ระบบนิเวศประกอบด้วยโครงสร้าง 2 ชนิด คือ โครงสร้างทางกายภาพหรือสิ่งที่ไม่มีชีวิตในระบบนิเวศ (Abiotic Factor หรือ Abiotic Component) โครงสร้างทางชีวภาพหรือสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ (Biotic Factor หรือ Biotic Component)
โครงสร้างของระบบนิเวศทางกายภาพหรือส่วนประกอบที่ไม่มีชีวิต | |
แสงเป็นแหล่งพลังงานที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด พืชรับพลังแสงมาใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง | ดิน มีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตต่อพืชและสัตว์ เพราะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย และแหล่งอาหารของสิ่งมีชีวิต |
แร่ธาตุหมายถึง เกลือแร่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งพืช และสัตว์ ในร่างกายของพืชและสัตว์จะมีสารประกอบพื้นฐาน คือ คาร์บอน ออกซิเจน ไฮโดรเจน และไนโตรเจน แร่ธาตุต่างๆ เหล่านี้จะมีการหมุนในระบบนิเวศจะผ่านทางร่างกายของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมโดยการกิน | แก๊สในบรรยากาศซึ่งมีหลายชนิดแต่ที่สำคัญต่อสิ่งมีชีวิต ได้แก่ แก๊สออกซิเจน ซึ่งมีอยู่ในอากาศ 21 % สิ่งมีชีวิตใช้สำหรับการหายใจซึ่งได้ จากการสังเคราะห์ของพืชสีเขียวต่างๆ คาร์บอนไดออกไซด์ มีความสำคัญต่อกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช (หนูทิพย์ จำรัส. 2550) |
อุณหภูมิ เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตภายในระบบนิเวศ สิ่งมีชีวิตในเขตร้อนจะมีช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมที่ 20 – 30 องศาเซลเซียส ส่วนสิ่งมีชีวิตที่อาศัยในเขตหนาว จะมีช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมที่ 0 - 5 องศาเซลเซียส | ความชื้น ปริมาณไอน้ำในอากาศขณะใดขณะหนึ่งในบริเวณใดบริเวณหนึ่งความชื้นของอากาศสูงหรือต่ำเกินไปจะมีผลต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์หลายชนิด |
โครงสร้างทางชีวภาพหรือสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ผู้ผลิต(producers) หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่สร้างอาหารขึ้นได้เองด้วยการสังเคราะห์ด้วยแสง ได้แก่ พืชที่มีสีเขียวเพราะสีเขียวในพืชมีคลอโรฟิลด์ที่สามารถดูดกลืนพลังงานแสงอาทิตย์ มาใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง โดยใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ และแร่ธาตุมาผลิตเป็นคาร์โบไฮเดรต ยังมีพืชบางชนิด เช่น ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ต้นแขนงนายพราน ต้นกาบหอยแครง ซึ่งนอกจากจะสร้างอาหารเองแล้วก็ยังดักจับแมลงเป็นอาหารด้วย
ผู้บริโภค (consumers) หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่สร้างอาหารเองไม่ได้ ต้องรับสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหาร ได้แก่ สัตว์ต่าง ๆ ซึ่ง สิ่งมีชีวิตที่ต้องอาศัยการบริโภคสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเป็นอาหารเพื่อการดำรงชีวิต ไม่สามารถสร้างอาหารได้เอง เป็นผู้เชื่อมโยงการถ่ายทอดพลังงานภายในระบบนิเวศ ได้แก่ สัตว์ชนิดต่างๆและหากแบ่งตามลักษณะของการบริโภค สามารถแบ่งย่อยได้เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ - สิ่งมีชีวิตที่กินพืชเป็นอาหารเพียงอย่างเดียว เช่น ม้า วัว ควาย กระต่าย - สิ่งมีชีวิตที่กินสัตว์เป็นอาหารเพียงอย่างเดียว เช่น เสือ งู กบ เป็นต้น - สิ่งมีชีวิตที่กินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร เช่น คน เป็ด หมู สุนัข เป็นต้น
- สิ่งมีชีวิตที่บริโภคซากสิ่งมีชีวิตเป็นอาหาร เช่น แบคทีเรีย รา เห็ด
ผู้ย่อยสลาย (decomposer) เป็นพวกไม่สามารถปรุงอาหารได้แต่จะกินอาหารโดย การผลิตเอนไซม์ออกมาย่อยสลายแร่ธาตุต่าง ๆ ในส่วนประกอบของสิ่งที่มีชีวิตให้เป็นสารโมเลกุลเล็ก แล้วจึงดูดซึมไปใช้เป็นสารอาหารบางส่วน ส่วนที่เหลือปลดปล่อยออกไปสู่ระบบนิเวศซึ่งผู้ผลิตจะสามารถเอาไปใช้ต่อไป จึงนับว่าผู้ย่อยสลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สารอาหารสามารถหมุนเวียนเป็นวัฏจักรได้ ส่วนใหญ่เป็นพวกสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ย่อยสลายสารอินทรีย์ให้กลายเป็นสารอนินทรีย์ ซึ่งจะเป็นตัวสำคัญในกระบวนการหมุนเวียนของธาตุต่างๆ
ภาวะพึ่งพา (mutualism) (+,+)/(-,-) | เป็นความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิดที่อาศัยอยู่ร่วมกันตลอดชีวิต และต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์จากกันและกันแต่หากแยกจากกันจะไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ ตัวอย่างเช่น |
Ø ไลเคน (lichen) | พบตามเปลือกต้นไม้ขนาดใหญ่บริเวณที่มีความชื้นสูงไลเคนเป็นสิ่งมีชีวิต 2 ชนิดคือ รากับสาหร่ายสีเขียว การอยู่ร่วมกันนี้ทั้งสาหร่ายและราต่างได้รับประโยชน์ กล่าวคือ สาหร่ายสร้างอาหารได้เองแต่ต้องอาศัยความชื้นจากรา ราก็ได้อาศัยอาหารที่สาหร่ายสร้างขึ้น และ ให้ความชื้นแก่สาหร่าย |
Ø ด้วงกับมดดำ | ด้วงขนาดเล็กให้สารอาหารที่สร้างขึ้นกับมด มดเลี้ยงดูและป้องกันศัตรูให้ด้วง |
ปลวกกับโพรโทซัวที่อยู่ในลำไส้ปลวก | Ø โพรโทซัวได้อาหารและที่อยู่อาศัยจากปลวก ปลวกอาศัยโพรโทซัวช่วยย่อยไม้ที่กินเข้าไป |
Ø แบคทีเรียพวกไรโซเบียม (Rhizobiun) | ที่อาศัยอยู่ที่ปมรากพืชตระกูลถั่ว โดยแบคทีเรียได้อาหารและที่อาศัยจากต้นถั่ว พืชตระกูลถั่วได้อาหารจากแบคทีเรียช่วยเปลี่ยนแก๊สไนโตรเจนจากอากาศเป็นปุ๋ย (หนูทิพย์ จำรัส. 2550 |
ภาวะได้ประโยชน์ร่วมกัน ภาวะได้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน (protocooperation) (+,+)/(0,0) สิ่งมีชีวิต 2 ชนิดเมื่ออาศัยอยู่ร่วมกันต่างก็ได้รับประโยชน์จากกันและกันแต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเสมอไปแม้แยกกันอยู่ก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ เช่น ¯ มดดำกับเพลี้ย เพลี้ยอาศัยมดดำพาไปวางไข่ตามต้นพืช มดดำได้อาหารจากเพลี้ยด้วยการดูดน้ำเลี้ยงจากเพลี้ย ¯ นกเอี้ยงกับควาย นกเอี้ยงได้กินแมลงต่าง ๆ บนหลังควาย ควายสบายตัวเพราะไม่มีแมลงมารบกวน ¯ ดอกไม้กับแมลง แมลงได้น้ำหวานจากดอกไม้เป็นอาหาร ดอกไม้ได้แมลงช่วยผสมเกสร ¯ ปูเสฉวนกับดอกไม้ทะเล ดอกไม้ทะเลจะเกาะอยู่บนเปลือกของปูเสฉวน สามารถเคลื่อนที่ไปหาแหล่งอาหารใหม่ ๆ ได้ และยังได้รับอาหารบางส่วนจากปูเสฉวนด้วย ในขณะที่ปูเสฉวนก็ใช้ดอกไม้ทะเลช่วยพรางตาศัตรูได้ (หนูทิพย์ จำรัส. 2550)
ภาวะอิงอาศัย ภาวะอิงอาศัย(commensalism ) (+,0)/(-,0) เมื่ออยู่ร่วมกันฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้และไม่เสียประโยชน์ เมื่อแยกจากกันตัวที่ไม่ได้ไม่เสียประโยชน์จะเหมือนเดิมแต่ฝ่ายที่เคยได้รับประโยชน์จะไม่ได้อะไรแทนหรืออาจจะเสียประโยชน์เมื่อไม่ได้อยู่รวมกันกับผู้อื่น เช่น ¯ พืชที่เจริญเติบโตบนต้นไม้ใหญ่ µ กล้วยไม้บนต้นไม้ กล้วยไม้เป็นพืชที่เกาะอยู่บนต้นไม้อื่นๆ โดยไม่ชอนไชรากลงไปเพื่อแย่งน้ำหรืออาหารจากต้นไม้µ เฟิร์น พลูด่าง เถาวัลย์ ที่เลื้อยพันอยู่กับต้นไม้ใหญ่ เฉพาะบริเวณเปลือกของลำต้นซึ่งอาศัยความชื้นและแร่ธาตุบางอย่างจากเปลือกต้นไม้เท่านั้น โดยต้นไม้ใหญ่ไม่เสียประโยชน์ ¯ เหาฉลามกับปลาฉลาม เหาฉลามจะเคลื่อนที่ไปพร้อมกับปลาฉลามและได้รับอาหารที่เหลือจากปลาฉลามด้วย ส่วนปลาฉลามก็ไม่ได้หรือเสียประโยชน์อะไร(หนูทิพย์ จำรัส. 2550)
ภาวะปรสิต(Parasitism) ใช้สัญลักษณ์ + / - อาศัยอยู่กับ Host ได้ 2 ลักษณะ 1. ปรสิตภายนอก(Ectoparasite) ได้แก่ กาฝาก ฝอยทอง เหา หมัด โลน เป็นต้น
2. ปรสิตภายใน(Endoparasite) ได้แก่ แบคทีเรีย ไวรัส พยาธิต่างๆ
การล่าเหยื่อ (Predation) ใช้สัญลักษณ์ + / - 1. สัตว์กินสัตว์ เช่น เสือกินวัว นกกินแมลง 2. สัตว์กินพืช เช่น ตั๊กแตนปาทังก้ากินต้นข้าวโพด พะยูนกินหญ้าทะเล
ภาวะแข่งขัน (Competition) ใช้สัญลักษณ์ -/- บัวกับผักตบชวาในสระน้ำ จอกกับแหนในแหล่งน้ำ ต้นถั่วที่ปลูกมากมายในกระป๋องเล็กๆต้นไม้ในป่าที่แข่งกันสูง เพื่อแข่งกันรับแสงสว่าง มอด 2 ชนิดต่างก็ต่อสู้แย่งอาหารชนิดเดียวกัน