Home > ปวดฟัน – สาเหตุ และวิธีแก้อาการปวดฟันเบื้องต้น
อาการปวดฟัน ส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุมาจากฟันผุ
หากฟันผุไม่ลึกมากนักก็จะมีอาการเสียวฟัน แต่ถ้าเกิดมีฟันผุใกล้โพรงประสาทฟัน หรือผุทะลุโพรงประสาทฟัน ก็จะเริ่มมีอาการปวดเป็นบางครั้ง ปวดบ่อยขึ้น จนถึงปวดมาก ปวดตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งยาแก้ปวดก็ไม่สามารถช่วยได้! มาทำความรู้จักสาเหตุทำให้เกิดการปวดฟัน
ฟันเป็นหนองปลายราก ฟันเป็นโรคเหงือกอักเสบ ฟันร้าว, ฟันแตก เศษอาหารติดฟัน
ปวดฟันทำอย่างไรดี วิธีบรรเทาอาการปวดฟันเบื้องต้น หากยังไม่สามารถไปพบทันตแพทย์ได้ทันที สามารถบรรเทาอาการปวดฟันเบื้องต้นด้วยตนเอง ได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้ วิธีการข้างต้นนั้น ไม่ใช่เป็นวิธีการรักษาที่ถาวร
เป็นเพียงบรรเทาอาการปวดชั่วคราว หากมีโอกาสพบทันตแพทย์ก็ไม่ควรรอช้า เพื่อรักษาให้ถูกต้องและตรงจุดที่สุด อาการของโรคฟัน โรคเหงือกจะได้หายอย่างถาวร และไม่ลุกลามต่อไป ทำฟันปลอดเชื้อ ปลอดภัยจาก COVID-19 : ศูนย์ทันตกรรม
โรงพยาบาลศิครินทร์
เมื่อฟันผุลึกโดยไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เชื้อแบคทีเรียสามารถเข้าไปที่ปลายรากฟัน จนมีหนองเกิดขึ้น หนองที่มีมากก็เกิดแรงดัน ทำให้ปวดปลายรากอย่างรุนแรง หรือมีอะไรมากระทบฟันก็ปวด
มีการละลายตัวของกระดูกรอบๆ รากฟันและเป็นที่กักขังของแบคทีเรีย มีหนองรอบราก ฟันโยก ทำให้เสียวฟัน และปวดได้
โพรงประสาทฟันติดต่อกับภายนอกผ่านรอยร้าวได้ / น้ำเย็น / น้ำร้อน
ก็ส่งถึงโพรงประสาทฟัน ทำให้ปวดได้
กรณีฟันห่าง ฟันผุเป็นรูใหญ่ด้านข้าง เป็นโรคเหงือกอักเสบ ฟันโยก หรือมีช่องว่างระหว่างฟัน เวลาเคี้ยวอาหารชิ้นใหญ่ๆ เศษอาหารมักจะติดตรงช่องว่างเหล่านี้ กดให้เหงือกช้ำ เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย ทำให้ปวดเหงือกและฟันบริเวณนี้มาก
เช่น
– ของเย็นจัด : น้ำแข็ง ไอศกรีม
– ของร้อนจัด : น้ำร้อน ชาร้อน กาแฟร้อน อาหารร้อน
– อาหารที่มีรสหวานจัด รสเปรี้ยว
แชร์บทความ
ข้อมูลสุขภาพ สุขภาพช่องปากและฟันฟันผุใหญ่ถึงโพรงประสาท ควร ‘ ถอนฟัน ‘ หรือ ‘ รักษารากฟัน ‘ ?
ฟันของคนเรานั้น ภายในจะเป็นโพรงประสาทฟัน ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ฟันมีชีวิตและความรู้สึก ประกอบไปด้วยเส้นเลือดและเส้นประสาทที่มาหล่อเลี้ยงฟัน เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิด ฟันผุ ฟันแตก ทะลุเข้าไปข้างในโพรงประสาทฟัน และเกิดการติดเชื้อและอักเสบขึ้น จะไม่สามารถรักษาได้ด้วยการอุดฟันเพียงอย่างเดียว
การรักษาสามารถทำได้
3 วิธี
ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป ขึ้นกับงบประมาณและรายละเอียดของฟันแต่ละคน ได้แก่
1. ถอนฟัน และใส่ฟันปลอม
การถอนฟันนั้น จะหายปวดฟันทันที แต่ฟันทุกซี่ที่ถอน (ยกเว้นฟันคุด) เราต้องทำการใส่ฟันปลอมทดแทน ไม่ว่าจะเป็นฟันหน้าหรือฟันหลัง ไม่เช่นนั้น ฟันข้างเคียงจะล้มเข้าหาช่องว่าง ฟันคู่สบจะยื่นยาวเข้าหาช่องว่าง มีปัญหาด้านการบดเคี้ยว และอาจส่งผลระยะยาวถึงปัญหาข้อต่อขากรรไกรและกล้ามเนื้อใบหน้า นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความสวยงาม ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจต้องเสียเงินเพื่อจัดฟันที่ล้ม เพื่อเตรียมช่องว่างสำหรับใส่ฟันปลอม โดยฟันปลอมแบ่งออกใหญ่ๆ เป็นแบบถอดได้ และแบบติดแน่น สำหรับฟันปลอมแบบถอดได้ ราคาจะถูกกว่า เริ่มต้นที่ 3,000 แต่ จะรู้สึกรำคาญและต้องใช้เวลาปรับตัวในการเคี้ยวและพูด สำหรับฟันปลอมแบบติดแน่น คือฟันปลอมที่ถอดออกไม่ได้ ได้แก่ รากฟันเทียม หรือ สะพานฟัน ซึ่งราคาจะสูงกว่าการรักษารากฟัน เพื่อเก็บฟันเสียอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ การรักษารากฟันจะใช้งบประมาณที่ต่ำกว่า การถอนฟันร่วมกับการทำฟันปลอมแบบติดแน่น
2. รักษารากฟัน ปักเดือย และทำครอบฟัน
การรักษารากฟัน คล้ายกับการอุดฟัน แต่เป็นการอุดวัสดุอุดคลองรากลงไปในรากฟัน โดยทันตแพทย์จะทำการกำจัดเนื้อเยื่อข้างในรากฟันที่อักเสบ ใส่ยาฆ่าเชื้อ และอุดคลองรากฟัน ฟันซี่นั้น จะไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป เราจึงสามารถเก็บรักษาฟันซี่นั้น เอาไว้ได้โดยที่ไม่ต้องถอนฟัน ซึ่งฟันที่รักษารากฟัน มักจะมีเนื้อฟันที่เหลือน้อย เนื่องจากผุใหญ่ ทำให้มีโอกาสแตกได้ถ้าไปกัดของแข็ง ดังนั้นทันตแพทย์จึงแนะนำให้ทำการ ปักเดือยและทำครอบฟัน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มอายุการใช้งานของฟันที่รักษาราก ซึ่งการปักเดือย คือการปักวัสดุลงไปในคลองรากฟันบางส่วน คล้ายๆกับการตอกเสาเข็ม เวลาสร้างบ้าน เป็นแกนหลัก เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ก่อนจะทำการครอบฟันทับลงไปบนแกนฟันอีกที
3. ถอนฟัน และจัดฟัน เพื่อปิดช่องว่าง
กรณีนี้ เหมาะกับเคสที่มีความผิดปกติของการสบฟันอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีฟันซ้อนเก หรือฟันยื่น มีความจำเป็นต้องถอนฟันร่วมด้วยเพื่อแก้ไขความผิดปกติของการสบฟัน และสามารถเคลื่อนฟันเพื่อปิดช่องว่างได้ ซึ่งในบางเคสอาจต้องมีการปักหมุด (Miniscrew) ร่วมด้วย หรือในบางเคสอาจไม่สามารถปิดช่องทั้งหมด ซึ่งเคสลักษณะนี้ ต้องทำการใส่ฟันปลอมหลังจัดฟันอยู่ดี ต้องทำการปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันเป็นรายๆไป ข้อดี คือได้ทำการแก้ไขการสบฟันอื่นๆได้ด้วย ส่วนข้อเสียคือเรื่องค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการรักษาที่นานเป็นปี