ไม่ยักคิดว่าต้องมาตั้งกระทู้แนวนี้ เออเนอะ...เราเริ่มต้นเข้าวัยทำงานแล้วนี่นา (อายุย่าง26)
ทำไมรู้สึกยังไม่อายุขนาดนี้ 5555 ไม่พร้อมที่จะแก่ตัว เข้าวัย 30 งี้
ตอนนี้เลยทำงานอยู่ที่สถานที่ราชการแห่งหนึ่ง เป็นเจ้าหน้าที่จ้างเหมาบริการ ไม่มีสวัสดิการอะไรเหมือนราชการเลย
จริงๆครอบครัว (คุณพ่อ)เราค่อนข้างอยากให้เรามั่นคงโดยการให้ไปทำราชการ แต่ส่วนตัวอย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าเราไม่อยากอยู่ไทย (อยากไปดิ้นรนตปท.เพราะตั้งแต่เด็กก็มีโอกาสได้ไปเรียนอินเตอร์ที่มาเล หลังปี4ก็ไป WAT2019) เลยแบบอยากย้าย ด้วยความที่ลองไปอยู่มาแล้วคือรอดแน่นอน ขาดแค่วีซ่า 5555 แง และตัวเองติด comfortzone มากเกินไป. . .
อ่ะเข้าเรื่อง พอพูดถึงเรื่องที่ทำงานกับ ความ toxic ของหัวหน้า + ที่กอง
พูดละรู้สึกปวดใจ คือออกอ่ะออกได้ แต่เรายังติดอยู่ความคาดหวังอย่างนึง
คือหัวหน้าเราเค้าเรียนเก่งแหละ จบโทเมกา (เด็กทุน) ดูจากที่ร่วมงานมาและพอรู้ประวัติ นางก็คือเป็นสาวที่ค่อนข้างพูดมาก (รอบรู้ทุกเรื่อง) และอวยยศเมกาหนักมาก เวลาเจอใครจบจากเมกา นางก็จะแบบนี่แหละ คนที่จบเมกาจะความคิดแบบนี้ แต่นางเคยทำงานองค์กรเอกชนและรัฐบาลต่างประเทศใหญ่ๆนะ คืออันนี้ยอมรับจริง connection เยอะมาก คือเก่งแหละ แค่บางเรื่องจะดูมั่วๆไปเยอะ
ความ toxic ที่เจอคือ1.ห้ามใครเก่งกว่า หรือรู้มากกว่าเค้า ไม่งั้นเค้าจะหาคำพูดหรือ fact/laws ข้อกฏหมายอะไรงี้มาแย้งและต้องพูดจนคนที่คุยด้วยยอมรับสิ่งที่เค้าพูด (อ่ะไม่ได้ toxic ทุกครั้งแต่มันมีหลายๆทีที่เราเจอแล้วมันแบบ อิหยังวะ คือมันมีมุมมองหลายมุม อย่ายัดเยียดความคิดตัวเองที่คิดว่าถูกเสมอให้กับคนอื่นได้ไหม)
2.วาดฝัน และคิดว่าทุกคนมีฐานะเหมือนเค้า โอเคข้อนี้ขออธิบายหน่อย คือเราไปเรียนอินเตอร์ที่มาเลก็จริง แต่พ่อแม่เราส่งทั้งพี่ชายและเราไปเรียน ซึ่งค่าใช้จ่ายก็สูง บ้านเราฐานะปานกลาง แม่เราเสียแล้ว ตอนนี้พ่อเรา retired อยู่บ้าน ซึ่งหัวหน้าเรารู้เรื่องนี้ ว่าบ้านเราไม่มีเงินส่งเรียนต่อโทแล้ว แต่เค้าก็พูดแบบ เราไปนู่นนี่ให้ไปเรียนเป็นนักจิตที่เมกา หรือไปแบบต่างประเทศ และวาดฝันว่าให้เราเรียนจบปริญญาเอกเลย
ซึ่งความเป็นจริงอ่ะ พ่อเราส่งเราไม่ไหวแล้ว ให้เราไปหาทุนเอง ซึ่งจริงๆ หาทุนได้ แต่เกรดมหาลัยเราตอนนั้นทำได้แค่ 2.65 มันไม่ได้ทุนด้วยซ้ำ หัวหน้าเค้าชอบส่งทุนมาให้ก็จริง แต่พอเรากดเข้าดู คือเราก้ไม่ qualified แล้วอ่ะ คือมันไม่ได้ไง แล้วเค้าชอบบอกว่าหวังดีนะ นู่นนี่ คือเค้ารู้เรื่องเรา เรื่องเกรด เรื่องฐานะที่บ้าน แต่เค้าก็ไม่ยอมหยุดสร้างฝันอ่ะ (ฝันได้ค่ะ แต่ต้องมองความเป็นจริงด้วย)
3. เราเคยทะเลาะกับเค้า เพราะช่วงโควิดที่ผ่านมา คือมันต้อง WFH ไง แล้วเค้าเป็นคนอยู่ไม่ติดบ้าน มีวันนึงแม่ของรุ่นน้องเรามาผ่าตัดที่กทม. น้องเลยขอมานอนบ้านเราด้วย และเราต้องออกไปข้างนอกเพื่อประชุมกับองค์กรอื่นตอนบ่าย(และจริงๆมันประชุมออนไลน์ได้แต่เค้าไม่ยอม) แล้วรุ่นน้องเลยขอมาด้วย น้องบอกงั้นเดี๋ยวแยกก่อนพี่ไปประชุม (น้องไม่เกี่ยวไรอยู่แล้วเพราะน้องจะแยกก่อนเราเจอหัวหน้า) เราไปบอกเค้า เค้าโทรมาวีนใส่เราบอก ทำไมไม่ทำงาน (คือเราแค่ถามเค้าว่า ช่วง10โมงเรากำลังเดินทางนะ เราไม่สะดวกแวะเจอเค้าข้างนอกก่อน(เพราะรุ่นน้องเรามาด้วย) ไปเจอที่ประชุมตอนบ่ายเลย) สรุปโดนวีนใส่บอกว่า ให้เราเลือกมาจะไปประชุมร้านกาแฟที่ทำงานก่อน(คนละที่กับที่ประชุม) หรือจะไปประชุมในเมืองกับองค์กรอื่น แต่เจอตอน 10โมงแถวนั้นก่อน ซึ่งมันก็แบบอิหยังวะ คือนี่แค่ถามว่าไม่เจอได้ไหม มีรุ่นน้องมาด้วย เลยน่าจะต้องไปแวะส่งน้องก่อนแล้วไปเจอตอนบ่ายเลย แต่สรุปโดนวีน แล้วนางก็ขู่เราว่าถ้าเราทำไม่ดีพี่ประเมิณน้องออกได้ (จริงๆเราอยากออกแต่ยังไม่ได้บอกเค้า)
คือนางจะอารมณ์แบบว่า ถ้าสิ่งที่นาง control ไม่ได้ นางจะวีน นางจะหัวเสีย ไม่ยอมเด็ดขาด ทุกอย่างต้องอยู่ในสิ่งที่นางควบคุมได้
4. เรื่อง manipulation ของหัวหน้า คือนางต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะวิธีไหน ไม่ว่าจะบอกความจริงไม่หมด ความเหลี่ยมใส่หัวหน้าคนอื่น (องค์กรอื่นด้วยนะ) ใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆ คือจริงๆ อย่างที่บอกข้อ 3 นางชอบ control ทุกสิ่งอย่าง มันเลยเกิดแบบนี้ขึ้นประจำ ซึ่งช่วงแรกๆ เราก็ต่อต้าน อย่างเรื่องประชุมออนไลน์ได้ ไม่จำเป็นต้องไปนัดที่โรงแรมหรือในเมือง (คือนางเป็นไรกับออกข้างนอกมากไหม โควิดก็เยอะ แล้วจริงๆกระทรวงก็ขอให้ WFH ช่วงนั้นแต่นางก็ไปเหลี่ยมใส่หัวหน้ากองอีกที)
5. toxic ของกอง
คือตัวใครตัวมันไม่ช่วยเหลืออะไรทั้งสิ้น อย่างล่าสุดเราโดนลวนลามแบบพี่ในทีม ชอบมาขอกอดให้เรากอดให้กำลังใจงี้ เราก็แบบเคยกอดให้เพราะเราก็สงสารพี่เค้าที่งานมันหนัก แล้วมันจะมีช่วงยุ่งมากๆ จนแบบทุกคนในทีมไม่ไหว เราด้วย คือมันต้องจัดอีเว้นอ่ะเป็น symposium แล้วพี่ในทีมคนนั้นก็แบบเริ่มงอแงอ่ะ นางเป็นผู้ชายนะ แต่แบบตุ้งติ้ง คนอื่นเลยคิดว่านางเป็น แต่ไม่ได้เป็นนะ นี่ก็แบบไม่สบายใจมาซักช่วงละกับการชอบมาขอกอดและชอบมาซบไหล่ มาขอจับมือให้กำลังใจอะไรแนวนั้น เหมือนมันต้องโดนตัวอ่ะ อารมณ์ skinship ซึ่งเราไม่อินถ้าไม่สนิทแบบเพื่อนสนิทหรือแฟนอ่ะ เราเคยบอกว่ารู้สึกอี๋ และไม่ค่อยชอบ แต่เหมือนพี่แกก็ลืม นี่เลยแบบเดินหนีตลอด แล้วคือหัวหน้าชอบสั่งงาน ชอบนัดประชุมตลอดเวลา คือแบบมัน toxic ทั้งหัวหน้า และพี่ในทีมคนนึงอ่ะ (จริงๆเรื่องมันยาวกว่านี้แต่ขอเล่าแค่นี้ไปก่อน)
จริงๆมีอีก แต่แบบส่วนใหญ่ก็คือความ toxic ที่เราเจอตั้งแต่เราทำงานร่วมกับเค้าเมื่อ เดือน 11 ปีที่แล้ว (2021) เราไม่โอเคตังแต่ที่ทะเลาะที่เค้าอยากให้เราและคนอื่นในทีมไปข้างนอก พอคนอื่นไปฟ้องหัวหน้ากอง หัวหน้ากองตำหนิหัวหน้าเราแล้วหัวหน้าเราก็มาเม้งเราและคนในทีมอีก ซึ่งมันเกิดขึ้นหลายรอบมาก จนทุกวันนี้เราเลยตัดสินใจแก้ปัญหาโดยการเฉยๆ เค้าสั่งอะไรก็ทำๆไป
หลายๆคนอาจจะถามว่าทำไมไม่ออกล่ะ?เราแจ้งออกไปแล้ว 2 รอบ แต่ครั้งแรกเราอยากทำงานให้เสร็จ งานที่จัด symposium เมื่อเดือนที่แล้วแล้วรอบสองหลังจัดเราก็แจ้งหัวหน้า HR แต่หัวหน้าเราได้ยินเลยขอร้องให้เราช่วยก่อน นางบอกว่ากันยาค่อยออก
เราเลยยังไม่ได้ออกมาเพราะมองว่าเดือนนี้ก็หยุดเยอะ ไม่ค่อยเจอทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน และเราจะใช้ชื่อกระทรวงในการขอวีซ่าท่องเที่ยวด้วย เพราะถ้าเรากลับไปเป็น freelance อีกอาจจะอาจจะขอวีซ่ายากเราแค่อยากได้วีซ่าท่องเที่ยวแล้วค่อยลาออกไปเที่ยว กลับมาไทยค่อยหางานใหม่ แต่เราจะหาทางไปทำงานต่างประเทศแบบถูกฏหมาย ซึ่งมันยากและแข่งขันสูง สายที่เราจบก็เป็นสายสังคมและ international relations มันเลยไม่ได้หางานง่ายขนาดนั้น
แล้วทุกคนละคะ? เคยเจอความ toxic แบบไหนกันบ้าง? มาแชร์ได้นะ หรืออยากจะช่วยแนะนำอะไรเราก็ได้นะคะ เราก็อยากได้คำแนะนำเหมือนกันว่าควรทำไงกับเรื่องที่ทำงานและการย้ายไปอยู่ต่างประเทศ