คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์มีลักษณะเด่นหลายๆประการที่ทำให้บุคคลทั่วไป เจ้าของกิจการ ห้างร้านต่างๆ ตัดสินใจนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาช่วยในการทำงานทดแทนบุคคล โดยลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์ที่มีประโยชน์ต่อการทำงาน ได้แก่
- ทำงานได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากคอมพิวเตอร์มีการประมวลผลเร็ว จำทำให้คอมพิวเตอร์สามารถตอบสนองต่อวัตถุประสงค์งานได้อย่างรวดเร็ว เช่นการประมวลผลประกอบการซื้อขาย การรายงานและการประมวลผลก่อนการเกิดแผ่นดินไหว เป็นต้น
- ทำงานได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ การคำนวณประมวลของคอมพิวเตอร์ ทำได้อย่างถูกต้อง มีความผิดพลาดน้อย เช่นการทำบัญชี ฐานข้อมูล ด้านวิศวกรรมศาสตร์
- ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง คอมพิวเตอร์สามารถทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีการหยุดพักให้เสียเวลา ได้ผลิตผลตามต้องการ
- ทำงานที่มีความเสี่ยงแทนมนุษย์ได้ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนำมาใช้ทดแทนมนุษย์ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า เช่น การใช้หุ่นยนต์ที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บกู้ระเบิด เพื่อกู้ภัย
- ทำงานที่ซับซ้อนหรือยุ่งยากได้ หากใช้คอมพิวเตอร์สามารถกำหนดภาระงานที่ซับซ้อนได้โดยการเขียนโปรแกรมให้ทำงานเป็นลำดับขั้นตอนได้ตลอดไป เช่น การคำนวณบัญชีราบรับรายจ่าย คำนวณสินค้าในคลัง เป็นต้น
- ทำงานได้อเนกประสงค์ คอมพิเตอร์สามารถทำงานได้หลากหลายเนื่องจากมีการพัฒนาของซอฟแวร์ เช่น ด้านการศึกษาการเรียนการสอน การสร้างความบันเทิง ผ่อนคลายความเครียด
- ทำงานระยะไกลได้ คอมพิวเตอร์มีเครือข่ายที่รองรับได้ทั่วโลกสามารถที่จะควบคุมการทำงานในระยะไกลได้ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกับกล้องเว็บแคมที่ควบคุมจากระยะทางไกล
- การทำงานได้อย่างตรงไปตรงมา คอมพิวเตอร์มีการประมวลผลที่แน่นอนทำตามขั้นตอนที่โปรแกรมเท่านั้น ทำตามเงื่อนไขอย่างชัดเจน จึงนำคอมพิวเตอร์มาใช้ทดแทนการตัดสินใจของบุคคลากรที่เป็นมนุษย์ เช่น การเอารัดเอาเปรียบ การตัดสินใจเอนเอียง เป็นต้น
ลักษณะที่เป็นคุณสมบัติพื้นฐาน
- ความเป็นอัตโนมัติ ทำงานแบบอัตโนมัติภายใต้คำสั่งที่กำหนดไว้
- ความเร็ว สามารถประมวลผลข้อมูลด้วยความเร็วสูงได้
- ความถูกต้อง เเม่นยำ คอมพิวเตอร์จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ และผิดพลาดน้อย
- ความน่าเชื่อถือ ข้อมูลที่ได้จากการประมวลผลคอมพิวเตอร์มีความน่าเชื่อถือสูง
- การจัดเก็บข้อมูล คอมพิวเตอร์สามารถจัดเก็บข้อมูลได้จำนวนมากและหลากหลายรูปแบบเพราะมีหน่วยเก็บข้อมูลเฉพาะเป็นของตนเอง
- การติดต่อสื่อสาร คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมโยงกันเข้าเป็นเครือข่ายได้มากมาย เป็นการติดต่อแบบไร้พรหมแดน
ประเภทของคอมพิวเตอร์
มีทั้งหมด 5 ประเภท
- ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูง มีราคาแพงมาก ขนาดใหญ่ สามารถคำนวณตัวเลขทางคณิตศาสตร์ได้หลายแสนล้านครั้งต่อวินาที เช่น การวิเคราะห์ภาพถ่ายทางดาวเทียม
- เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะการทำงานสูง แต่ไม่เน้นความเร็วในการคำนวณเป็นหลักมีความเร็วสูงจึงนิยมใช้ในองค์กรใหญ่ๆ เช่น ธนาคาร
- มินิคอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับการใช้ในองค์กรขนาดกลาง เครื่องแม่ข่ายจะให้บริการแก่ลูกข่าย เช่น โรงแรม โรงพยาบาล
- ไมโครคอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีประสิทธิภาพสูง ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับการใช้ส่วนตัวที่บ้านหรือโรงเรียน สามารถใช้ในการค้นคว้าหาความรู้และเพื่อความบันเทิงได้ เช่น ฟังเพลง เล่นเกม ดูหนัง ไมโครคอมพิวเตอร์ที่รู้จักกันดี คือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ตอมพิวเตอร์ขนาดสมุดบันทึก
- คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่สามารถเก็บข้อมูลในชีวิตประจำวันได้ เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง สนทนาผ่านเครือข่ายได้ คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือ ปาล์มท็อป พีดีเอ แท็บเล็ต
โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบสัมผัสเมนเฟรมคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์ต่อพ่วง
อุปกรณ์ต่อพ่วง คือ อุปกรณ์ที่ประกอบเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานลักษณะต่างๆ
แผงแป้นอักขระ
แผงแป้นอักขระ เป็นอุปกรณ์ที่รับข้อมูลจากการกดแป้นแล้วทำการเปลี่ยนรหัสเพื่อส่งต่อไปให้คอมพิวเตอร์ประมวลผล แป้นพิมพ์โดยทั่วไป มี 50 แป้นขึ้นไป แบ่งเป็นแป้นอักขระและแป้นตัวเลขเพื่อความสะดวกในการป้อนข้อมูล ปัจจุบันมีหลายแบบ เช่น แผงแป้นอักขระแบบมีสาย แผงแป้นอักขระแบบไร้สาย แผงแป้นอักขระม้วนยางพับเก็บได้ เป็นต้น ซึ่งระบบรับรหัสตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นรหัส 7 บิต และ 8 บิต
การเชื่อต่อแผงแป้นอักขระกับคอมพิวเตอร์มี 3 รูปแบบ
- การเชื่อมต่อโดยใช้สายที่มีหัวแบบวงกลม
- การเชื่อมต่อโดยใช้ตัวต่อประสานแบบยูเอสบี
- การเชื่อมต่อแบบไร้สาย
เมาส์
เมาส์เป็นอุปกรณ์ประเภทตัวชี้ ที่รับข้อมูลจากการกดปุ่มบนตัวเมาส์ ทำหน้าที่คลิกปุ่มคำสั่งและเลือกรายการต่างๆ มี 2 ประเภท
- เมาส์แบบทางกล คือ เมาส์ซึ่งมีลูกกลิ้ง ปรับทิศทางการหมุนในแกน x และแกน y
- เมาส์แบบใช้แสง คือ เมาส์ซึ่งอาศัยหลักการส่งแสงจากเมาส์ ไปยังแผ่นรองเมาส์ที่มีลักษณะเป็นตารางตามแนวแกน x และแกน y เช่น เมาส์ไร้สาย เมาส์ออปติคัล เมาส์เลเซอร์ การเชื่อมต่อเมาส์เข้ากับคอมพิวเตอร์ทำได้ 3 รูปแบบ เช่นเดียวกับการต่อแผงแป้นอักขระ
อุปกรณ์ชี้ตำแหน่งสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดสมุดบันทึกหรือโน๊ตบุ๊ค
มี 4 ประเภท คือ
- ลูกกลมควบคุม มีลักษณะเป็นลูกบอลกลมอยู่ในเบ้า ใช้ควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวชี้บนจอภาพ ดดยการหมุนตามทิศทางที่เราต้องการ
- แท่งชี้ควบคุม เป็นแท่งพลาสวติก ห่อหุ้มด้วยยางโผล่ขึ้นมาจากแผงแป้นอักขระของเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดสมุดบันทึก ควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวชี้บนจอ โดยการโยกแท่งควบคุมไปทางทิศที่ต้องการ
- แผ่นรองสัมผัส ควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวชี้บนจอภาพ ดดยการแตะลงไปบนแผ่นรองสัมผัส
- ก้านควบคุม ใช้ควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวชี้บนจอภาพ โดยการบิดขึ้นหรือลง ซ้ายหรือขวา นิยมใช้ในการเล่นเกมส์
แท่งชี้ควบคุม
อุปกรณ์รับเข้าระบบปากกา
- ปากกาแสง เมื่อแตะปากกาที่จอภาพ ข้อมูลจะถูกส่งไปยังคอทพิวเตอร์ ทำให้สามารถรับรู้ตำแหน่งที่ชี้แลพทำตามคำสั่งได้
- เครื่องอ่านพิกัด
- ดิจิไทเซอร์ ทำหน้าที่แปลงข้อมูลที่เป็นเส้นตรง เส้นโค้ง ภาพวาด ภาพถ่าย ให้เป็นสัญญาณดิจิทัล และถ่ายทอดสัญญาณไปสู่คอมพิวเตอร์ ให้ผู้ใช้สามารถตกแต่งข้อมูลโดยใช้ปากกา stylus วาดไปบนดิจิไทเซอร์ได้
- กราฟิกแท็บเล็ต ทำงานเช่นเดียวกับดิจิไทเซอร์แต่กราฟิกแท็บเล็ตมีอักขระและคำสั่งพิเศษสำเร็จรูป
นิยมใช้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมดิจิไทเซอร์
จอสัมผัส
เป็นอุปกรณ์รับเข้าข้อมูลจากการสัมผัสลงบนหน้าจอ โดยมีการเลือกตำแหน่ง ตำแหน่งที่ถูกเลือกจะแปลงสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังซอฟแวร์ที่แปลคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซึ่งซอฟแวร์ที่ใช้กับจอสัมผัส เป็นซอฟแวร์ที่เขียนขึ้นเฉพาะ ปัจจุบันพบจอสัมผัสได้จากโทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่ จอสัมผัสในการสำรองที่นั่งในโรงภาพยนตร์ เป็นต้น
อุปกรณ์รับเข้าแบบกราดตรวจ
มี 3 ประเภท คือ
- เครื่องอ่านรหัสแท่ง เป็นอุปกรณ์รับเข้าทำงานโดยใช้หลักการสะท้อนแสง เครื่องจส่องลำแสงไปยังรหัสแท่งบนสินค้าแล้วแปลงรหัสที่อ่านเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งผ่านสายที่เชื่อต่อคอมพิวเตอร์ เพื่อมให้ซอฟแวร์ที่สร้างขึ้นทำงานร่วมกับอุปกรณ์ชนิดนี้
- เครื่องกราดตรวจ หรือ สแกนเนอร์ เป็นอุปกรณ์รับเข้าข้อมูลประเภทรูปภาพและข้อความที่อยู่บนสิ่งพิมพ์ โดยใช้หลักการสะท้อนแสง ข้อมูลจะถูกนำมาแปลงให้อยู่ในรูปที่คอมพิวเตอร์ เข้าใจ ตีความ และสามารถเก็บไว้ในหน่วยความจำได้
- กล้องดิจิทัล มี 2 ประเภท คือ
- กล้องแบบคอมแพ็กต์ ใช้แบบสำเร็จรูป ใช้งานง่าย ไม่ต้องปรับแต่งหรือเปลี่ยนอะไรมาก เนื่องจากมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สมบูรณ์
- กล้องแบบดีเอสแอลอาร์ เป็นกล้องที่มีลักษณะคล้ายกล้องฟิล์ม
สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ มีฟังก์ชั่นการใช้งานมากกว่ากล้องคอมแพ็กต์และถ่ายภาพได้คมชัดกว่าเครื่องกราดตรวจ หรือ สแกนเนอร์
กล้องเว็บแคม
เป็นอุปกรณ์รับเข้าประเภทกล้องวิดีโอ สามารถบันทึกและถ่ายทอดภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวผ่านระบบเครือข่ายเว็บไซต์ โปรแกรม แล้วส่งต่อไปปรากฏในจอภาพ เพื่อให้อีกฝ่ายเห็นได้ ในปัจจุบันจะใช้ตัวต่อประสานแบบยูเอสบีและมีบางรุ่นที่มีการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
จอภาพ
- จอภาพแบบซีอาร์ที
- มีลักษณะเหมือนจอโทรทัศน์ ทำงานโดยใช้หลอดรังสีอิเล็กตรอน
- จอภาพแบบแอลซีดี
- เป็นจอภาพที่พัฒนามาจากจอภาพของเครื่องคิดเลขและนาฬิกา ทำงานโดยการเบี่ยงเบนของแสงตามการควบคุมทิศทางของดพลงไรเซชันของวัตถุที่กั้นระหว่างแหล่งกำเนิดแสงและแผ่นเคลือบสารเรืองแสง ภาพที่แสดงออกมาไม่คมชัดเท่าจอแบบซีอาร์ที
- จอภาพแบบแอลอีดี
- ใช้หลอดแอลอีดีเป็นตัวกำเนิดแสง มีผลึกกึ่งของเหลว 3 สี ได้แก่ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน แต่ละสีถูกควบคุมด้วยสัญญาณที่มีขนาดตั้งแต่ 16 บิต ขึ้นไป ยิ่งควบคุมด้วยจำนวนสายสัญญาณมากขึ้นก็จะได้ภาพที่มีความลึกของสีมากขึ้น แอลอีดีจึงได้ภาพที่สมจริงยิ่งขึ้น
- จอแบบพลาสมา เป็นจอภาพแผ่นเรียบบาง
พลาสมาเกิดจากแก๊สที่แตกตัวเป็นอิออนกับอิเล็กตรอน ประกอบขึ้นจากเซลล์เล็กๆนับล้านเซลล์ การปรับเปลี่ยนแรงดันไฟฟ้าของเซลล์แต่ล่ะเซลล์ สามารถเปลี่ยนความเข้มของสีได้และสารมารถสร้างจอให้มีขนาดใหญ่เท่าใดก็ได้ มีความสว่างและความคมชัดมาก จอภาพแบบซีอาร์ที
ลำโพง
มี 2 ประเภท
- ลำโพงที่ไม่มีวงจรขยายเสียงในตัว จะใช้ความสามารถของการ์ดเสียงในการขยายเสียงของลำโพง ลำโพงชนิดนี้ไม่มีปุ่มปรับเสียงใดๆบนลำโพง
- ลำโพงที่มีวงจรขยายเสียงภายในตัว บนตัวลำโพงจะมีปุ่มปรับเสียงต่างๆ เช่น ปุ่มปรับความดัง เป็นต้น
หูฟัง
เป็นอุปกรณ์ส่งออกที่ใช้สำหรับฟังเพลงและฟังเสียงจากคอมพิวเตอร์ โดยทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าเป็นสัญญาณเสียง หูฟังที่ใช้กับคอมพิวเตอร์มีทั้งชนิดไร้สายและบางรุ่นจะมีไมโครโฟนติดตั้งในตัว เพื่อใช้สนทนาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต