หน้าแรก
ประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์
รายละเอียด หมวด: ปฏิทินการส่งเสริมท่องเที่ยว เผยแพร่เมื่อ วันพุธ, 02 มิถุนายน 2564 04:24 เขียนโดย Super User ฮิต: 580ประวัติแหล่งท่องเที่ยวโดยย่อ
เทศบาลร่วมกับชุมชนบ้านวังกะ และวัดวงก์วิเวการาม จัดประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ชาวไทยรามัญ ภาษามอญเรียกว่า โปฮะมอดบ้าง ( โป=ถวาย , ฮะมอด=เครื่องเซ่นไหว้ , บ้าง=เรือ ) กำหนดจัด 3 วัน ในวันขึ้น 14-15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบูชาเทวดาที่อยู่ในน้ำ ในป่า และบนบก
ประวัติความเป็นมาของประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์นี้ เกิดขึ้นเมื่อครั้งพระเจ้าธรรมเจดีย์ขึ้นครองราชย์ปกครองอาณาจักรมอญ ที่เมืองหงสาวดี ทรงส่งชีปะขาวถือศีล 8 คณะหนึ่ง ออกเดินทางไปยังประเทศศรีลังกา เพื่อให้ไปถือการอุปสมบทเป็นพระภิกษุมาใหม่จากคณะสงฆ์ในประเทศศรีลังกา แล้วให้เดินทางกลับมาเป็นอุปัชฌาย์อาจารย์บวชให้แก่คนมอญในเมืองมอญเสียใหม่ เมื่อเถึงประเทศศรีลังกา ได้รับการอุปสมบทแล้วก็เดินทางกลับ ในระหว่างทางที่เดินทางกลับนั้น เรือสำเภาลำหนึ่งในจำนวนสองลำโดนพายุพัดให้หลงทิศไป เมื่อทราบถึงพระกรรณของพระเจ้าธรรมเจดีย์ พระองค์จึงมีรับสั่งให้ทำเรือจำลองขึ้นมา ข้างในบรรจุด้วยของเซ่นไหว้บูชาเหล่าเทวดาทุกหมู่เหล่า ให้เรือสำเภาที่หลงทิศไปนั้น ได้เดินมาโดยปลอดภัย หลังจากที่ทำพิธีสะเดาะเคราะห์แล้วไม่กี่วัน เรือที่หลงทิศไปนั้นก็เดินทางกลับมาถึงเมืองหงสาวดีโดยปลอดภัย
ระยะเวลา
ช่วงเดือนกันยายน
จุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยว
ชาวบ้านต่อเรือจากไม้ไผ่ เย็นวันที่๑๔ ค่ำ ชาวบ้านจะนำ “ตง” หรือ “ธง” ที่ทำจากกระดาษแก้วฉลุลวดลายมาปักไว้รอบลำเรือ และธูปเทียนตามกำลังวันวางไว้ในเรือนไม่ไผ่หลังเล็กๆและร่วมสวดมนต์ไหว้พระกับพระภิกษุสงฆ์ ต่อมาในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ ชาวบ้านจะจัดอาหาร และของเซ่นได้แก่ ข้าวสวย ข้าวตอก กล้วย อ้อย ถั่วตัด ขนมหวาน หมากพลู น้ำ เทียน และธงเล็กๆ ใส่จานไปถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพเรียกว่า“ถวายข้าวลงเรือ” ช่วงสายหลังจากสวดมนต์ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว จะทำการตักบาตรน้ำผึ้ง น้ำมันงา โดยตามตำรับยาน้ำผึ้งและน้ำมันงาเป็นส่วนผสมของยาโบราณ แต่ปัจจุบันนิยมใช้น้ำมันพืชและน้ำตาลทรายแทนเพราะสามารถหาได้ง่าย ช่วงบ่ายจะตักบาตรดอกไม้ มีการแสดง การละเล่น และปล่อยโคมใหญ่โคมเล็ก และวันสุดท้ายคือ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ชาวมอญจะร่วมพิธีปล่อยเรือลงน้ำ ชาวบ้านจะจับเชือกที่โยงจากเรือเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในการชักจูงเรือ ด้านหน้านำด้วยวงมโหรีปี่กลองเทศบาลตำบลวังกะได้เล็งเห็นความสำคัญของประเพณีดังกล่าวเพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่
Standard / by / เมษายน 26, 2016 / No Comments
ประเพณีลอยเรือ ชาวเล ของไทย
ประเพณีลอยเรือ ชาวเล จังหวัดกระบี่ เป็น งานประเพณีเก่าแก่ที่หาดูได้ยากของชาวเลเกาะลันตา งานนี้จัดขึ้นตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 และเดือน 11 โดยกลุ่มชาวเลที่เกาะลันตาและเกาะใกล้เคียง จะมาชุมนุมกันทำพิธีลอยเรือ เพื่อสะเดาะเคราะห์ บริเวณชายหาดใกล้กับบ้านศาลาด่านมีการร้องรำทำเพลง และการร่ายรำรอบลำเรือด้วยจังหวะและทำนองเพลงรองเง็ง
ประเพณีลอยเรือชาวเลกระบี่ ที่เกาะลันตานับเป็นงานประเพณีเก่าแก่ของชาวเลที่หาดูได้ยาก งานนี้จัดตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 และวันเพ็ญเดือน 11 ของทุกปี โดยกลุ่มชาวเลในบริเวณเกาะลันตาและเกาะใกล้เคียงจะมาชุมนุมกันทำพิธีลอยเรือเพื่อสะเดาะเคราะห์ ณ ชายหาดใกล้ ๆ กับบ้านศาลาด่าน ในพิธีจะมีการร้องรำทำเพลง มีการร่ายรำรอบลำเรือด้วยจังหวะและทำนองเพลงรองเง็ง
พิธีกรรม : ในวันขึ้น 13 ค่ำ ช่วงเช้า ชาวเลจะเดินทางไปบริเวณที่จะทำพิธี ผู้หญิงจะทำขนม ผู้ชายจะสร้างและซ่อมแซมที่พักชั่วคราว ช่วงเย็น ทั้งหญิงและชายจะไปรวมกันที่ศาลบรรพบุรุษเพื่อนำอาหารเครื่องเซ่นไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษเป็นการบอกกล่าวให้มาร่วมพิธีลอยเรือ
เช้าของวันขึ้น 14 ค่ำ ผู้ชายส่วนหนึ่งเดินทางไปตัดไม้ เพื่อนำไม้มาทำเรือผู้หญิงจะร้องรำทำเพลง ในขณะที่รอรับไม้บริเวณชายฝั่ง แล้วขบวนแห่จะแห่ไม้ไปวนรอบศาลบรรพบุรุษเพื่อนำกลับมาทำเรือ “ปลาจั๊ก” คืนวันขึ้น 14 ค่ำ มีพิธีฉลองเรือโดยมีการรำรอบเรือ เพื่อถวายวิญญาณบรรพบุรุษโดยใช้ดนตรีและเพลงรำมะนาประกอบวงหนึ่งและอีกวงจะเป็นการรำวงแบบสมัยใหม่มีดนตรีชาโดว์ประกอบการร้องรำ โต๊ะหมอจะทำพิธีในช่วงเริ่มฉลองเรือและมีพิธีสาดน้ำตอนเที่ยงคืน (เลฮฺบาเลฮฺ) และทำพิธีอีกครั้งในช่วงเช้าตรู่วันขึ้น 15 ค่ำ ก่อนนำเรือไปลอยในทิศทางลมซึ่งแน่ใจว่าเรือจะไม่ลอยกลับเข้าฝั่ง หลังจากนั้นแยกย้ายกันนอนพักผ่อน
บ่ายวันขึ้น 15 ค่ำ ผู้ชายส่วนหนึ่งแยกย้ายไปตัดไม้และหาใบกะพร้อเพื่อทำไม้กันผีสำหรับทำพิธีฉลองในเวลากลางคืน โดยมีพิธีกรรมเหมือนกับพิธีฉลองเรือทุกประการ จนกระทั่งใกล้จะสว่างโต๊ะหมอจะทำพิธีเสกน้ำมนต์ทำนายโชคชะตา และสะเดาะเคราะห์ให้สมาชิกที่เข้าร่วมพิธีก่อนจะอาบน้ำมนต์ และแยกย้ายกันกลับบ้านโดยนำไม้กันผีไปปักบริเวณรอบหมู่บ้านด้วย
เรือปลาจั๊กที่ทำขึ้นในพิธีลอยเรือ ทำจากไม้ตีนเป็ดและไม้ระกำเป็นสัญลักษณ์ของ “ยาน” ที่จะนำวิญญาณของคนและสัตว์ไปสู่อีกภพหนึ่ง มีชิ้นไม้ระกำที่สลักเสลาอย่างสวยงามเป็นรูปลักษณ์ต่าง ๆ ประดับประดาอยู่ในเรือ รูปนกเกาะหัวเรือ หมายถึง “โต๊ะบุหรง” บรรพบุรุษผู้ซึ่งสามารถห้ามลมห้ามฝน ลายฟันปลา หมายถึง “โต๊ะบิกง” บรรพบุรุษที่เป็นฉลาม ลายงูหมายถึง “โต๊ะอาโฆะเบอราไตย” บรรพบุรุษที่เป็นงู ฯลฯ ในเรือยังมีตุ๊กตาไม้ระกำทำหน้าที่นำเคราะห์โศกโรคภัยของสมาชิกในแต่ละครอบครัวเดินทางไปกับเรือและเครื่องเซ่นต่าง ๆ ที่จะให้วิญญาณบรรพบุรุษนำติดตัวไปยังถิ่นฐานเดิมที่เรียกว่า “ฆูนุงฌึไร”การร่ายรำแบบดั้งเดิมผสมผสานกับบทเพลงเก่าแก่และดนตรีรำมะนา เป็นส่วนประกอบที่เร้าใจและเป็นการรำถวายต่อบรรพบุรุษ ทุกคนที่รำเชื่อว่าจะได้บุญโต๊ะหมอผู้นำทั้งทางโลกและทางธรรม เชื่อว่าเป็นผู้ที่สามารถสื่อสารกับพระผู้เป็นเจ้าและวิญญาณบรรพบุรุษได้ ผู้ที่ผ่านพิธีลอยเรือถือว่าจะเป็นผู้ที่ผ่านทุกข์โศกโรคภัยไปหมดแล้ว ชีวิตต่อไปข้างหน้าจะประสบแต่ความสุขและโชคดีในการทำมาหากิน
ประเพณีลอยเรือชาวเลที่เกาะลันตา จะจัดตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 และวันเพ็ญเดือน 11 ของทุกปี