หมดปัญหาเรื่องขายสุราใกล้สถานศึกษา
ที่ผ่านมาเกิดความสับสนกันมาก ว่าร้านค้าปลีกค้าส่งที่จำหน่ายสุราที่อยู่ใกล้สถานศึกษาจะจำหน่ายสุราได้หรือไม่ หรือว่าใกล้เพียงใดจึงถือว่าใกล้ บางร้านถูกสั่งห้ามขายแต่อีกร้านอยู่ไม่ไกลกันกลับไม่ถูกห้ามทั้งๆ ที่อยู่ใกล้สถานศึกษาเหมือนกัน ตกลงจะใช้ 300 เมตรอยู่ไหม ตกลงอยู่ข้างโรงเรียนอนุบาลจะขายได้ไหม เห็นตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดโดยมีผู้ว่าฯ เป็นประธาน แต่ก็ยังไม่กำหนดโซนนิ่งออกมาเสียที แล้วจะยึดกฎหมายฉบับไหน ก็เห็นมีทั้งประกาศฉบับ 300 เมตร ตามด้วยคำสั่ง คสช. 22/2558 และล่าสุดมีประกาศสำนักนายกฯ ตามมาอีก ตกลงจะเอายังไง
ที่มาแห่งความสับสน
ขอย้อนลำดับเหตุการณ์ในการออกกฎหมายต่างๆ รวม 3 ฉบับ เพื่อให้มองเห็นภาพดังต่อไปนี้
- วันที่ 20 กรกฎาคม 2558 นายกรัฐมนตรี ลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา พ.ศ. 2558 แต่มิได้นำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา
//surathai.wordpress.com/2015/06/26/300meter/
2. วันที่ 23 กรกฎาคม 2558 คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
//surathai.wordpress.com/2015/07/23/prohibition/
นั่นหมายความว่า ประกาศสำนักนายก เรื่อง 300 เมตร เป็นอันยกเลิก มิได้นำมาประกาศใช้ ทำให้แมงมุมที่ชักใยอยู่หลังประกาศฉบับนี้ หงุดหงิดงุ่นง่าน และซุ่มหาจังหวะออกประกาศฉบับใหม่มาใช้ให้ได้
3. วันที่ 22 ตุลาคม 2558 ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา พ.ศ. 2558 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ในวันถัดไป คือ 23 ตุลาคม 2558
ไม่เพียงแต่ประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลเท่านั้นที่จะสับสนและรำคาญใจ แต่ผู้บริหารบ้านเมืองก็คงหงุดหงิดไม่แพ้กัน ที่หมอแมงมุมยังจะมาออกประกาศซ้ำกับคำสั่ง คสช. 22/58 ด้วยเหตุนี้จึงได้มีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจ จากอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการประสานกำกับติดตามผลการดำเนินงานตามคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 ใจความสรุปได้ว่า
แต่อาจมีบางคนที่ขี้วิตกกังวล อย่างเช่นผู้เขียนบทความนี้ วิเคราะห์ว่าประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับล่าสุดนี้ เป็นกฎหมายที่อาศัยอำนาจตามมาตรา 27 แห่ง พรบ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ผู้ฝ่าฝืนมีโทษทางอาญา ตามมาตรา 39 คือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคำสั่ง คสช. 22/58 นั้น เป็นเพียงการกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ และให้เพิกถอนใบอนุญาตหรือสั่งปิดกิจการเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หนังสือซักซ้อมความเข้าใจก็ได้ส่งแจ้งเวียนไปตามหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างทั่วถึงไปแล้ว ดังนั้น ผู้ประกอบการจำหน่ายสุราทั้งหลาย ทั้งสถานบันเทิงผับบาร์ คาราโอเกะ และร้านโชห่วย ที่อยู่ข้างโรงเรียนและมหาวิทยาลัย จงดาวน์โหลดหนังสือดังกล่าวตามภาพด้านล่างนี้ ไปแปะไว้หน้าร้าน เผื่อว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาสั่งปิด จะได้เป็นยันต์ป้องกันจากภยันตรายทั้งปวง