การเงิน
ทำอย่างไรให้ "เงินเดือนขึ้น" แบบไม่ต้อง "ลาออก" หรือ "ย้ายงาน" ?
29 ธ.ค. 2564 เวลา 10:00 น.2.8k
มุมมองฝ่ายบุคคลกับความเป็นไปได้ในการพิจารณา
"ขึ้นเงินเดือน" และ "เลื่อนตำแหน่ง" ของพนักงานที่อยากเติบโตในองค์กรเดิม แบบไม่ต้องย้ายที่ทำงานบ่อยๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ
ในช่วงปลายปีเป็นอีกหนึ่งช่วงที่พนักงานประจำต่างๆ เริ่มมองหางานใหม่ เพราะเป็นช่วงที่ได้รับโบนัสก้อนโตไปเรียบร้อย หรือถือโอกาสเริ่มต้นปีใหม่กับที่ทำงานใหม่ไปพร้อมกัน
แต่สำหรับบางคนอาจกำลังเหมือนยืนสับสนอยู่กลางสามแยก ขณะที่เพื่อนร่วมงาน ขยับขยายออกไปทำงานใหม่ แต่เรากลับยังสนุกกับงาน สังคมเพื่อนร่วมงานดี หรือมองว่างานที่ทำอยู่ยังได้พัฒนาตัวเอง แต่ติดเรื่องเดียว! "เงินเดือนไม่ขึ้น" "ตำแหน่งไม่ขยับ" สักที
ใครที่กำลังลังเลว่าจะย้ายงานเพื่อหวัง "อัพเงินเดือน" หรือทำงานที่เดิมต่อไปเพื่อหวังได้ขึ้นเงินเดือนสักวัน ลองอ่านแนวทางการขอ "ขึ้นเงินเดือน" หรือ "เลื่อนตำแหน่ง" ในองค์กรเดิม แบบไม่ต้อง "ลาออก" หรือ "ย้ายงาน" 3 ทางเลือก เผื่อจะช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นบ้าง
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" สรุปข้อมูลจากการสัมภาษณ์บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล 2 แห่งในประเด็นเดียวกัน นั่นคือ "ทำอย่างไร ให้มีโอกาสอัพเงินเดือน เลื่อนตำแหน่งแบบไม่ต้องย้ายงาน ?" ได้คำตอบเป็นภาพรวมโดยทั่วไป โดยสรุปออกมาเป็น 2 วิธีหลัก ดังนี้
- วิธีที่ 1 บอกความต้องการตรงๆ
องค์กรที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลแห่งหนึ่ง ให้คำแนะนำว่าในกรณีที่องค์กรที่ทำอยู่มีลักษณะการบริหารแบบลำดับชั้นไม่มาก กระจายการบริหารออกด้านข้าง
องค์กรที่บริหารแบบนี้มักจะมีการให้โยกย้ายสลับตำแหน่ง ไปทำในสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานอยากทำหรือสนใจ ซึ่งการโยกย้ายหรือสลับตำแหน่งก็ถือเป็นการโปรโมทเช่นเดียวกับการเลื่อนตำแหน่งในองค์กรที่บริหารในแนวดิ่ง
ทั้งนี้ การโปรโมทในลักษณะการเปลี่ยนสลับหน้าที่ก็ต้องตอบโจทย์ได้ว่า พนักงานคนนี้อยากทำงานอะไร ตัวอย่างคือ เดิมนาย A เคยทำงานแอดมินแต่อยากไปทำงานที่ท้าทายมากขึ้น โปรเจคแรกนาย A จึงขอเป็นคนทำโครงการ โปรเจคต่อไปนาย A เป็นแอดไวเซอร์ โปรเจคถัดไปนาย A ทำหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์ เป็นต้น
แล้วจะบอกความต้องการของตัวเองอย่างไร ?
ผู้ที่ต้องการเติบโต อัพเงินเดือน เลื่อนตำแหน่งในองค์กรลักษณะนี้ อาจจะเริ่มต้นจากการคุยกับฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) และหัวหน้างาน ซึ่งตอนนี้สิ่งที่หลายบริษัทกำลังทำก็คือการเปิดโอกาสให้คุยกับหัวหน้าที่ข้ามไปอีกระดับหนึ่งที่เราเรียกว่า "Skip level" หมายความว่าแทนที่จะคุยกับผู้จัดการ เราต้องไปคุยกับไดเรคเตอร์ เพื่อแสดงความต้องการหรือขอคำแนะนำ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะบอกความต้องการหรือมอบข้อเสนอแบบนี้ให้กับ "HR" หรือผู้บริหารในองค์กร เราต้องมีทักษะที่หลากหลายมากพอที่จะทำให้ข้อเสนอเหล่านี้สำเร็จ เพราะหากมีทักษะไม่เพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้รับความไว้วางใจให้ทำก็เป็นไปได้เช่นกัน
วิธีที่ 2 ถาม/ต่อรอง/พัฒนาตัวเอง อย่างมีชั้นเชิง
องค์กรที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลอีกแห่งหนึ่ง มองต่างจากคำแนะนำแรก โดยมองว่าการจะ "ขอขึ้นเงินเดือน" หรือ "เลื่อนตำแหน่ง" ในกรณีที่เราไม่ถูกโปรโมทตำแหน่งนั้น จะต้องค่อยๆ ทำอย่างมี "ศิลปะ" จะมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น โดยแนะนำ 3 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
ขั้นที่ 1 หาโอกาสคุยกับหัวหน้างานของเราโดยตรงอย่างมีศิลปะ
อย่างแรกต้องไม่ถามว่า "ทำไมเราไม่ได้รับโปรโมท" "ทำไมเราไม่ได้ขึ้นเงินเดือน" แต่ควรเปลี่ยนคำถามว่า "บริษัทมองอนาคตเราไว้อย่างไร"
คำถามนี้จะช่วยให้เรามองเห็นภาพการเติบโตองค์กรที่กำลังทำงานอยู่มากขึ้น และยังทำให้เรารู้ว่าทีมงานมองเราอย่างไรด้วย
ในการบางครั้งการยังไม่โปรโมทในปีนี้ อาจเป็นเพราหัวหน้างานวางแผนการทำงานของเราไว้ในอีกรูปแบบ ที่ยังไม่จำเป็นต้องปรับตำแหน่งในตอนนี้ ดังนั้น การถามคำถามนี้จึงช่วยทำให้เราเห็นภาพร่วมกับองค์กรมากขึ้น และได้คำตอบว่าเราจะมีโอกาสได้ขึ้นเงินเดือน เลื่อนตำแหน่งในอนาคตหรือไม่อย่างไร
ขั้นที่ 2 หาอำนาจต่อรอง
หากใช้วิธีแรกไม่สำเร็จ หรือไม่เคลียร์ อาจใช้วิธีการ "สร้างอำนาจต่อรอง" ด้วยการลอง "สมัครงานใหม่"
การสมัครใหม่ ณ ที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้อง "เปลี่ยนงาน" เสมอไป แต่เป็นการเช็คเรทติ้งของตัวเองว่าเรามีศักยภาพเป็นที่ต้องการของตลาดในสายงานที่ทำอยู่หรือไม่
เช่น หากเราสมัครงานที่ใหม่และได้การเสนอตำแหน่งที่สูงขึ้น มีเงินเดือนที่สูงขึ้น อาจใช้ข้อเสนอนี้มาคุยกับหัวหน้างาน เพื่อบอกว่าเราได้รับข้อเสนอมาจากองค์กรใหม่ แต่ยังคงอยากทำงานให้กับที่เดิมอยู่ หากเป้าหมายของ เรา หัวหน้า และองค์กรตรงกันก็จะมีโอกาสได้รับข้อเสนอการจ้างงานแบบใหม่ ที่สร้างความพอใจทั้ง 2 ฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ยังไม่ได้รับข้อเสนอจากที่ใหม่หรือจริงๆ อย่าคิดโกหกกุเรื่องขึ้นมาเองเพื่อหวังขึ้นเงินเดือนอย่างเด็ดขาด เพราะหากองค์กรมองว่าไม่สามารถทำตามข้อเสนอได้ คุณอาจจะตกที่นั่งลำบาก ที่นอกจากจะไม่ได้ขึ้นเงินเดือน หรืออาจจะต้องออกไปรับข้อเสนอในจินตนาการของตัวเองก็ได้
ขั้นที่ 3 ทำงานให้ดีกว่าเดิม
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การพัฒนาทักษะ ทำงานอย่างเต็มที่ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ระหว่างที่รอการโปรโมทตำแหน่ง ขึ้นเงินเดือน หรือหางานใหม่ จะช่วยเปิดโอกาสให้ตัวเราได้
เพราะท้ายที่สุดไม่ว่าจะเราจะเติบโตในองค์กรเดิม หรือเลือกที่จะออกไปเติบโตในองค์กรใหม่ "ศักยภาพในการทำงาน" จะตัดสินอนาคตของเราอยู่ดี
ดังนั้นการทำงานเฉื่อยๆ เพื่อประชดหรือวางยาที่ทำงานเดิมจึงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ในขณะผลงานที่ดีและความตั้งใจจริงจะสะท้อนศักยภาพของเราออกมาได้ดีกว่า หรือหากยังไม่ได้รับโอกาสโปรโมทในองค์กรเดิมจริงๆ เมื่อใดก็ตามที่จะต้องเดินออกไปทำงานที่ใหม่ จะต้องไปแบบผู้ชนะ คือไปให้เขาเสียดาย หรือชื่นชม
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 วิธีเป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น ไม่สามารถการันตีผลลัพธ์ได้ เนื่องจากทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างองค์กร ตำแหน่งที่ว่าง เพื่อนร่วมงาน วัฒนธรรมองค์กร จังหวะชีวิต ฯลฯ
ยกเว้น "ศักยภาพของเราเอง" ที่ควบคุมได้ หากมีความสามารถ และเตรียมพร้อมรับโอกาสที่จะเข้ามาทุกเมื่อ ในอนาคตเราอาจไม่ต้องรอโปรโมทหรือขึ้นเงินเดือนเลยก็เป็นไปได้ทั้งนั้น