ในหนึ่งวันเราไปไหนมาบ้างมาบ้าง? เชื่อว่าหลายคนใช้เวลานึกแต่ละครั้งค่อนข้างนานแน่นอน แถมยังไม่ทราบเวลาที่แน่ชัดในแต่ละสถานที่ที่เราไป ถ้าจำไม่ได้ว่าไปไหนมาบ้าง ให้ “Google maps” ช่วยบันทึกไทม์ไลน์ของคุณสิ ไปดูวิธีตั้งค่ากันเลยดีกว่า วิธีการตั้งค่าให้ Google Maps บันทึกประวัติการเดินทางของคุณ ด้วยวิธีอันแสนง่าย แต่ก่อนอื่นต้องมีแอป Google Maps ก่อนนะครับ ใครยังไม่มีไปดาวน์โหลดได้ทั้งใน
App Store หรือ Play Store กันได้เลย เมื่อมีแอปพร้อมแล้ว เราไปทำตามขั้นตอนกันเลย ซึ่งสำหรับ Android ก็น่าจะเป็นเข้าถึงได้ตลอดเวลาอยู่แล้วนะ See also
- ขั้นตอนที่ 7 กลับไปยังแอป Google Maps กด “ประวัติตำแหน่ง”
- ขั้นตอนที่ 8 กด “ประวัติตำแหน่ง” เพื่อเปิดประวัติตำแหน่ง
เมื่อต้องการเช็กประวัติ Timeline ของเราว่าที่ผ่านมาได้ไปที่ไหนมาบ้าง
ก็สามารถเช็กได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
สรุป
- ขั้นตอนที่ 1 เข้าแอป Google Maps
- ขั้นตอนที่ 2 กดที่รูปโปรไฟล์มุมบนขวา เลือก “ไทม์ไลน์ของคุณ” (Your Timeline)
- ขั้นตอนที่ 3 กดที่รูปปฏิทินที่แถบด้านบน เพื่อเลือกวันที่ที่ต้องการเช็ก
ในขณะที่ไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ ทุกคนควรกักตัวอยู่ในบ้าน เพราะเราไม่รู้ว่าคนรอบตัวเราจะมีเชื้อหรือไม่ แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ ในสถานการณ์ในตอนนี้จะเป็นการดีหากทุกคนเปิดให้ Google Maps ติดตามตัวคุณได้ เพื่อที่จะสามารถดูประวัติการเดินทางย้อนหลังได้ ในกรณีติดเชื้อโควิด-19 เพื่อเผยแพร่ให้ผู้คนที่สัญจรบริเวณนั้น ๆ ในเวลาเดียวกันเฝ้าระวัง
วิธีตั้งค่าให้ Google Maps ติดตามตัวคุณ
ขั้นตอนที่ 1: เข้าไปที่แอป Google Maps
ขั้นตอนที่ 2: กดที่รูปโปรไฟล์มุมขวาบน เลือก “ไทม์ไลน์ของคุณ” (Your Timeline)
ขั้นตอนที่ 3: กดเปิดเมนู (จุด 3 จุด ที่มุมขวาบน) เลือก “การตั้งค่า” (Settings)
ขั้นตอนที่ 4: เลื่อนไปที่ “การตั้งค่าตำแหน่ง”
เลื่อนลงไปที่ “การตั้งค่าตำแหน่ง”
ขั้นตอนที่ 5: เปิด “บริการตำแหน่ง” และ “ประวัติตำแหน่ง” (กรณีปิดอยู่)
ขั้นตอนที่ 1: เข้าไปที่แอป Google Maps
ขั้นตอนที่ 2: กดที่รูปโปรไฟล์มุมขวาบน เลือก “ไทม์ไลน์ของคุณ” (Your Timeline)
ขั้นตอนที่ 3: กดเปิดปฏิทินที่แถบด้านบน เพื่อเลือกวันที่ที่ต้องการตรวจสอบ
เพียงเท่านี้ เราก็จะสามารถตรวจสอบประวัติการเดินทางย้อนหลัง ในกรณีติดเชื้อโควิด-19 เพื่อเตือนให้บุคคลใกล้ชิดหรือไปในสถานที่นั้น ๆ ในเวลาเดียวกันให้เฝ้าระวังได้ทันเวลา