชอบสร้างสรรค์วีธีการอื่น ๆ ที่แตกต่าง และเมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์หนึ่ง พวกเขาจะสามารถมองเห็นปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งจากผลสำรวจจาก แนะ NOW โพล ที่ได้สำรวจความคิดเห็นจากคนส่วนใหญ่นั้นพบว่า คนที่เรียนสาขาเมคคาทรอนิกส์ได้จะต้องมีลักษณะที่โดดเด่น หรือพรสวรรค์ในกลุ่มบ้านมือ และบ้านสมอง หรือนักปฏิบัติ หรือนักคิด นั่นเอง
เรียนเมคคาทรอนิกส์จบแล้วทำอะไรได้บ้าง?
แน่นอนว่าการทำงานในสายงานนี้ มักจะต้องเป็นนักคิด หรือนักปฏับัติ ซึ่งต้องมีหน้าที่ในการวางแผน วิเคราะห์ปัญหา ให้คำแนะนำ และจัดการเกี่ยวกับการสร้าง การประกอบ รวมถึงการควบคุมการทำงานอัตโนมัติของเครื่องจักร และเครื่องมือทั่วไปในโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีตัวอย่างอาชีพที่คนเรียนจบสายนี้ สามารถทำได้ เช่น
- วิศวกรเมคคาทรอนิกส์ (Mechatronics Engineer)
- วิศวกรหุ่นยนต์ (Robotics Engineer)
- วิศวกรออกแบบระบบอัตโนมัติ (Automation System Design Engineer)
- วิศวกรซ่อมบำรุงหุ่นยนต์ (Robot Maintenance Engineer)
- วิศวกรระบบควบคุม (Controls Engineer)
- วิศวกรตรวจสอบคุณภาพ (Quality Engineer)
- วิศวกรฝ่ายขาย (Sale Engineer)
- นักวิจัย (Researcher)
สถาบันในไทยที่เปิดสอนสาขาวิชา เมคคาทรอนิกส์
สำหรับน้อง ๆ ที่มีความฝันอยากจะเข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาเมคคาทรอนิกส์ สายงานที่มนุษย์ไม่ต้องเข้าไปควบคุมด้วยตนเองอยู่ตลอดเวลา สามารถเตรียมความพร้อม เพื่อสอบเข้าไปในสถาบันต่าง ๆ ที่เปิดสอนในสาขาวิชาเหล่านี้ ยกตัวอย่างสถาบันในประเทศไทย ได้แก่
- สาขาวิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน
- สาขาวิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
- หลักสูตรวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์และออโตเมชัน คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- สาขาวิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ และระบบการผลิตอัตโนมัติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
- สาขาวิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- สาขาวิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
เมื่อน้อง ๆ ทุกคนค้นหาพรสวรรค์ และความถนัดของตัวเองเจอแล้ว อย่าลืมที่จะคว้าโอกาสในการเรียนรู้ เพื่อสายการเรียนที่ใช่ สู่อาชีพที่ชอบ และตอบโจทย์ให้กับตนเอง รวมถึงความต้องการต่อโลกอนาคต นอกจากนี้ยังสามารถไปทดสอบพรสวรรค์ เพื่อค้นหาความถนัดของตนเองผ่านทางรายการ แนะ NOW ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00 – 16.30 น. ทาง ALTV ช่อง 4 ทีวีเรียนสนุก << (คลิกชมคลิป)
อ้างอิงข้อมูลจาก : Admission Premium, JobsDB by SEEK, Die Casting & Engineering Knowledge Sharing, GotoKnow