โทรถามบริษัทดีไหม
เป็นคำถามคาใจของหลายๆท่าน และเป็นสถานการณ์ที่เคยเจอกันมาถ้วนหน้าคะ หลังจากที่เราได้สัมภาษณ์ไปแล้ว เจ้าหน้าที่สรรหาก็แจ้งให้ทราบว่าผลการสัมภาษณ์เราจะมีการติดต่อแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ โดยทั่วไปคาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 สัปดาห์ 3 สัปดาห์ในการแจ้งผลนะคะ บลา.... นี่ก็เข้าสัปดาห์ที่ 2 แล้วนะทำไมไม่เห็นมีเสียงโทรศัพท์หรืออีเมลติดต่อมาแจ้งผลใดๆกับเราเลยนะ แล้วเราจะโทรสอบถามได้มั้ย
คำตอบคือสามารถทำได้คะ ไม่มีปัญหา โดยทั่วไปท่านก็จะมีเบอร์และอีเมลของเจ้าหน้าที่สรรหาไว้ใช้สำหรับการติดต่ออยู่แล้วนะคะ ดังนั้นหากถึงกำหนดเวลาตามที่บริษัทแจ้งไว้ แต่ว่ายังไม่มีอัพเดทข้อมูลหรือแจ้งผลมาสามารถติดต่อสอบถามได้คะ ถ้าผู้สมัครขี้อายหน่อยอาจจจะสามารถเลือกใช้อีเมลในการสอบถามผลก็ได้นะคะ แต่บางทีก็ไม่ได้รับอีเมลตอบกลับเนาะ โทรเลยดีกว่าคะจะช้าไปใย สอบถามเลยคะว่าอยากติดต่อผลการสัมภาษณ์งานตำแหน่ง..ว่าไป ไม่ทราบว่าผลออกหรือยังคะ
ผลสัมภาษณ์เป็นอย่างไรบ้างคะ เล่าสู่กันฟังนะคะบางครั้งการที่เจ้าหน้าที่สรรหาไม่สามารถแจ้งผลตามที่เคยแจ้งให้แก่ผู้สมัครไปนั้นก็มีอยู่หลายสาเหตุด้วยกัน อาทิเช่น เป็นตำแหน่งที่มีผู้สมัครอยู่อย่างจำกัด กว่าจะได้แคนดิเดทแต่ละคนก็ช่างยากเย็นแสนเข็ญ หัวหน้างานก็อยากได้แคนดิเดทเปรียบเทียบ หัวหน้างานยุ่งมากไม่ให้คำตอบแก่เจ้าหน้าที่สรรหาสักที ตำแหน่งงานนั้นๆถูกระงับการสรรหาแบบฟ้าผ่า เป็นต้น
บางเหตุผลก็เป็นเหตุผลที่เจ้าหน้าที่สรรหาสามารถพูดและอธิบายให้แคนดิเดทฟังได้ไม่ยาก แต่บางเหตุผลก็ไม่สามารถอธิบายให้แก่แคนดิเดทได้เช่นกันคะ เนื่องจากเป็นเหตุผลภายในองค์กรเนาะ นี่เป็นแค่บางส่วนที่เกริ่นให้ฟังคร่าวๆนะคะ หรือบางทีก็เงียบหายไปเลย ก็มักจะเป็นที่เข้าใจกันว่าไม่ผ่านหรือตกสัมภาษณ์ไปนั่นเองคะ แต่ก็เป็นสิทธิ์ของแคนดิเดทนะคะที่จะสอบถามข้อมูลในส่วนนี้ได้ เพื่อที่แคนดิเดทจะสามารถวางแผนตัวเองต่อไปว่าจะทำอะไรต่อไป สำหรับในกรณีที่เมื่อแคนดิเดทโทรไปสอบถามแล้วปรากฎว่าไม่ผ่านการสัมภาษณ์ แคนดิเดทสามารถที่จะสอบถามได้นะคะว่าติดขัดตรงไหนหรือเพราะอะไร จุดประสงค์ก็เพื่อตัวเราเองจะสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาตัวเองได้ต่อไปว่า เรายังจุดอ่อนตรงไหนที่ควรพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีก หรือปิดช่องโหว่ที่ทำให้เราพลาดงานนี้ไปได้
แต่ทั้งนี้ส่วนมากทางเจ้าหน้าที่สรรหาก็จะมีแพทเทรินในการตอบอยู่แล้วคะว่าคุณสมบัติของแคนดิเดทยังไม่แมชกับตำแหน่งที่เปิดรับ ซึ่งถ้าแคนดิเดทอยากจะได้ข้อมูลเพื่อไว้พัฒนาตนเองแล้วก็ ต้องใช้วาทะศิลป์เล็กน้อยในการสร้างบรรยากาศและทำให้เจ้าหน้าที่สรรหาบอกถึงเหตุผลนะคะ เพราะจริงๆอย่างที่บอกไว้เสมอว่าการแจ้งว่าไม่ผ่านเป็นเรื่องยากมากกว่าที่จะบอกว่าท่านผ่านการสัมภาษณ์เยอะเลยคะ แคนดิเดทบางคนประเภทเซฟสูงปรี้ด อีโก้ทะยานฟ้า เกิดมาข้าไม่เคยแพ้ใครนี่โอ้โห ถ้าเค้าไม่ผ่านนี่บางทีเกรี้ยวกราดใส่เจ้าหน้าที่สรรหาก็มีนะ แต่แคนดิเดทบางท่านก็น่ารักมากจนเราเสียดายจริงๆที่เค้าไม่ผ่าน เมื่อเค้าทราบผลแล้วเค้าถามว่าเค้ามีจุดบกพร่องตรงไหนที่ต้องแก้ไขหรือแนะนำมั้ย เผื่อว่าเค้าจะได้เอาไว้ปรับปรุง ไม่เป็นไร ขอบคุณคะ ขอบคุณครับ ยังไงรบกวนฝากประวัติไว้ด้วยนะคะ
เผื่ออนาคตมีตำแหน่งเปิดขึ้นใหม่แล้วคุณสมบัติเค้าเหมาะตามตำแหน่ง โอ้ยแบบนี้ไม่ต้องขอเลย เจ้าหน้าที่สรรหาจัดให้คร่าเก็บประวัติไว้อย่างดีงาม และจะคิดถึงเป็นคนแรกๆด้วยถ้าหากโอกาสนั้นมาถึง จริงๆแล้วมันก็เป็นเหมือนการสร้างคอนเนคชั่นแบบหนึ่งนะคะ อย่างที่พูดมาตลอดว่าโลกของการทำงานเรื่องคอนเนคชั่นมันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจำเป็น มันอาจจะไม่มีประโยชน์ในเรื่องหนึ่ง แต่อาจจะมีประโยชน์ในอีกเรื่องหนึ่งก็ได้ คะ อย่างที่ผู้เขียนเล่ามาถ้าเรามีคอนเนคชั่นที่ดีระหว่างกันในการติดต่อไม่ว่าจะในขั้นตอนไหนก็ตาม หรือชั่วครั้วชั่วคราว มันจะติดอยู่ในความคิดเราว่าเออ แคนดิเดทท่านนี้น่าสนใจนะ สำหรับตอนนี้เค้ายังไม่พร้อม แต่ในอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ถ้าเวลาที่พอเหมาะพอเจาะเรามาพิจารณากันดูใหม่อีกที เป็นต้น
ดังนั้นสรุปได้ว่าแคนดิเดทอย่าไปวิตกกังวลแล้วนั่งเก็บความสงสัยไว้กับตัวเลยนะคะว่าเราได้ ไม่ได้ ไม่ต้องเด็ดกลีบกุหลาบนะคะ หรือหมุนเหรียญหัวก้อยว่าจะเอายังไงดี เราสามารถสอบถามในสิ่งที่เป็นสิทธิ์ของเราได้คะ ไม่มีปัญหา สอบถามอย่างมืออาชีพ สร้างสัมพันธไมตรีที่ดี งานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต หลายๆองค์กรเป็นความฝันของใครหลายๆคน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้นะคะว่าในองค์กรที่ท่านฝันก็ย่อมต้องฝ่าด่านการแข่งขันเพื่อเข้าไปทำงานในองค์กรที่ฝันให้ได้ บางคนประสบความสำเร็จตามที่ฝัน บางคนอาจจะไม่ แต่ไม่ได้หมายความว่านั่นคือความล้มเหลว การสัมภาษณ์ เป็นเพียงก้าวแรกของการฝึกฝนการแข่งขัน การรอคอยผลคือวิถีแห่งผู้รู้จักรอ ว่ารออย่างเหมาะสม และติดตามอย่างมืออาชีพ การได้จะก้าวหรือไม่ได้ก้าวเข้าสู่องค์กรนั้นเป็นอีกเพียงอีกบททดสอบ แต่ในการทำงานในแต่ละองค์กรจริงเป็นบททดสอบและฝึกฝนตนเองที่ยิ่งใหญ่
ฝากไว้ “สอบถามอย่างสุภาพ แสดงความเป็นมืออาชีพ เพื่อสร้างความประทับใจและสัมพันธ์ที่ดีกับองค์กร”
หน้าแรก
News
HR Articles
People Employment
สัมภาษณ์งานแล้วเงียบหาย โทรไปถามดีหรือไม่
คำถามนี้เป็นหนึ่งในข้อกังวลใจของผู้หางานหลายคนที่กำลังรอลุ้นผลการสัมภาษณ์งานว่าจะได้หรือไม่ จะโทรไปติดตามผลดี หรือไม่โทรดี ต้องรอนานแค่ไหน อยากรู้ แต่ไม่อยากถาม แล้วจะทำอย่างไรดี
แต่ก่อนจะมานั่งลุ้น ผู้สมัครต้องประเมินตนเองหลังการสัมภาษณ์ก่อนว่าคุณทำได้ดีเพียงใด โดยสังเกตปฏิกิริยา ท่าทางของผู้สัมภาษณ์คุณก็จะพอรู้ว่าเขาพึงพอใจคุณหรือไม่ และมีพอจะมีลุ้นหรือเปล่า รวมทั้งสามารถสอบถามผู้สัมภาษณ์งานได้โดยตรงในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์งานว่า จะใช้ระยะเวลาในการพิจารณานานแค่ไหน เพื่อที่คุณจะได้ทราบระยะเวลาและวิธีการที่เหมาะสมในการติดตามผล
หาก HR แจ้งว่าจะใช้เวลาพิจารณาประมาณกี่วัน และถึงวันที่กำหนดแล้วยังไม่มีการติดต่อใด ๆ จากบริษัทที่คุณไปสัมภาษณ์ ให้ใจเย็น ๆ รออีก 1-2 วัน จึงค่อยโทรไปสอบถามว่าการพิจารณาอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว ทั้งนี้ติดตามผลการสัมภาษณ์ และเป็นการแสดงความกระตือรือร้นสนใจในตำแหน่งดังกล่าวจริง ๆ
หากผู้สัมภาษณ์บอกเพียงว่าแล้วจะติดต่อกลับไป โดยไม่ได้แจ้งระยะเวลาในการพิจารณา ตามปกติแล้วควรรอประมาณ 1-2 สัปดาห์จึงค่อยโทรไปติดตามผล
ระหว่างโทรไปติดตามผลควรพูดอย่างสุภาพ และดูเป็นมืออาชีพโดยกล่าวขอบคุณที่บริษัทให้โอกาสคุณได้สัมภาษณ์ก่อน แล้วย้ำถึงความสนใจในตำแหน่งงานที่สมัครอีกครั้ง ถามเขาว่าต้องการข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาหรือไม่
หากถูกปฏิเสธ ควรถือโอกาสนี้ในการถามเหตุผล จุดบกพร่องของคุณ เพื่อการปรับปรุงการสัมภาษณ์งานให้ประสบความสำเร็จในโอกาสต่อ ๆ ไป
รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่ยังลังเลไม่กล้าโทรไปติดตามผล ก็รวบรวมความกล้า และโทรไปถามได้เลยค่ะ ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว หากไม่ได้งานนั้น คุณจะได้ตัดใจไม่ต้องพะวักพะวนอีกต่อไป แต่บางบริษัทเขาเห็นว่าคุณมีความสนใจจริง ๆ จากที่ยังลังเลอยู่ไม่เลือกคุณเสียที อาจทำให้เขาตัดสินใจง่ายขึ้นก็ได้
บทความโดย : JobsDB
ประกาศบทความโดย : www.prosofthrmi.com