ไทย-พม่ารบกันมากว่า ๓๐๐ ปี สั่งเสียครั้งสุดท้ายสมัย ร.๔! ตีเชียงตุงหวังได้สิบสองปันนา!!
เผยแพร่: 26 ก.ค. 2562 11:14 โดย: โรม บุนนาค
ในสมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นยุคที่เราเปิดประเทศต้อนรับตะวันตกทุกชาติ แต่กระนั้นก็ยังมีสงครามระหว่างไทย-พม่าอีกจนได้ ซึ่งเป็นสงครามเดียวในรัชกาลนี้ เป็นสงครามครั้งที่ ๔๔ ระหว่างไทยกับพม่า
และเป็นครั้งสุดท้ายที่รบราฆ่าฟันกันตลอดมากว่า ๓๐๐ ปี
สงครามครั้งนี้ไม่ใช่พม่าเป็นฝ่ายบุกเข้ามาเหมือนส่วนใหญ่ที่รบกัน แต่ไทยบุกขึ้นไปเหนือสุดจนถึงเมืองเชียงตุง ตามคำขอของราชวงศ์เชียงรุ้งที่อพยพหนีพม่ามาขอความช่วยเหลือจากไทยในสมัยรัชกาลที่ ๓ ครั้งนั้นประเทศราชในมณฑลพายัพพากันอาสาไปตีเชียงตุง จึงโปรดให้กองทัพเชียงใหม่ ลำปาง และลำพูนยกขึ้นไปในปี ๒๓๙๒ แต่ยกไปไม่พร้อมกันทั้งยังขาดเสบียงจึงต้องเลิกทัพกลับมา จนพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯเสด็จสวรรคต
เรื่องตีเมืองเชียงตุงจึงค้างอยู่
เมื่อขึ้นรัชกาลที่ ๔ เจ้าฟ้าแสนหวีได้มีสาส์นมากราบทูลว่า การจลาจลวุ่นวายในเมืองเชียงรุ้งนั้นสงบลงแล้ว ขอพระราชทานอนุญาตให้เจ้านายเชียงรุ้งที่มารอฟังข่าวอยู่ที่กรุงเทพฯถึง ๓ ปี และมีครอบครัวมาคอยอยู่ที่เมืองน่านและเมืองหลวงพระบางซึ่งอยู่ในความปกครองของไทยก็มีมาก ให้กลับคืนบ้านเมือง และเจ้าเมืองเชียงรุ้งจะถวายเครื่องราชบรรณาการ ๓ ปีครั้งอย่างประเทศราชอื่นต่อไป
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯมีพระราชดำรัสว่า ราชวงศ์เชียงรุ้งกับบริวารหนีภัยมาพึ่ง เมื่อบ้านเมืองเรียบร้อยแล้วใครประสงค์จะกลับไปก็ตามใจสมัคร ส่วนการจะตีเมืองเชียงตุงและเรื่องที่จะผูกพันกับเชียงรุ้งต่อไปอย่างไรนั้น ก็โปรดฯให้เสนาบดีปรึกษาหารือกันนำความขึ้นกราบบังคมทูล ซึ่งเหตุที่พระองค์ไม่ทรงบัญชาเรื่องนี้ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเห็นว่า การทำศึกสงครามเป็นวิชาที่พระองค์ไม่มีโอกาสได้ทรงศึกษามาเลย
ส่วนเรื่องเมืองเชียงรุ้งนั้น คงทรงเห็นเหมือนพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโหล ซึ่งเคยมีพระราชดำริมาก่อนว่า เมืองลื้อสิบสองปันนาเคยขึ้นกับพม่าและจีน และอาศัยไทยเป็นที่พึ่งเมื่อถูกพม่าหรือจีนเบียดเบียน แต่ก็ยากที่ไทยจะไปช่วยได้ เพราะหนทางไกลกันและกันดารมาก แต่จะทรงปฏิเสธก็ยาก
เผอิญในตอนนั้นอังกฤษตีเมืองพม่าเป็นครั้งที่ ๒ เห็นว่าพม่าคงจะมาช่วยเชียงตุงไม่ได้ เสนาบดีทั้งหลายจึงกราบทูลให้ถือโอกาสไปตีเชียงตุง เมื่อได้เชียงตุงแล้วก็จะได้สิบสองปันนาด้วยไม่ยาก แต่การตีครั้งนี้ควรให้มีกองทัพกรุงเทพฯขึ้นไปควบคุมกองทัพมณฑลพายัพด้วย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯจึงทรงบัญชาตามมติคณะเสนาบดี ให้เกณฑ์คนหัวเมืองพายัพ ๑๐,๐๐๐ จัดเป็น ๒ ทัพ ให้เจ้าพระยายมราช (นุช บุณยรัตพันธ์) คุมทัพหน้าไปทางเชียงใหม่ ๑ กองทัพ กับกรมหลวงวงศาธิราชสนิท เป็นจอมพล คุมทัพหลวงไปทางเมืองน่านอีกทาง สมทบกันเข้าตีเชียงตุง กองทัพที่ยกไปครั้งนี้ตีหัวเมืองรายทางได้ตลอด จนเข้าล้อมเมืองเชียงตุง แต่ก็ฝ่ากำแพงเมืองเข้าไปไม่ได้ จนขาดแคลนเสียงอาหาร ต้องถอยทัพกลับมาตั้งหลักที่เชียงแสน
ในขณะนั้นได้มีการจัดทัพแบบยุโรปขึ้นในกรุงเทพฯแล้ว คณะเสนาบดีเห็นว่าเชียงตุงอ่อนกำลังลงแล้ว ควรจะเพิ่มกำลังทัพพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าตีเชียงตุงให้ได้ในฤดูแล้งปี ๒๓๙๖ แต่ตอนนั้นพม่าสงบศึกกับอังกฤษแล้วจึงส่งกำลังมาเสริมทางเชียงตุง แต่ฝ่ายไทยไม่รู้ อีกทั้งกองทัพเจ้าพระยายมราชยังยกไปไม่ทันกำหนด กองทัพของกรมหลวงวงศาธิราชสนิทเลยต้องเผชิญกับกองทัพพม่าที่มีกำลังมากกว่า ต้องถอยทัพกลับมา สงครามไทย-พม่าที่ยืดเยื้อมากว่า ๓๐๐ ปีจึงสิ้นสุดลงในครั้งนี้
กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงให้ความเห็นที่ไทยตีเมืองเชียงตุงไม่สำเร็จ ก็เพราะไปทำสงครามในดินแดนของข้าศึก ซึ่งไทยไม่รู้จักภูมิประเทศ ทั้งยังประมาทไม่ขวนขวายในการสืบสวนหาข้อมูลให้สมกับกระบวนพิชัยสงคราม
แต่ถึงแม้จะตีเมืองเชียงตุงได้ก็คงรักษาไว้ไม่อยู่ ด้วยเป็นดินแดนที่ห่างไทยแต่ใกล้พม่ามากกว่านั่นเอง
ขณะที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีของสยามนั้น มีการทำสงครามกับพม่าทั้งหมด 24 ครั้ง ดังนี้
ปี 2082 พม่ารุกรานเมืองเชียงกราน (ปะทะกันประปรายบริเวณชายแดน)
ปี 2091 พม่ารุกเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์ระหว่างที่เกิดการแย่งชิงราชบัลลังก์ในอยุธยา
ปี 2106 อยุธยาถูกโอบล้อมและยอมแพ้ หลังจากนั้นต้องยอมส่งเครื่องบรรณาการให้พม่า
ปี 2111 ราชธานีของกรุงศรีอยุธยาถูกพระเจ้ากรุงหงสาวดีเข้ายึดครอง
ปี 2127 สมเด็จพระนเรศวรทรงกู้อิสรภาพมาให้สยามประเทศ
ปี 2127 สยามสู้รบกับเจ้าเมืองพะสิม
ปี 2128
พม่าส่งอุปราชเมืองเชียงใหม่ไปต่อสู้กับชาวสยามที่บ้านสระเกศ
ปี 2133 พระมหาอุปราชแห่งพม่ายกทัพมาครั้งแรก
ปี 2135 สมเด็จพระนเรศวรทรงทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราช
ปี 2135 ชาวสยามยึดเอาเมืองทวายและตะนาวศรีของพม่าได้
ปี 2137 สมเด็จพระนเรศวรทรงตีเอาเมืองต่างๆ ของมอญได้
ปี 2138 สมเด็จพระนเรศวรทรงยกทัพบุกเมืองหงสาวดีเป็นครั้งแรก
ปี 2142 สมเด็จพระนเรศวรทรงยกทัพบุกเมืองหงสาวดีเป็นครั้งที่สอง
ปี 2147 เป็นสงครามครั้งสุดท้ายของสมเด็จพระนเรศวร
พระองค์เสด็จสวรรคตระหว่างเคลื่อนทัพผ่านล้านนาเพื่อไปตีรัฐฉาน
ปี 2156 พม่าตีเมืองทวายและตะนาวศรี แต่ประเทศสยามสามารถกู้เมืองทั้งสองกลับคืนมาได้
ปี 2157 พม่าปิดล้อมและยึดครองเมืองเชียงใหม่
ปี 2205 พม่าเข้าโจมตีและยึดครองเมืองทวาย
ปี 2205 ประเทศสยาม (สมเด็จพระนารายณ์ฯ) ส่งเจ้าพระยาโกษาเหล็กเข้าปิดล้อมและยึดครองเมืองเชียงใหม่คืนระหว่างที่กรุงอังวะถูกจีนฮ่อโจมตี
ปี 2206 พม่าบุกมาทางด่านเจดีย์สามองค์เข้าสู่เมืองไทรโยกในอาณาเขตของสยามประเทศ
ปี 2207 ประเทศสยาม (สมเด็จพระนารายณ์)
ตั้งกองทัพเป็น 3 ทัพเข้าโจมตีพม่า
ปี 2302 พม่ารุกรานและยึดครองเมืองท่าของมอญ และเข้าปิดล้อมกรุงศรีอยุธยา
ปี 2307 พม่ายึดเอาท่าเรือของมอญอีกครั้ง ตามด้วยเมืองมะริดและเข้าโจมตีเมืองต่างๆ ทางใต้ของสยาม
ปี 2310 กองทัพพม่าจากเมืองล้านนาเข้าปิดล้อม บุกเข้าพิชิตชัยและทำลายกรุงศรีอยุธยา
ติดตามเรื่องราวต่อ