โน๊ตบุ๊ค หรือบางคนเรียกว่าแล็ปท็อป เป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก น้ำหนักเบา แรง และประสิทธิภาพสูง แม้ว่ายุคนี้ โทรศัพท์มือถือคือทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเป็นอวัยวะที่ 33 ของคนเราแล้ว แต่ลองคิดดูสิ ถ้าคุณต้องทำงานกับจอเล็ก ๆ นี่ไม่สนุกเลยนะ และนี่คือเหตุผลที่ยังไงเราก็ยังคงต้องใช้โน๊ตบุ๊คอยู่วันยังค่ำ แต่เนื่องจากเจ้าโน๊ตบุ๊คเครื่อง ๆ หนึ่งนั้นไม่ใช่ถูกเลย รุ่นที่ถูก ๆ สเปคสำหรับงานเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง ก็ขายกันราคาขั้นต่ำ 5,000-8,000 บาทแล้ว แต่ยิ่งถ้าต้องการสเปคแรง ๆ ไว้ทำงานกราฟฟิก งานประมวลผล รวมถึงไว้เล่นเกมหนัก ๆ นี่คุณอาจจะต้องจ่ายในราคา 20,000-30,000 บาทนี่เป็นเรื่องธรรมดาเลย ความเพรียวบาง น้ำหนักเบา สเปคเครื่องเทพ ๆ ล้วนยิ่งเพิ่มเงินที่คุณจะต้องจ่ายมากขึ้นไปอีกเพื่อแลกโน๊ตบุ๊คเครื่องแรง ๆ เอามาใช้งานกัน
ถ้าคุณมีงบพร้อมแล้วก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะจัดมาสักเครื่องได้เลย แต่ถ้าตรงกันข้าม คนงบน้อยล่ะจะทำยังไง กรณีนี้การผ่อนจ่ายอาจจะเป็นทางออกให้กับคุณได้ และนี่คือที่มาของบทความนี้ เนื้อหาในที่เราจะพูดกันในที่นี้เป็นการรวบรวมวิธีการและไอเดียต่างๆ ในการผ่อนโน๊ตบุ๊ค แบบที่รับของก่อน แล้วค่อยแบ่งจ่ายที่หลัง มีโปรโมชั่นอย่างดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือน หรือแบบผ่อนยาว ๆ อย่าง 24 เดือน จนถึง 48 เดือนนี่ก็ยังมี หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณสักเล็กน้อยก็ดีใจแล้ว
ถ้ามีบัตรเครดิตแล้ว ยินดีด้วย การผ่อนโน๊ตบุ๊คจะเป็นเรื่องง่ายแบบสุด ๆ
ถ้าตอนนี้คุณมีบัตรเครดิตใช้อยู่แล้ว ต้องบอกคำนี้เลย ยินดีด้วย เพราะคุณสามารถผ่อนโน๊ตบุ๊คอย่างง่ายดายแบบสุด ๆ ไปเลย เรียกว่าไม่มีอะไรง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะคุณสามารถสั่งซื้อโน๊ตบุ๊คทางออนไลน์ เวลาจ่ายเงิน ก็แค่เลือกช่องทางเป็นจ่ายด้วยบัตรเครดิต และเลือกเป็นแบบผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน เท่านี้คุณก็รอโน๊ตบุ๊คเครื่องโปรดไปส่งที่บ้านได้เลย ทางบัตรเครดิตก็จะตัดวงเงินในบัตรเป็นงวด ๆ ให้คุณค่อย ๆ ผ่อนจนกระทั่งครบเองเลยอัตโนมัติ ไม่ต้องส่งเอกสารอะไรให้ยุ่งยากทั้งสิ้น ช่องทางที่คุณสามารถไปใช้บริการได้ก็ได้แก่ แพลตฟอร์ม Marketplace ชื่อดังอย่าง Lazada หรือไม่ก็ Shopee หรือคุณอาจจะเลือกร้านค้าออนไลน์ชื่อดังอย่าง PowerBuy, Banana เป็นต้น นี่ก็ย่อมได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการผ่อนแบบปลอดดอกเบี้ย (0%) แบ่งจ่ายได้นานสูงสุด 10 เดือน
การผ่อนโน๊ตบุ๊คกับบัตรเครดิตนั้นจริง ๆ แล้วก็สามารถไปใช้บริการกับห้างสรรพสินค้าก็ได้ โดยเฉพาะในแผนกอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ข้อดีของการเลือกผ่อนกับแพลตฟอร์มหรือร้านค้าออนไลน์ชื่อดังที่เหนือกว่าห้างสรรพสินค้า ก็คือ มีรุ่นของโน๊ตบุ๊คให้คุณเลือกมากกว่านั่นเอง และเนื่องจากเป็นออนไลน์ คุณยังสามารถเปรียบเทียบราคาและครุ่นคิดเรื่องรุ่นหรือสเปคที่ต้องการ ได้ง่ายกว่าด้วย
รู้หรือไม่!? – แม้ว่าคุณสามารถผ่อนโน๊ตบุ๊คโดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิตก็ได้อยู่ อาจจะใช้สลิปเงินเดือนหรือบัตรประชาชนอะไรก็แล้วแต่ แต่ยังไงมันก็ยากอยู่ดี แถมมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย
โดยเฉพาะดอกเบี้ยที่จะถูกเรียกเก็บแพง ๆ ดังนั้น หากคุณเป็นคนทำงาน มีรายได้แล้ว และมีฐานรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ขอแนะนำให้คุณสมัครบัตรเครดิตเป็นของตัวเองสักใบจะดีกว่า เพราะไม่ได้ยากลำบากอะไร แต่จะทำให้คุณผ่อนโน๊ตบุ๊คหรือสินค้าอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายขึ้น และไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเลยเพราะดอกเบี้ยเป็นแบบ 0%
ลองสมัครบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ดู
สมัครง่ายผ่านออนไลน์ (เอาไปใช้ผ่อนได้ที่ Lazada / Shopee)
รู้หรือไม่!? – นอกจากการผ่อนแล้ว คุณอาจจะเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คมือสองแทนก็ได้ เพียงแต่คุณอาจจะต้องเลือกซื้อจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ หรืออาจจะอ่านรีวิวของผู้ที่ซื้อไปจริง ๆ ว่าดีหรือไม่ก่อนตัดสินใจจ่ายเงิน รุ่นที่สเปคดี ๆ แรง ๆ เล่นเกมส์ได้ คุณอาจจะสามารถซื้อได้ในราคาไม่ถึงหมื่นบาทก็ได้ ดูราคาล่าสุดและสั่งซื้อโน๊ตบุ๊คมือสองหลากหลายรุ่นและยี่ห้อได้ที่นี่:
ไม่มีบัตรเครดิต ก็ผ่อนโน๊ตบุ๊คได้นะ ใช้เพียงบัตรบัตรประชาชน แม้แต่นักศึกษายังผ่อนได้เลย
อุปสรรคของคนอยากผ่อน ไม่ใช่เฉพาะโน๊ตบุ๊คเท่านั้นนะ ผ่อนอะไรอย่างอื่นด้วย เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น นั่นก็คือ ไม่ใช่ทุกคนจะมีบัตรเครดิต อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ ถ้ามีบัตรนี่ อะไรก็ง่าย ไม่กี่ขั้นตอน สั่งปุ๊บ ไม่กี่วันโน๊ตบุ๊คก็มาส่งถึงบ้านปั๊บ แล้วก็ค่อยผ่อนจ่ายยอดที่เรียกเก็บรายเดือนผ่านบัตรเครดิตไปเรื่อย ๆ แถมดอกเบี้ยยัง 0% อีกต่างหาก แต่พอไม่มีบัตร อะไร ๆ ก็ยากขึ้นมาทันที จะทำยังไงล่ะ จริง ๆ แล้วก็ยังมีช่องทางให้คนไม่มีบัตรเครดิตสามารถผ่อนโน๊ตบุ๊คได้อยู่
กรณีที่คุณเป็นนักศึกษา เรียนอยู่ ยังไม่มีรายได้ ก็สามารถเข้าไปใช้บริการผ่อนโน๊ตบุ๊คจากแอปผ่อนสินค้าชื่อดังที่สุดในตอนนี้ ซึ่งก็คงหนีไม่พ้น แอปที่เค้านิยมเรียกกันว่า แอปสีส้ม ซึ่้งก็คือ แอป Thisshop นั่นเอง ที่แอปสีส้มนี้ฮอตฮิตเอามาก ๆ เพราะเป็นบริการให้ผ่อนสินค้าโดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต นักศึกษาที่เรียนระดับวิทยาลัยไปจนถึงมหาวิทยาลัยสามารถผ่อนได้ด้วย แม้ว่าจะไม่มีรายได้ก็ตาม ทำให้แอปตัวนี้ถูกพูดถึงอย่างมากในโซเชียลมีเดีย วิธีการใช้ของแอป Thisshop นั้นก็เริ่มจากการโหลดแอปพลิเคชั่นนี้มาลงโทรศัพท์มือถือของตัวเองหรือจะเข้าทางเว็บไซต์ก็ได้ แล้วก็สมัครสมาชิกเหมือนแอปปกติทั่วไป หลังจากนั้นแอปเค้าจะให้ขอวงเงินสำหรับผ่อน ในแอปจะเรียกว่า พอยท์ คุณจะสามารถผ่อนโน๊ตบุ๊คเครื่องต้องการได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพอยท์นี้ล่ะ ในขั้นตอนของพอยท์ต้องอัปโหลดภาพบัตรประชาชนและภาพหน้าตัวเองถ่ายคู่กับบัตรประชาชน เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน และอัปโหลดภาพหลักฐานแสดงสถานะการเป็นนักศึกษา อย่างบัตรนักศึกษา หรือระเบียนประวัตินักศึกษา แล้วก็ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ รวมถึงบุคคลสำหรับติดต่อยามฉุกเฉิน อย่างพ่อหรือแม่ พร้อมเบอร์ติดต่อด้วย ถ้าประวัติของคุณผ่านการอนุมัติ คุณก็จะได้พอยท์เอาไปใช้ได้เลย จากการสำรวจล่าสุด ก็พบว่ามีโน๊ตบุ๊คหลากหลายรุ่นและยี่ห้อให้เลือกผ่อนกันมากมาย ส่วนกรณีถ้าคุณทำงานแล้ว ไม่ได้เป็นนักศึกษาแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้แอปนี้ก็ยังให้บริการผ่อนอยู่ แต่ล่าสุด ณ วันที่เขียนบทความนี้พบว่า บุคคลทั่วไปไม่สามารถขอพอยท์สำหรับใช้ผ่อนสินค้ากับแอปนี้อีกได้แล้ว ถ้าต้องการซื้อโน๊ตบุ๊คต้องจ่ายเป็นเงินจำนวนเต็มเท่านั้น (ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลง คุณต้องเข้าไปเช็คเอาเองอีกที)
แล้วอย่างนี้ คนทำงานมีรายได้แต่ไม่มีบัตรเครดิต จะผ่อนโน๊ตบุ๊คได้ยังไง ? … ยังมีอีกวิธีคือ ไปสมัครบัตรกดเงินสด ที่บางคนเรียกบัตรพวกนี้ว่า บัตรผ่อนสินค้า นั่นเอง เนื่องจากผู้ที่จะสามารถครอบครองบัตรกดเงินสดได้นั้น ก็มักจะไม่จำเป็นต้องมีรายได้ต่อเดือนถึง 15,000 บาทเหมือนคนถือบัตรเครดิตก็ได้ เช่น ถ้าคุณมีรายได้ต่อเดือน 8,000 บาท ก็อาจจะเลือกสมัครบัตรอิออน หรือถ้าคุณมีรายได้ต่อเดือน 12,000 บาท ก็อาจจะเลือกสมัครบัตรเคทีซีพราว เป็นต้น หลักจากนั้นก็ลองไปเดินสำรวจโน๊ตบุ๊ครุ่นที่คุณอยากได้ตามแผนกอิเล็กทรอนิกส์ของห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะห้างใหญ่ ๆ นี่มีแน่นอน ที่นั่นนอกจากจะจ่ายเงินซื้อด้วยเงินสดแล้ว มักจะสามารถเลือกผ่อนชำระด้วยบัตรกดเงินเหล่านี้ได้ แต่จำไว้ว่าก่อนการตัดสินใจรูดซื้อไปแล้ว ต้องแน่ใจก่อนว่า โน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นอยู่ในแพลนผ่อนชำระของบัตรกดเงินนั้นอยู่ โดยมักจะมีป้ายเล็ก ๆ เขียนบอกไว้อยู่หรือถามพนักงานขายให้แน่นอน เช่น ถ้าเป็นบัตรอิออน เค้าจะเขียนว่าเป็น AEON Happy Plan ซึ่งอันนี้เราจะได้ดอกเบี้ยแบบ 0% แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามที่คุณใช้บัตรกดเงินไปใช้รูดซื้อโน๊ตบุ๊คเฉย ๆ เลยโดยไม่มีแพลนดังกล่าวนี้ นั่นก็เท่ากับว่าเป็นการกดเงินสดจากบัตรออกมาใช้ คุณจะเจอกับดอกเบี้ยที่แสนแพง อาจจะสูงถึง 16-28% ต่อปีเลยทีเดียว (แล้วแต่ว่าเป็นบัตรกดเงินของอะไร)
ผ่อนโน๊ตบุ๊คกับ Lazada มาร์เก็ตเพลสอันดับ 1 (ใช้บัตรเครดิต)
สำหรับช่องทางมีข้อดีคือ มีโน๊ตบุ๊คให้เลือกผ่อนมากมาย หลากหลายรุ่นและยี่ห้อมาก ๆ และที่สำคัญเป็นแบบผ่อนจ่าย 0% ด้วย หมายความว่าไม่มีดอกเบี้ยมาบวกเพิ่มอะไร ราคาเครื่องเท่าไร ก็หารจำนวนเดือนที่จะแบ่งจ่ายได้เลย แต่ถ้าคุณไม่มีบัตรเครดิต อันนี้คือข้อด้อย เพราะคุณจะหมดสิทธิ์ผ่อนแน่นอน
ช่องทางผ่อน | Lazada (ใช้บัตรเครดิต) (ดูโน๊ตบุ๊คที่ผ่อนได้ทั้งหมดในลาซาด้าที่นี่) |
ข้อดี | เป็นผ่อนแบบ 0%, มีโน๊ตบุ๊คมากมายหลากหลายรุ่นและยี่ห้อให้เลือกผ่อน |
ข้อเสีย | ถ้าไม่มีบัตรเครดิต จะไม่สามารถผ่อนได้ |
ช่องทางการซื้อ | คุณสามารถดูราคาล่าสุดของโน๊ตบุ๊คทุกรุ่นทุกยี่ห้อได้ที่นี่: |
คำแนะนำ | ถ้าคุณมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป แนะนำให้ทำบัตรเครดิตเป็นของตัวเอง เพราะการผ่อนโน๊ตบุ๊คจะง่ายขึ้นมาก ๆ ตัวอย่างบัตรเครดิตยอดนิยมที่สามารถนำไปใช้ผ่อนได้ที่ Lazada และร้านออนไลน์ต่าง ๆ เป็นดังต่อไปนี้
|
ผ่อนโน๊ตบุ๊คกับ Shopee มาร์เก็ตเพลสอันดับ 2 (ใช้บัตรเครดิต)
Shopee ก็เป็นเช่นเดียวกับ Lazada คือเป็นแพลทฟอร์มที่คุณสามารถเข้าไปเลือกผ่อนโน๊ตบุ๊ครุ่นต่าง ๆ มากมายครบทุกยี่ห้อ สเปคพื้นฐานสำหรับคนมีคอมเครื่องแรก หรือจะแรงโหด ๆ สำหรับเล่นเกมส์ก็มีมากมาย ถ้าคุณเลือกผ่อนกับช่องทางนี้ คุณต้องใช้บัตรเครดิตในการผ่อนด้วย โดยคิดดอกเบี้ย 0% ระยะเวลาแบ่งชำระนานสูงสุด 10 เดือน
ช่องทางผ่อน | Shopee (ใช้บัตรเครดิต) |
ข้อดี | เป็นผ่อนแบบ 0%, มีโน๊ตบุ๊คมากมายหลากหลายรุ่นและยี่ห้อให้เลือกผ่อน |
ข้อเสีย | ถ้าไม่มีบัตรเครดิต จะไม่สามารถผ่อนได้ |
ช่องทางการซื้อ | คุณสามารถดูราคาล่าสุดของโน๊ตบุ๊คทุกรุ่นทุกยี่ห้อได้ที่นี่: |
คำแนะนำ | ถ้าคุณมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป แนะนำให้ทำบัตรเครดิตเป็นของตัวเอง เพราะการผ่อนโน๊ตบุ๊คจะง่ายขึ้นมาก ๆ ตัวอย่างบัตรเครดิตยอดนิยมที่สามารถนำไปใช้ผ่อนได้ที่ Lazada และร้านออนไลน์ต่าง ๆ เป็นดังต่อไปนี้
|
ผ่อนโน๊ตบุ๊คกับ PowerBuy ร้านสินค้าไอทีจากห้างสู่ออนไลน์ (ใช้บัตรเครดิต)
เราจะคุ้นเคย PowerBuy กันเป็นอย่างดีในฐานะแผนกขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและไอทีในห้างสรรพสินค้า แต่ตอนนี้ PowerBuy เค้ามีแบบร้านค้าออนไลน์ด้วย ซึ่งก็ขายสินค้าไอทีและเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน แม้ว่า PowerBuy อาจจะมีโน๊ตบุ๊คให้เลือกไม่หลากหลายเท่า Lazada หรือ Shopee ก็ตาม แต่ข้อดีของ PowerBuy ที่เหนือกว่าแพลทฟอร์มมาร์เก็ตเพลสชื่อดังดังกล่าว ก็คือ ความน่าเชื่อถือของสินค้า อย่างที่เห็นชัด ๆ เลย เราสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้สินค้าของแท้แน่นอน ไม่ต้องกังวลเรื่องของปลอมเหมือนแพลทฟอร์มอื่น เช่น แฟรชไดรฟ์ หูฟัง อุปกรณ์แกดเจ็ต เป็นต้น ทีนี้พอมาเป็นโน๊ตบุ๊ค ไม่มีปัญหาเรื่องของปลอมอยู่แล้ว แต่จุดเด่นของการซื้อโน๊ตบุ๊คกับ PowerBuy ก็คือ เรื่องการรับประกันและบริการหลังการขาย นั่นเอง ถ้าซื้อไปแล้วเครื่องมีปัญหาก็ส่งซ่อมได้โดยตรง ซึ่งต่างจากซื้อกับแพลทฟอร์มมาร์เก็ตเพลส ถ้าเป็นร้านแบบ Official ก็พอจะติดต่อส่งซื้อได้บ้าง แต่ถ้าเป็นร้านเล็ก ๆ หรือร้านอยู่ต่างจังหวัด หรือเป็นบุคคลธรรมดาขายให้เรา นี่ต้องติดต่อพูดคุย ตามตัวกันให้ยุ่งยากเป็นแน่แท้ เอาล่ะมาที่เรื่องของเรา เรื่องของการผ่อน เราสามารถผ่อนโน๊ตบุ๊คได้ที่ PowerBuy เช่นกัน โดยต้องใช้บัตรเครดิต และเป็นแบบดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน
ช่องทางผ่อน | PowerBuy (ใช้บัตรเครดิต) |
ข้อดี | เป็นผ่อนแบบ 0%, มีบริการหลังการขายที่น่าเชื่อถือและดีกว่า Platform อื่น |
ข้อเสีย | ถ้าไม่มีบัตรเครดิต จะไม่สามารถผ่อนได้ |
คำแนะนำ | ถ้าคุณมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป แนะนำให้ทำบัตรเครดิตเป็นของตัวเอง เพราะการผ่อนโน๊ตบุ๊คจะง่ายขึ้นมาก ๆ ตัวอย่างบัตรเครดิตยอดนิยมที่สามารถนำไปใช้ผ่อนได้ที่ Lazada และร้านออนไลน์ต่าง ๆ เป็นดังต่อไปนี้
|
ผ่อนโน๊ตบุ๊คกับ Banana IT ผ่อนยาวกว่า สูงสุด 15 เดือน (ใช้บัตรเครดิต)
Banana IT สโตร์ขายสินค้าไอทีที่ทุกคนคุ้นตาในห้างสรรพสินค้า แต่ทุกอย่างก็ไปออนไลน์กันหมด ร้านนี้ก็เช่นกัน คุณอาจจะเลือกสั่งแบบออนไลน์ก็ได้ แม้ว่าจะมีโน๊ตบุ๊คให้เลือกไม่ได้มากมายมหาศาลเหมือนกับทางมาร์เก็ตเพลสชื่อดัง แต่ก็ถือว่ามีให้เลือกครบและแบ่งหมวดหมู่ให้เลือกได้ง่าย ตั้งแต่โน๊ตบุ๊คสำหรับใช้งานทั่วไป โน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ โน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางและน้ำหนักเบาพกพาสะดวก ไปจนถึงแบบทูอินวันคือเป็นแท็บเล็ตก็ได้หรือจะเป็นแล็ปท็อปก็ได้ แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องผ่อน ไฮไลท์ของ Banana IT นานจะอยู่ที่ระยะเวลาการผ่อนที่ให้ยาวนานกว่าชาวบ้านเค้า คือแน่นอนละคือเป็นการผ่อนแบบ 0% และต้องใช้บัตรเครดิต แต่ระยะเวลาการผ่อนมีให้เลือกตั้งแต่ 3 เดือน, 6 เดือน, 10 เดือน ไปจนถึง 15 เดือน เรียกว่าผ่อนกันยาว ๆ จนลืมกันไปเลย
ช่องทางผ่อน | Banana IT (ใช้บัตรเครดิต) |
ข้อดี | เป็นผ่อนแบบ 0%, ระยะเวลาผ่อนที่ยาวนานกว่าร้านอื่น สูงสุด 15 เดือน |
ข้อเสีย | ถ้าไม่มีบัตรเครดิต จะไม่สามารถผ่อนได้ |
คำแนะนำ | ถ้าคุณมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป แนะนำให้ทำบัตรเครดิตเป็นของตัวเอง เพราะการผ่อนโน๊ตบุ๊คจะง่ายขึ้นมาก ๆ ตัวอย่างบัตรเครดิตยอดนิยมที่สามารถนำไปใช้ผ่อนได้ที่ Lazada และร้านออนไลน์ต่าง ๆ เป็นดังต่อไปนี้
|
ผ่อนโน๊ตบุ๊คกับ JD Central มีให้เลือกผ่อนเยอะ หลากหลายสเปคและยี่ห้อ (ใช้บัตรเครดิต)
ความโดดเด่นของแพลทฟอร์มมาร์เก็ตเพลส JD Central คือ เปิดให้เฉพาะร้านค้าย่อย ๆ ที่น่าเชื่อถือเท่านั้นให้เอาของมาขายในแพลทฟอร์ม นั่นหมายความว่า สินค้าที่ขายอยู่เป็นของแท้และเป็นของใหม่แน่นอน ถึงขนาดบอกว่าจะจ่ายชดเชย 3 เท่าหากพบสินค้าปลอมในร้านค้าที่เป็นทางการแบบนั้นเลยทีเดียว ดังนั้น ถ้าคุณจะซื้อสินค้าอย่างพวก หูฟัง แฟรชไดร์ฟ พาวเวอร์แบงก์ หรือพวกแกดเจ็ตต่าง ๆ JD Central สามารถเป็นแหล่งซื้อหนึ่งที่น่าลองใช้บริการดูได้เลย แต่สำหรับโน๊ตบุ๊ตนั้นอาจจะไม่มีปัญหาเรื่องของปลอมอะไร แต่จุดเด่นในการซื้อโน๊ตบุ๊คที่ JD Central ก็คือ ผู้ขายที่น่าเชื่อถือและมีให้เลือกหลากหลายมากมาย ทั้งที่ JD Central ขายเอง และร้านค้าย่อยอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงก็เข้ามาขายกันมากมาย แม้แต่เจ้าของแบรนด์เองก็ยังมาเปิดเป็น Official Store ขายสินค้าของตัวเองไปยังลูกค้าโดยตรงเลย เช่น HP Official Store, Lenovo Authorized Store เป็นต้น และแน่นอนตัวเลือกในการชำระค่าสินค้าตอนจะสั่งซื้อโน๊ตบุ๊คสักเครื่อง ก็มีแบบผ่อนชำระ 0% ด้วย แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกเครื่องจะสามารถผ่อนได้ แต่ก็มีให้เลือกผ่อนกันมากมายหลายรุ่นและสเปคจริง ๆ
ช่องทางผ่อน | JD Central (ใช้บัตรเครดิต) |
ข้อดี | เป็นผ่อนแบบ 0%, มีโน๊ตบุ๊คให้เลือกผ่อนมากมาย จากผู้ขายที่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะ Official Store |
ข้อเสีย | ถ้าไม่มีบัตรเครดิต จะไม่สามารถผ่อนได้, สามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดเพียง 6 เดือนเท่านั้น |
คำแนะนำ | ถ้าคุณมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป แนะนำให้ทำบัตรเครดิตเป็นของตัวเอง เพราะการผ่อนโน๊ตบุ๊คจะง่ายขึ้นมาก ๆ ตัวอย่างบัตรเครดิตยอดนิยมที่สามารถนำไปใช้ผ่อนได้ที่ Lazada และร้านออนไลน์ต่าง ๆ เป็นดังต่อไปนี้
|
ผ่อนโน๊ตบุ๊คกับ Thisshop โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต นักศึกษาไม่มีรายได้ก็ผ่อนได้
ถ้าคุณไม่มีบัตรเครดิตเป็นของตัวเองล่ะก็0 การจะผ่อนโน๊ตบุ๊คได้ก็ต้องหวังพึ่ง Thisshop นี่ล่ะ โดยคุณสามารถเข้าไปใช้บริการได้ทั้งแบบเว็บไซต์และแบบแอปพลิเคชั่นเลย ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่าที่ Thisshop มีโน๊ตบุ๊คให้เลือกมากมายหลายรุ่นและยี่ห้ออยู่พอสมควรเลย แต่จากที่สังเกต ยี่ห้อของโน๊ตบุ๊คดัง ๆ อย่างพวก HP, Dell, Asus หรือแม้แต่ Acer อะไรพวกนี้จะมีให้เลือกน้อยไปหน่อย (อย่างน้อยก็ตอนที่เขียนบทความนี้ ในอนาคตไม่แน่ใจว่าจะมีเพิ่มเข้ามารึเปล่า) ยี่ห้อที่มีให้เลือกมากจริง ๆ ก็คือแบรนด์จีนดัง ๆ อย่าง Lenovo และ Xiaomi (เสียวหมี่มีโน๊ตบุ๊คด้วย เพิ่งรู้) ส่วนการผ่อน (อธิบายไปแล้วในหัวข้อหลักด้าน) จะเป็นแบบต้องวางเงินดาวน์ เลือกระยะเวลาผ่อนได้นานกว่าร้านค้าอื่นทั่วไป อาจจะได้ผ่อนยาว ๆ นานถึง 12-18 เดือนก็มี และแม้ว่าจะไม่ได้ระบุว่ามีการคิดดอกเบี้ย แต่ถ้าลองรวมเงินที่ต้องจ่ายแบ่งชำระไปทุกเดือนจนครบแล้ว จะแพงกว่าซื้อด้วยเงินสดเอามาก ๆ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คุณต้องยอมรับ เพราะในเมื่อไม่มีบัตรเครดิต แต่อยากจะผ่อนก็ต้องจ่ายแพงกว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
ช่องทางผ่อน | Thisshop (ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต) |
ข้อดี | ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้, ระยะเวลาผ่อนที่ยาวนาน สูงสุด 12-18 เดือน, นักศึกษาไม่มีรายได้ก็ผ่อนได้ |
ข้อเสีย | ต้องส่งเอกสารขอวงเงิน (พอยท์), ต้องจ่ายเงินดาวน์, เมื่อรวมยอดที่ต้องผ่อนจ่ายทั้งหมด โน๊ตบุ๊คจะมีราคาแพงกว่าซื้อเงินสดอยู่มาก |
ผ่อนโน๊ตบุ๊คกับบัตรกดเงินสดหรือบัตรผ่อนสินค้า
สำหรับบางคนที่มีรายได้อยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ประวัติทางการเงินดี และอยากจะผ่อนโน๊ตบุ๊ค ก็เลยเลือกที่จะไปสมัครบัตรเครดิตเป็นของตัวเองสักใบ แต่ปรากฏว่าพอไปขอทำแล้วกลับไม่ได้รับการอนุมัติซะงั้น เหตุผลหนึ่งก็คือ รายได้อาจจะไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดหรืออีกนิดเดียวฉิวเฉียดก็จะถึงเกณฑ์แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ก็อาจจะลองไปสมัครบัตรเครดิตจากธนาคารอื่นดู หรือไม่ก็เปลี่ยนมาเป็นสมัครบัตรกดเงินสดดูแทนก็ได้ เนื่องจากเกณฑ์การพิจารณาอนุมัตินั้นง่ายกว่า โดยเฉพาะเรื่องคุณสมบัติด้านรายได้ต่อเดือนของผู้สมัครบัตรกดเงินสดที่มีเกณฑ์ต่ำกว่าของบัตรเครดิต บางสถาบัน รายได้แค่ 8,000 บาทต่อเดือนก็ผ่านเกณฑ์แล้วก็มี
คำถามต่อมาก็คือ แล้วผู้ถือบัตรกดเงินสด จะไปหาผ่อนโน๊ตบุ๊คได้ที่ไหน ซึ่งอย่าลืมว่าบัตรกดเงินนั้น ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งอย่างไม่เป็นทางการว่า บัตรผ่อนสินค้า นั่นก็เพราะว่ามันสามารถเอาไปผ่อนของได้ด้วยนั่นเอง การผ่อนของบัตรกดเงินพวกนี้จะอยู่ในรูปของโปรโมชั่นที่ออกมาในระยะเวลาที่จำกัดช่วงหนึ่ง เช่น 1 เดือน, 3 เดือน, 4 เดือน เป็นต้น และถ้าคุณหาโปรโมชั่นเหล่านั้นดี ๆ ก็อาจจะเจอโปรโมชั่นผ่อนโน๊ตบุ๊คที่เรากำลังอยากได้ก็เป็นได้ แต่จะได้ผ่อน 0% หรือผ่อนได้ยาวนานแค่ไหนกี่เดือน อันนี้ก็แล้วแต่โปรโมชั่นที่ออกมาแต่ละอันของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร
ช่องทางผ่อน | บัตรกดเงินสด |
ข้อดี | สามารถเลือกผ่อนโน๊ตบุ๊คได้ตามโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ซึ่งมีมาเรื่อย ๆ บางโปรอาจจะให้ผ่อน 0% ได้นานถึง 24 เดือนหรือ 2 ปีเลยก็มี |
ข้อเสีย | ต้องเป็นคนมีรายได้จึงจะมีบัตรผ่อนสินค้าเหล่านี้ได้, หากผิดนัดชำระ จะถูกคิดดอกเบี้ยที่แพง |
คำแนะนำ | โปรโมชั่นของบัตรกดเงินก็เป็นอีกช่องทางที่เป็นช่องทางให้สามารถผ่อนโน๊ตบุ๊คได้ ถ้ามีบัตรเหล่านี้อยู่แล้ว ลองเข้าไปหาโปรโมชั่นล่าสุดของบัตรตัวเองดู น่าจะเจอโปรผ่อนสินค้าไอทีแบบยาว ๆ ที่ต้องการแน่ ๆ แต่ถ้ายังไม่มีบัตรกดเงินอาจจะลองสมัครดูสักใบก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไร
|
รู้หรือไม่!? – นอกจากการผ่อนแล้ว คุณอาจจะเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คมือสองแทนก็ได้ เพียงแต่คุณอาจจะต้องเลือกซื้อจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ หรืออาจจะอ่านรีวิวของผู้ที่ซื้อไปจริง ๆ ว่าดีหรือไม่ก่อนตัดสินใจจ่ายเงิน รุ่นที่สเปคดี ๆ แรง ๆ เล่นเกมส์ได้ คุณอาจจะสามารถซื้อได้ในราคาไม่ถึงหมื่นบาทก็ได้ ดูราคาล่าสุดและสั่งซื้อโน๊ตบุ๊คมือสองหลากหลายรุ่นและยี่ห้อได้ที่นี่:
สรุป
การผ่อนโน๊ตบุ๊คนั้น สิ่งที่จำเป็นที่คุณต้องมีก็คือ บัตรเครดิต มีร้านค้าต่าง ๆ พร้อมให้คุณได้เลือกผ่อนหลากหลายสเปคและยี่ห้อ และทั้งหมดจะเป็นแบบผ่อน 0% นานตั้งแต่ 3, 4, 6 ไปจนถึง 10 เดือน นอกจากนี้บางร้านอาจจะให้ยาวนานถึง 15 เดือนเลยก็มี แต่ถ้าคุณยังไม่มีบัตรเครดิต ก็ยังคงผ่อนโน๊ตบุ๊คได้อยู่นั่นแหละ โดยใช้บริการแอปผ่อนสินค้า เพียงแต่ต้องยอมรับขั้นตอนที่ซับซ้อนและค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้น เช่น ก่อนจะผ่อนได้ต้องขอวงเงินก่อนโดยต้องส่งเอกสาร ต้องวางเงินดาวน์ก่อนด้วย ต้องยอมจ่ายเงินที่แพงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับซื้อด้วยเงินสดหรือผ่อนด้วยบัตรเครดิต เป็นต้น สำหรับบางคนแม้ไม่มีบัตรเครดิตแต่มีบัตรกดเงินสดอยู่ แนะนำให้ลองไปดูโปรโมชั่นบัตรนั้นของตัวเองว่ามีโปรอะไรบ้างในเดือนนี้ เพราะบ่อยครั้งที่บัตรกดเงินสดจะมีโปรโมชั่นให้ผ่อนสินค้าไอทีอยู่ด้วย ข้อดีคือมักเป็นผ่อนแบบ 0% และได้ระยะเวลาการแบ่งจ่ายที่ยาวนานมาก ๆ อาจจะได้ยาวถึง 24 เดือน หรือบางโปรอาจจะให้ยาวถึง 48 เดือนเลยก็มีมาแล้ว