เปลี่ยนสายงานและสถานที่ทำงานค่ะ ควรเรียกเงินเดือนเพิ่มเท่าไหร่ดีคะ
ตอนนี้ทำงานล่ามที่โรงงานที่ชลบุรีค่ะ (ทำล่ามโรงงานมารวมๆ 2ปีค่ะ)
พอดีน้องสาวสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ จึงจะหางานในกรุงเทพเพื่อที่จะได้คุมน้องด้วยค่ะ
ตอนนี้มีเรียกไปสัมภาษณ์สามที่ เนื้อหางานคือล่ามโรงพยาบาลกับล่าม(Ambassador)ห้างสรรพสินค้าค่ะ
โรงงานปัจจุบันมีค่าเช่าบ้าน อาหารฟรี 2 มื้อ รถรับส่ง ค่า skill และสวัสดิการอื่นๆ ตามมาตรฐานที่ทำงานทั่วไปค่ะ
เงินเดือนของเรา
ฐานเงิน 24,000 บาทค่ะ (อันนี้ยังไม่รวมค่าภาษาญี่ปุ่นกับภาษาอังกฤษนะคะ)
ถ้าย้ายเข้ากรุงเทพแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ มากมาย
เราเลยอยากรู้ว่าถ้าย้ายควรเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ดีคะ เรทจะน้อยกว่าเดิมหรือเปล่า หรือเรียกเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิมสักเท่าไหร่
ขอบคุณค่ะ
คุณสามารถอ่าน และ/หรือ ดาวน์โหลดไฟล์แนบของกระทู้นี้ (ถ้ามี) ได้จากหน้าเว็บเก่าได้ ที่นี่
เรทที่กทม. ต่ำกว่าที่ชลบุรีแน่นอนครับ
แต่นำไปบวกลบกับประสบการณ์การทำงาน 2 ปี
น่าจะเรียกได้ราคาเท่าเดิม(รายรับรวม ค่าบ้าน ค่า...)
แต่ถ้าเป็นงานในห้างไม่น่าจะมีรายรับที่เยอะเท่ากับล่ามโรงงานนะครับ (รอท่านอื่นมาคอนเฟิร์ม)
แนะนำให้เลือกไปสัมภาษณ์เฉพาะบริษัทที่ให้เงินเดือนเท่ากว่า หรือมากกว่าที่ปัจจุบัน
จะพูดไปค่าครองชีพที่ชลบุรีถือว่าสูงนะครับ
เป็นพี่สาวที่น่ารักนะครับ มีไปคุมน้องสาวด้วย แหะๆ
:pv17:
ยืนยันอีกคนค่ะว่าต่ำกว่าเพระาต่างจังหวัดเขาคิดค่าอยุ่ค่าเดินทางเพิ่มให้
ฐานเงินเดือนสูงจังเลยยยยยยยย :wanwan34: เราฐานน้อยนิด
เราทำแถวปทุมค่า แต่ก่อนทำในกรุงเทพ คิดว่าโรงพยาบาลยน่าจะสูงกว่าห้าง แต่โรงพยาบาล อย่าลืมเรื่องเข้ากะนะค่ะ
รุ่นน้องเราที่โรงพยาบาลเห็นพูดเรื่องกะ ^^
ขอบคุณมากค่ะ
สงสัยคงหาได้แค่ล่าม+เลขาเหมือนเดิมแน่ๆเลยค่ะ
พอดีอยากเปลี่ยนสายงานเพราะเบื่องานล่ามด้วยบวกกับชอบงานบริการมากกว่า
เลยคิดว่าโอกาสนี้คงเหมาะสุด
คุณ amuchan
เราเคยมีประสบการณ์มาก่อนและเคยไปอยู่ญี่ปุ่นกับอังกฤษเลยไม่แน่ใจว่าเขาคิดตรงนี้ด้วยเลยได้ฐานเยอะหรือเปล่าน่ะค่ะ
เปลี่ยนงานใหม่ เรียกเงินเพิ่มกันกี่ % (ฉบับมนุษย์เงินเดือน)
20th November 2015 ทำงาน , มนุษย์เงินเดือน
คำถามยอดฮิตที่ไม่กล้าคุยกันเพราะเรื่องเงินเรื่องทอง ปรึกษากันได้แต่อย่ารู้เยอะเดี๋ยวมีล้วงลับเงินเดือนกันและกันแล้วเกิดดราม่า แน่นอนทุกบริษัทมักจะให้เรื่องรู้เงินเดือนนี้เป็นเรื่องใหญ่สุด บางคนถึงกับโดนไล่ออกกันเลยทีเดียวเพราะเป็นกฏเหล็กของการบริหารคน แต่ก็อยากที่จะบริหารใจของคน ยากแท้หยั่งถึง อีกอย่างถ้าแอบบริษัทเก่าไปสัมภาษณ์ที่ทำงานที่อื่น อันนี้ก็ต้องลับมากๆสุดยอด เพราะถ้ารู้แล้วเป็นเป้าแน่นอนไม่แน่อาจจะหาคนมาแทนเราเองได้
สำหรับการทำงานของมนุษย์กินเงินเดือนอย่างเราๆเนี่ย ไม่ต้องคิดไร เป็นอีก 1 ปัจจัยเลยที่นอกเหนือจากใบปริญญาความสามารถ เงินเดือนคืองบของทางบริษัทที่ตั้งไว้เพื่อจ่ายค่าตอบแทนที่เราทำงานให้ ที่เห็นๆกันในสมัยนี้มักจะกำหนดเงินเดือนในแบบ จำนวนปีที่ท่านทำงานมา , certificate, TOFEL, TOEIC ภาษาที่สามารถพูดคุยได้ ฯลฯ
แล้วถ้ามีประสบการณ์มาแล้วนี่ซิ จะเรียกเงินเท่าไหร่ดี ถ้า เปลี่ยนงานใหม่ มาที่ใหม่ ?
ก่อนอื่นอยากให้แยกคิดออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรกเป็นพวกค่าใช้จ่ายในการทำงาน
ย้ายงานแต่ละที่ค่าเดินทาง ที่พัก ค่าอาหารก็เปลี่ยนไป ค่าสังสรรค์ พวกค่าใช้จ่ายที่ใช้ระหว่างทำงานก็คำนวณคร่าวๆ ต่อเดือนแล้วเก็บไว้ในใจ ค่าครองชีพแถวที่ทำงานวางแผนเลยว่า แล้วเราจะทำงานที่นี่ต่อไปกี่ปีอัตราเงินเฟ้อ เงินฝืด ความเป็นไปได้ของเศรษฐกิจค่าครองชีพเพิ่มขึ่น 2-3% ต่อปี
ส่วนที่สองคือค่าตัว
ก็คิดเอาละกันว่าช่วงที่ผ่านมาได้ค่าตัวเท่าไหร่ ผ่านงานมาเท่าไหร่ เราอยู่ระดับไหน ควรได้เพิ่มอีกเท่าไหร่
ส่วนที่สาม คือเรื่องของสวัสดิการ
ค่าน้ำมัน ค่าเบอร์โทรศัพท์อย่างถ้าเป็นเซลล์แล้วถ้าไม่มี ก็ต้องคิดเองออกมาคร่าวๆ ค่าประกันชีวิตมีรึเปล่า พูดถึงตัวนี้แล้วก็เป็นประโยชน์ลับๆเหมือนกันว่า ถ้าคุณมีประกันเพิ่มจากที่ทำงานนั่นหมายความว่าเมื่อเกิดอะไรขึ้น มันจะไม่ไปกระทบกับส่วนที่ 1- 2 ของคุณ
เปลี่ยนงานใหม่ เรียกเงินเพิ่มกันกี่ % (ฉบับมนุษย์เงินเดือน)สำคัญคือเข้าไปก็ทำงานเต็มความสามารถละกันให้สมน้ำสมเนื้อกับค่าตัวเป็นการดีที่สุดเพราะไม่ว่าคุณจะม่อยู่ไหนเดียวเงินมันทำงานให้คุณเองอัตโนมัติ
ยกตัวอย่างในการคำนวณเงินคร่าวๆ
- ดูว่าปัจจุบันได้เท่าไร (รวมโบนัส เงินพิเศษต่างๆ แล้ว) ย้ายไปที่ใหม่มีค่าเดินทางเพิ่มขึ้นหรือไม่ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในสภาพแวดล้อมใหม่เป็นเช่นไร
- พอหักลบคิดตรงจุดนี้ได้แล้ว ก็มาคิดว่า คุณต้องการอีกเท่าไรถึงจะพอใจ
สมมติว่า ตอนนี้คุณได้เงินเดือน 18000 ย้ายไปที่ใหม่มีระบบโบนัส ค่าใช้จ่ายค่าเดินทางเหมือนเดิมทุกอย่าง คุณขอ 22000 … ถามตัวเองว่า 4000 นี่คุ้มแล้วเหรอที่เราจะย้าย อาจจะเสียน้ำใจกับเจ้านายเก่า ต้องจากเพื่อนที่ทำงานเก่าไป อะไรแบบนี้
ส่วนเค้าจะให้เท่าไรนั้น ถ้าสมมติเป็นเจ้านาย จะดูว่าคุณสามารถเข้ากับบริษัทเราได้มากแค่ไหน ทำงานให้กับเราได้ไหม ถ้าได้เค้าก็อยากได้คุณอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะขอมาเท่าไหร่ แล้วไม่เกินงบของทางบริษัทมากเท่าไหร่แน่นอนเค้ารับคุณชัวร๋ ทรัพยากรบุคคลดีๆ น่ะ หายาก ถ้าเค้าอยากได้นะ เงินเดือนคุณเสนอไปเท่าไร เค้าก็สู้เอง แต่ถ้าเค้าสู้ไม่ไหวเค้าก็ต่อเอง
สำหรับมุมการคิด % นะปัจจุบัน ถ้าคุณมีประสบการณ์ ประมาณ 1-3 ปี แนะนำให้เรียกมากกว่าเดิมประมาณ 15-20%
แต่คุณต้องแน่นอนว่าความสามารถของคุณช่วยเค้าได้ ไม่เห็นแก่เงินจนเกินไป อย่าลืมนะว่าประสบการณ์สำคัญ ยิ่งเรียนรู้มากเท่าไหร่ เจออะไรยากๆยิ่งดี มันจะทำให้คุณเก่งอัตโนมัติ
เงินเดือนอาจจะเป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ทำงานจนลืมตัวเองกันไปเลย มัวแต่คิดแต่เรื่องเงินไม่ใช่กิจ ไม่ทำ ไม่ใช่หน้าที่ ข้าไม่ขอแตะ อันนี้ก็ไม่ไหว จะเป็นที่รังเกียจในหมู่ชนเอาได้ เมื่อเรารู้แล้วว่าเราเรียกเงินเดือนสูงกว่าที่เก่าได้มาก แล้วทางบริษัทรับคุณเข้าทำงาน จงคิดไว้ว่านั่นคือโอกาสที่คุณจะได้แสดงฝีมือ ที่ทำให้คุณเก่งขึ้น มองเรื่องงานเป็นความรู้ใหม่
อ่านเพิ่มเติม >> ปรับชีวิต เปลี่ยนความคิด พิชิตงาน มนุษย์เงินเดือน <<