วิธีการตรวจสอบ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ดูอะไรบ้าง ? ก่อนออกจากร้าน เพื่อความสบายใจของตัวคุณเอง
สำหรับ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ได้ฤกษ์ขายอย่างเป็นทางการไปแล้วในบ้านเรา เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (อ่านข่าวเปิดตัว iPhone 6s และ 6s Plus ในประเทศไทย) วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีตรวจสอบ iPhone 6s และ 6s Plus สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด จาก Apple มาแนะนำให้กับคนที่มีแผนที่จะซื้อ iPhone เครื่องใหม่ ว่าเลือกซื้ออย่างไร และต้องดู หรือต้องเช็กอะไรก่อนนำออกจากร้านให้คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป แม้เครื่องส่วนใหญ่จะผ่านการตรวจสอบมาอย่างดีแล้วก็ตาม ถ้าพร้อมแล้วมาติดตามกันเลย
1. ตรวจสอบการแพ็ก ซีลพลาสติกต้องยังไม่ถูกแกะออก และกล่องต้องอยู่ในสภาพดี ไม่บุบ ไม่ยุบ ไม่มีรอยขีดข่วนต่าง ๆ เหมือนออกจากโรงงานใหม่ ๆ
2. ตรวจเช็กอุปกรณ์ภายในกล่องว่าครบ และอยู่ในสภาพใหม่หรือไม่ รวมถึงตัวเครื่องว่ามีรอยขีดข่วน รอยบุบใด ๆ หรือเปล่า หากพบให้แจ้งทางร้านได้ทันที
3. ตรวจสอบ IMEI หรือ Serial Number ตัวเครื่องว่าตรงกับกล่องหรือไม่ โดยเข้าไปที่ Setting > General เลือก About และ IMEI หรือ Serial Number แล้วเทียบกับกล่องให้ตัวเลขตรงกัน
4. ทำการเปิดเครื่องเพื่อตรวจสอบการใช้งานต่าง ๆ ภายในเครื่องเบื้องต้น เช่น ถ่ายภาพทั้งหน้า-หลังด้วยการใช้แฟลช และบันทึกวิดีโอเพื่อตรวจสอบกล้อง, ตรวจสอบ Dead Pixel บนหน้าจอ, ปรับความสว่างหน้าจอน้อยสุดไปมากสุด,
บนหน้าจอคำสั่งเพิ่มเสียงลดเสียงต้องใช้งานได้ดี, ปุ่ม Home, ปุ่มคำสั่งเสียง, ปุ่มเปิดระบบสั่นด้านข้างตัวเครื่อง ทุกปุ่มต้องใช้งานได้ดี, เอียงเครื่องทั้งแนวตั้ง และแนวนอน เพื่อทดสอบคำสั่ง Rotation, ตรวจสอบถาดซิมต้องอยู่ในสภาพที่ดีไม่มีคราบความชื้นใด ๆ และทดสอบเล่นอินเทอร์เน็ต 3G/4G ด้วยซิม รวมถึง Wi-Fi ว่าสามารถเข้าเล่นเน็ตได้ตามปกติหรือไม่
5. ทดสอบอุปกรณ์สายชาร์จ และหูฟัง EarPods ว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่
6. ทำการตั้งค่าภาษาเมนูต่าง ๆ รวมถึงแป้นพิมพ์ที่ต้องการใช้ ว่าสามารถตั้งค่าได้ตามที่ต้องการหรือเปล่า โดยไปที่ Settings > General > Language and Region จากนั้น เลือกภาษาที่ต้องการ ส่วนภาษาแป้นพิมพ์ ไปที่ Settings > General > Keyboard และเลือกภาษาที่ต้องการเพิ่ม
7. เปิดทดสอบฟีเจอร์พิเศษที่มาพร้อมกับ iPhone 6s และ 6s Plus นั่นคือ 3D Touch ว่าใช้งานได้หรือไม่ ด้วยการไปตั้งค่าที่ Settings > General > Accessibility และ 3D Touch ให้เป็น On จากนั้น ทำการทดสอบเล่นแอพฯ ต่าง ๆ ที่ Apple โฆษณาไว้ เช่น เปิดแอพฯ Safari และดูเนื้อหาเว็บใด ๆ ด้วยการกดแบบมีน้ำหนัก เพื่อดูเนื้อหาเฉพาะที่ต้องการ เป็นต้น
8. ทดสอบฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือ Touch ID ว่าใช้งานได้ปกติ โดยเข้าไปตั้งค่าที่ Settings > General > Touch ID & Passcode > Touch ID จากนั้น ทำการบันทึกลายนิ้วมือ จนกว่าจะสำเร็จ
9. ทดสอบใช้งาน Siri เบื้องต้น โดยไปที่ Setting > Siri > Allow "Hey Siri" จากนั้น พูดทักทาย Siri ให้สังเกตที่หน้าจอ Siri จะต้องเด้งขึ้นมาทันที
10. ในขั้นตอนสุดท้าย สำคัญมาก ตรวจสอบการชำระเงินว่าครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ อาจเผลอจ่ายเกินได้ กรณีจ่ายผ่านบัตรเครดิตให้ทำการตรวจสอบใบเสร็จที่รูดว่าตรงกับราคาเครื่องที่ซื้อหรือเปล่า
วิธีดูจอไอโฟนแท้ สำหรับผู้ที่ซื้อไอโฟนมือสอง อยากรู้ว่าหน้าจอที่ใช้อยู่เป็นของแท้หรือไม่ มีวิธีดูยังไงบ้าง หาคำตอบได้ที่นี่เลย
ภาพจาก : Anna Hoychuk / Shutterstock.com
ในการซื้อไอโฟนเครื่องใหม่นั้น ถ้าหากเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ซื้อจาก Apple Store หรือตัวแทนจำหน่ายโดยตรงก็คงจะไม่ต้องกังวลอะไรมาก แต่สำหรับผู้ที่ซื้อไอโฟนมือสอง อาจเกิดความไม่แน่ใจว่าเครื่องที่กำลังจะตัดสินใจซื้อได้ผ่านการเปลี่ยนหน้าจอมาแล้วหรือไม่ และหน้าจอจะเป็นของแท้ไหม วันนี้เราจึงมาแนะนำกันถึงวิธีดูจอไอโฟนแท้ ว่าจะสามารถเช็กได้อย่างไรบ้าง
วิธีดูจอไอโฟนแท้
ส่วนใหญ่แล้วไอโฟนที่มีการเปลี่ยนหน้าจอไปใช้ของเทียมอาจจะแยกด้วยตาเปล่าได้ค่อนข้างยาก ถึงแม้ว่าจะรู้สึกถึงความแตกต่างแต่ก็คงไม่สามารถฟันธงได้ว่าเป็นหน้าจอแท้หรือไม่ นอกจากจะให้ผู้เชี่ยวชาญแกะมาตรวจเช็กภายในตัวเครื่อง
แต่สำหรับไอโฟนรุ่นใหม่ ๆ ตั้งแต่ iPhone 11 Series เป็นต้นมา แอปเปิลได้ใส่ระบบตรวจสอบหน้าจอที่กำลังใช้งานอยู่ว่าเป็นของแท้หรือไม่ โดยเมื่อเข้าไปที่เมนู การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > เกี่ยวกับ (About) ถ้าหากว่ามีข้อความดังรูปด้านล่างก็หมายความว่าหน้าจอนั้นไม่ใช่ของแท้นั่นเอง
ข้อเสียจากการใช้จอที่ไม่ใช่ของแท้
แน่นอนว่าการใช้หน้าจอเทียมนั้นจะต้องมีข้อเสียต่าง ๆ ที่ด้อยกว่าหน้าจอแท้ ซึ่งทางแอปเปิลได้ระบุไว้ว่าการใช้จอที่ไม่ใช่ของแท้อาจพบปัญหาต่าง ๆ ขณะใช้งานได้ดังนี้
- การแตะแบบ Multi-Touch บางครั้งอาจแตะไม่ติดหรือผิดตำแหน่ง
- ขณะคุยโทรศัพท์หน้าจออาจไม่ดับเองและมีการแตะหน้าจอโดยไม่ตั้งใจ
- บางครั้งอาจมีการเผลอแตะโดนบริเวณขอบจอหรือฝ่ามือ
- การแสดงผลสีสัน True Tone ทำงานไม่ถูกต้อง
- เซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้างทำงานไม่ถูกต้อง ทำให้แสงหน้าจอหรี่ลงหรือสว่างขึ้นผิดปกติ
- หน้าจอสีอมเหลืองหรืออมน้ำเงินมากเกินไป
- ความสว่างหน้าจอไม่สม่ำเสมอ
- ความสว่างสูงสุดลดลง
- แบตเตอรี่ลดไวกว่าปกติและที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าหน้าจอเทียมจะมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าจอแท้ แต่จากข้อเสียทั้งหลาย คงต้องบอกว่า ถ้าหากเป็นไปได้ก็ควรจะใช้หน้าจอของแท้ที่ถูกผลิตมาได้มาตรฐานจากแอปเปิลน่าจะดีกว่า สำหรับราคาเปลี่ยนหน้าจอไอโฟนแต่ละรุ่นนั้นสามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมกันได้ที่ : เปลี่ยนหน้าจอ ไอโฟน ราคาอัปเดตล่าสุด
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : support.apple.com, (2)