Tax-EZ (easy)
- Home
- Update
- Q&A
- Testing
- Training
- RC
- About
- Other Services
-
- Login
- Register
ค้นหา BY Google
× Home (หน้าหลัก) Update (กฎหมายใหม่)
Q&A (ถาม-ตอบ) Testing (การทดสอบ) Training (การฝึกอบรม) Revenue Code
(ประมวลรัษฎากร) About (เกี่ยวกับเรา/ติดต่อเรา)
Other Services (บริการอื่นๆ)
โทรศัพท์ : 0-2261-8182
เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.30น.
บริการอื่นๆของเรา
- AAP : ให้บริการด้านบัญชีและภาษี
- AAPAS : โปรแกรมบัญชี
- AAPC : ที่ปรึกษาการซื้อขายกิจการ
- MED1 : ศูนย์รวมข้อมูลคลินิก สถานพยาบาล
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
- กรมสรรพากร
- บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร
- กฏหมายภาษี (ภาษาอังกฤษ)
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
- ข้อหารือ
- กฏหมายออกใหม่
- Tax Station
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- สำนักงานประกันสังคม
- Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
© 2021 - All Rights Reserved by Asia Alliance Partner Co., Ltd.
ประกันสังคม มาตรา 33 และ 39 เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 จ่ายเท่าไหร่ เช็กอีกครั้ง หลังปรับลดอัตราเงินสมทบ
ประกันสังคม ปรับลดอัตราเงินสมทบในเดือนตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม 2565 มาตรวจสอบกันว่า ผู้ประกันตน มาตราไหนต้องจ่ายเท่าไหร่ เดือนนี้จะถูกหักกี่เปอร์เซ็นต์
ประกันสังคม มาตรา 33 มาตรา 39 เดือนนี้จ่ายเท่าไหร่ ? เป็นคำถามที่ผู้ประกันตนหลายคนกำลังสงสัย เพราะตลอดปี 2565 มีการปรับลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมอยู่หลายครั้ง อย่างล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2565 คณะรัฐมนตรีก็มีมติให้ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 ดังนั้นเราลองมาเช็กกันว่า แต่ละมาตราต้องจ่ายเท่าไหร่ โดนหักกี่เปอร์เซ็นต์
ผู้ประกันตน มาตรา 33 คือ ลูกจ้างหรือพนักงานบริษัทเอกชนทั่วไป ซึ่งโดยปกติต้องส่งเงินสมทบประกันสังคม ในอัตรา 5% ของค่าจ้าง แต่ในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 จะได้ปรับลดเหลือ 3% ของค่าจ้าง
ดังนั้นหากใครมีเงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป ในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 ก็จะส่งเงินสมทบเหลือ 450 บาท/เดือน จากเดิมต้องจ่าย 750 บาท/เดือน ส่วนคนที่มีฐานเงินเดือนน้อยกว่า 15,000 บาท ก็จะจ่ายลดหลั่นกันลงมา ดังตัวอย่าง
ทั้งนี้ เมื่อรวมเงินสมทบประกันสังคมที่จ่ายทั้งหมดตลอด 12 เดือน ในปี 2565 ในกรณีที่เรามีเงินเดือนมากกว่า 15,000 บาท เท่ากับว่าปีนี้ได้จ่ายเงินสมทบรวมทั้งหมด 6,300 บาท (จากเดิม 9,000 บาท) เนื่องจากมีการปรับลดอัตราเงินสมทบมาตรา 33 ในเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม และตุลาคม-ธันวาคม 2565 นั่นเอง
ส่วนผู้ประกันตน มาตรา 39 ปกติต้องจ่ายเงินสมทบเดือนละ 432 บาท จะลดเหลือเดือนละ 240 บาท เป็นเวลา 3 เดือน คือ เดือนตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม 2565
เมื่อรวมจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตน มาตรา 39 ส่งเข้าประกันสังคมตลอดปี 2565 จะเป็นเงินทั้งสิ้น 3,585 บาท เนื่องจากมีการปรับลดอัตราเงินสมทบในเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม และตุลาคม-ธันวาคม 2565 เช่นเดียวกับมาตรา 33
ขณะที่ผู้ประกันตน มาตรา 40 ได้ปรับลดเงินสมทบไปแล้วในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 หลังจากนั้นไม่ได้มีการปรับลดอีก ดังนั้น ในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 ผู้ประกันตน มาตรา 40 ยังต้องจ่ายเงินสมทบในอัตราปกติ คือ
- ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบ 70 บาท/เดือน
- ทางเลือกที่ 2 จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน
- ทางเลือกที่ 3 จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน
สำหรับการปรับลดอัตราเงินสมทบดังกล่าว เป็นการบรรเทาปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหลังการระบาดของโควิด 19 ซึ่งก็พอจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกันตนอย่างเรา ๆ มีเงินไว้ใช้จ่ายเพิ่มอีกทางหนึ่ง
บทความที่เกี่ยวข้องกับประกันสังคม
น.ส.ลัดดา แซ่ลี้ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ลงนามในประกาศกฎกระทรวง กำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 โดยมีผลบังคับใช้ งวดเดือนตุลาคม – ธันวาคม พ.ศ.2565 ตามมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 เพื่อช่วยเหลือนายจ้างผู้ประกอบการ และพี่น้องผู้ประกันตน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ที่ได้รับความเดือดร้อน จากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอันเนื่องมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของค่าครองชีพหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งในประกาศกฎกระทรวง ได้กำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมให้ปรับลดอัตราเงินสมทบ โดยให้จัดเก็บเงินสมทบฝ่ายนายจ้าง ผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิมร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 3 ของค่าจ้าง และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ปรับลดอัตราเงินสมทบ จากเดือนละ 432 บาท เหลือเดือนละ 240 บาท โดยเริ่มตั้งแต่งวดเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2565
โดยในการลดอัตราเงินสมทบในครั้งนี้ ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทั้ง 7 กรณี คือ เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน เหมือนเดิม อย่างไรก็ดีการลดอัตราเงินสมทบไม่มีผลกระทบถึงการออมเงินสะสมเข้ากองทุนชราภาพแต่อย่างใด จึงขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจในการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคม ที่พร้อมปฏิบัติตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ นายจ้าง และผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคม ในช่วงผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอันเนื่องมาจากการปรับตัวสูงขึ้น ของค่าครองชีพ ให้รวดเร็ว ทันเหตุการณ์มากที่สุด