คุณภาพชีวิต-สังคม
30 ก.ค. 2562 เวลา 18:30 น.89.5k
เตือน 8 สัญญาณอันตราย ของประจำเดือนผิดปกติ ทำให้เกิดโรคร้าย และเป็นอันตรายถึงชีวิต หากพบอาการผิดปกติ
ควรรีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้หญิงเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ อายุเฉลี่ยของการมีประจำเดือนครั้งแรกอยู่ที่ 12 ปี 7 เดือน ซึ่งเลือดประจำเดือนเกิดจากการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกประกอบด้วย ฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการตกไข่ โดยแต่ละรอบเดือนเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีอาการปวดท้องน้อย ในช่วงเวลา 8 – 48 ชั่วโมง หลังมีประจำเดือน เนื่องจากร่างกายมีการหลั่งสารเคมี ทำให้เกิดการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก และหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงมดลูกมีการหดเกร็ง ร่วมกับอาการปวดเมื่อยหลัง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายอุจจาระเหลว ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก นอกจากนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรม เช่น หงุดหงิดง่าย วิตกกังวล ซึ่งอาการดังกล่าวจะลดลงหรือหายไปเมื่อประจำเดือนหมด
นายแพทย์สุกรม ชีเจริญ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้หญิงบางรายที่มีประจำเดือนผิดปกติ อาจมองข้ามโดยคิดว่าไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งสามารถสังเกตร่างกายตัวเองได้จาก 8 สัญญาณเตือนอันตราย ได้แก่ 1.รอบเดือนมาผิดปกติ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล หรือผู้หญิงบางรายใช้ยาคุมกำเนิด จึงส่งผลให้รอบเดือนขาด รังไข่ทำงานผิดปกติ สิวขึ้น อารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรง 2.ระบบขับถ่ายผิดปกติ รู้สึกปวดที่ท้องน้อยในขณะปัสสาวะ ท้องเสียในช่วงมีประจำเดือน 3.ปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง ร่วมกับอาการปวดหลัง หรือปวดท้องขณะมีเพศสัมพันธ์ สาเหตุอาจเกิดจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หรือเนื้องอกในมดลูก 4.ประจำเดือนมามากกว่า 7 วันขึ้นไปอาจเกิดจากความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ เช่น มีเนื้องอกในมดลูก มดลูกอักเสบ เป็นต้น 5.ปวดหลังส่วนล่างอย่างรุนแรง สาเหตุมาจากสารโพรสตาแกลนดิน ทำให้มดลูกบีบตัวมากและยังขัดขวางการไหลเวียนของออกซิเจนในกล้ามเนื้อรอบมดลูก 6.ลิ่มเลือดประจำเดือนมีขนาดใหญ่ผิดปกติ เสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอกในมดลูก 7.มีหยดเลือดออกมาในช่วงที่ไม่มีประจำเดือนอาจเป็นผลมาจากการใช้ยาคุมกำเนิด เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โรคไทรอยด์ หรือภาวะท้องนอกมดลูก 8.ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นมากกว่าปกติ เกิดจากการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอด ทำให้มดลูกอักเสบได้ หากพบอาการผิดปกติดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาก่อนที่จะลุกลามเป็นอันตรายถึงชีวิต
เป็นมั้ยจ๊ะ? สาวน้อยทั้งหลาย กับปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน แต่ก็อ๊าย อาย ไม่กล้าถามใคร เพราะแอบรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว ก็ปัญหาเรื่องประจำเดือน ที่มาพร้อมกับอาการปวดหัว ปวดท้อง ปวดหลัง มาทางนี้ พี่สาวคนนี้ มีความรู้จากประสบการณ์ดีๆ มาแนะนำกัน
ปวดท้อง ปวดหัว ปวดหลัง ต้องไปหาหมอรึเปล่า จะเป็นอะไรมากมั้ยนะ
ปวดท้องประจำเดือน เกิดจากการบีบตัวของมดลูก รวมทั้งปริมาณประจำเดือนและสภาพแวดล้อมต่างๆด้วย อาการปวดท้องจะดีขึ้นได้ ถ้าน้องออกกำลังกาย ที่ใช้ความยืดหยุ่นเป็นประจำ กินอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง เช่น อัลมอลด์ ลูกพรุน เมล็ดธัญพืชต่างๆ และรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ อย่างการอาบน้ำอุ่น และประคบร้อน ก็ช่วยได้จ้ะ
โดยปกติแล้วอาการปวดท้องมักจะเป็นช่วง 1-2 วันแรกๆของการเป็นประจำเดือนเท่านั้น ถ้าจะใช้ยาแก้ปวด ควรใช้แค่ตอนปวดมากๆ เท่านั้นนะ
ปวดหัว เป็นไข้
เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงและภูมิคุ้มกันลดต่ำลง จึงปวดหัวและเป็นไข้ได้ง่าย วันแรกที่เป็นประจำเดือนจึงไม่ควรสระผม เพราะจะทำให้ปวดหัวได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้อาจมีอาการหน้ามืด เวียนหัว เพราะ ธาตุเหล็กในร่างกายลดน้อยลงเช่นกัน ดังนั้นช่วงก่อนเป็นประจำเดือนจึงควรกินอาหารที่เสริมธาตุเหล็ก เช่น ตับ ผักใบเขียว มันฝรั่ง ไข่ และนม เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง แล้วต้องพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะจ๊ะ
ปวดหลัง ช่วงเป็นประจำเดือน มักเกิดจากการบีบตัวของมดลูกที่ ทำให้ปวดลามไปทางด้านหลัง ร่วมกับการที่แคลเซียมลดลง ซึ่งการออกกำลังกายแบบโยคะเป็นประจำ หรือการว่ายน้ำ จะช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นดีขึ้น นอกจากนี้การกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง ผลไม้และผักใบเขียวที่มีวิตามินและเกลือแร่สูงเป็นประจำ จะช่วยลดอาการปวดหลังได้
อาการอื่นๆก็ยังมีอีกนะ เช่นคัดหน้าอก ท้องผูก ท้องเสีย
คัดหน้าอก เวลาเป็นประจำเดือน มักจะรู้สึกตึงๆและเจ็บบริเวณหน้าอก เกิดจากกรดไขมันชนิดหนึ่งลดลงเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งทางแก้ไขก็คือลดอาหารที่มีไขมันจากสัตว์ เช่น นม เนย ชีส ลงในช่วงนั้น เพิ่มการกินผักและผลไม้ให้มากขึ้น หากยังไม่ดีขึ้น ลองกินพริมโรสออยล์เสริมก็พอช่วยได้
ท้องผูก
มักเป็นช่วงก่อนประจำเดือนเนื่องจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนลดลง และระบบย่อยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงควรเลือกกินอาหารประเภทไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ อย่างเช่น มันเทศ ฟักทอง ข้าวโอ๊ต ลูกเกด
ท้องเสีย ช่วงมีประจำเดือนเกิดมาจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจน และ ฮอร์โมนเซโรโทนินเพิ่มสูง ทำให้ท้องเสียง่าย ทางแก้คือหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ อาหารหวานจัดและเผ็ดจัด อาหารทอด รสเค็มมัน และผลิตภัณฑ์จากนมในช่วงนี้จ้า
ระยะประจำเดือนของทุกคนเท่ากันมั้ย
ระยะประจำเดือนของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน โดยปกติรอบเดือนของผู้หญิงเรา จะใช้เวลาประมาณ 21-35 วัน ตรงกันทุกเดือน โดยนับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 28 วัน บวกลบนิดหน่อย ซึ่งในช่วงปีสองปีแรก น้องน้อยหลายคนมักจะมีประเดือนมาไม่ตรง บางเดือนอาจจะมี 2 ครั้ง หรือ บางเดือนก็ล่าช้า หรือไม่มาไปเลยโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เครียด
ถ้ายังนับไม่ค่อยถูกหรือกังวลว่าจะคลาดเคลื่อน แนะนำให้ใช้แผ่นอนามัยแบบบาง ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกวัน อย่าง โซฟี Pure Care Aroma มี เอสเซนเชียลออยล์ สกัดจากธรรมชาติ แผ่นอนามัยที่ให้ความรู้สึกหอม สะอาด สดชื่น แถมยังกระชับรับสรีระ บางสบายเหมือนไม่ได้สวมใส่ด้วย
เห็นมั้ย เท่านี้ก็กลับไปดูแลตัวเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องกังวลว่าประจำเดือนจะมาเมื่อไหร่ เพราะเรามีโซฟีที่รู้ใจพร้อมรับมือไว้ก่อนแล้ว ยิ่งถ้าได้เคล็ดลับดูแลตัวเองจากพี่สาวคนนี้ก็ยิ่งดี๊ดี มั่นใจได้ ไม่ว่าวันไหนก็หายห่วง