AirDrop บน iPhone ใช้งานไม่ได้ จะทำการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง เพราะอย่างที่รู้กันว่าการใช้งาน AirDrop บน iPhone ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ผู้ที่ใช้งาน iPhone สามารถส่งรูปภาพ วีดีโอ หรือไฟล์เอกสารต่างๆได้ โดยการส่งนั้นก็เป็นการส่งไปยังบนอุปกรณ์ Apple ด้วยกันเช่น ระหว่าง iPhone ไปยัง iPad หรือ iPhone ไปยัง MacBook นั้นเอง
ดังนั้นหาก AirDrop บน iPhone ใช้งานไม่ได้ ก็สามารถแก้ไขได้เช่นกัน โดยวันนี้ How To Tricks ได้มีขั้นตอนการแก้ไขปัญหา AirDrop บน iPhone ใช้งานไม่ได้มาฝากกัน และวิธีแก้ไขก็สามารถทำได้ง่ายๆแค่ไม่กี่ขั้นตอนตามนี้เลย
1.เข้าไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > AirDrop > เลือกทุกคน
2.ทำการเปิด wifi และ Bluetooth > เพราะ AirDrop จะทำงานได้ก็ต่อเมื่อเปิด Wi-Fi และ Bluetooth นั้นเอง ดังนั้นให้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าได้เปิดใช้งานฟีเจอร์ 2 อย่างนี้แล้วหรือยัง
3.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลดล็อค iPhone หรือ iPad แล้วหรือยัง > หากอุปกรณ์ล็อคหรือปิดอยู่ จะไม่ปรากฏให้คนอื่นเห็นว่าเป็นอุปกรณ์พร้อมสำหรับส่งไฟล์ ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่า iPhone
หรือ iPad ของคุณเปิดอยู่และปลดล็อคโดยที่หน้าจอเปิดอยู่
อย่างไรแล้วหาก AirDrop บน iPhone ใช้งานไม่ได้ ก็ลองนำ 3 วิธีแก้ไขนี้ไปใช้งานกันดูนะคะ และสำหรับคลิปต่อไป How To Tricks ทริคดีๆเทรนด์ใหม่ๆจะนำอะไรมาฝากกันอีกก็อย่าติดตามได้ที่ //www.bugaboo.tv/list/1822
คุณรู้หรือไม่ว่าคุณสามารถใช้ AirDrop เพื่อส่งรูปภาพ วิดีโอ และไฟล์จาก Mac ไปยัง iPhone หรือ iPad AirDrop ระหว่าง Mac และอุปกรณ์ iOS นั้นรวดเร็วและทำงานได้ดีมาก และค่อนข้างใช้งานง่ายสำหรับการส่งรูปภาพ เอกสาร และข้อมูลอื่นๆ แบบไร้สายระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ
บทแนะนำนี้จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการ AirDrop ระหว่าง Mac และ iPhone หรือ iPad แน่นอนว่าคุณสามารถไปในทางอื่นได้เช่นกัน ดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการใช้ AirDrop จาก iPhone ไปยัง Mac และวิธี AirDrop ระหว่าง Mac สองเครื่องเพื่อถ่ายโอนข้อมูลแบบไร้สาย ดังนั้นคุณอาจสนใจที่จะอ่านบทความเหล่านี้อย่างละเอียด ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการทำงานของคุณลักษณะที่ยอดเยี่ยมนี้
Requirements for using AirDrop from a Mac to iOS device are as follows: อุปกรณ์ทั้งหมดต้องอยู่ใกล้กัน โดยจะต้องรองรับ AirDrop (ฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัยทั้งหมดรองรับ) และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณอาจต้องอัปเดตเวอร์ชัน iOS และ Mac OS เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มี ต้องเปิดใช้งาน Bluetooth และ Wi-Fi บน Mac, iPhone และ iPad ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย แต่เมื่อคุณเปิด AirDrop คุณสมบัติเหล่านี้จะเปิดใช้งานเช่นกัน
- วิธี AirDrop จาก Mac ไปยัง iPhone หรือ iPad
- ส่วนที่ 1: วิธีเตรียม AirDrop ให้พร้อมรับบน iPhone หรือ iPad
- ส่วนที่ 2: วิธีส่งไฟล์ AirDrop จาก Mac ไปยัง iPhone หรือ iPad
- ส่วนที่ 3: การรับและเข้าถึงข้อมูล AirDropped ใน iOS
การใช้ AirDrop เพื่อส่งข้อมูลระหว่าง Mac และอุปกรณ์ iOS เป็นกระบวนการสองขั้นตอน ก่อนอื่น คุณต้องเปิดใช้งาน AirDrop บนอุปกรณ์ที่จะรับไฟล์หรือรูปภาพ ในกรณีนี้คือ iPhone หรือ iPad จากนั้นจาก Mac คุณเลือกไฟล์หรือข้อมูลที่คุณต้องการส่งและเข้าถึง AirDrop เพื่อส่งไปยังอุปกรณ์ iOS ที่รับ เราจะแบ่งส่วนการรับและส่งออกเป็นสองส่วนที่แตกต่างกันเพื่อความชัดเจน:
ส่วนที่ 1: วิธีเตรียม AirDrop ให้พร้อมรับบน iPhone หรือ iPad
อันดับแรก เริ่มด้วย iPhone หรือ iPad ที่ต้องการรับข้อมูลผ่าน AirDrop
- บนอุปกรณ์ iOS ให้เข้าไปที่ศูนย์ควบคุม จากนั้นแตะที่ไอคอน AirDrop (ดูเหมือนชุดของวงกลมที่มีจุดศูนย์กลางที่ชิ้นถูกตัดออกจากด้านล่าง)
- เลือกที่จะยอมรับการรับ AirDrop จากทั้ง Contacts Only หรือ Everyone ขึ้นอยู่กับว่าใคร/อะไร Mac ที่คุณวางแผนที่จะรับข้อมูล AirDrop จาก
- ไอคอน AirDrop จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเพื่อระบุว่าฟีเจอร์นั้นเปิดใช้งานใน iOS
ส่วนที่ 2: วิธีส่งไฟล์ AirDrop จาก Mac ไปยัง iPhone หรือ iPad
ถัดไป ไปที่ Mac ซึ่งมีข้อมูลที่จะส่งผ่าน AirDrop ไปยังเป้าหมายที่ได้รับ iPad หรือ iPhone
- ไปที่ Finder ใน Mac OS แล้วเลือก AirDrop จากแถบด้านข้าง สักครู่ iPhone หรือ iPad ที่รับจะปรากฏในรายการ AirDrop บน Mac
- ในหน้าต่าง Finder ใหม่ ให้ค้นหาไฟล์บน Mac ที่คุณต้องการส่งผ่าน AirDrop
- ตอนนี้ลากและวางไฟล์ที่คุณต้องการส่งจาก Mac ไปยัง iPhone หรือ iPad ที่ได้รับตามที่แสดงในหน้าต่าง AirDrop
ส่วนที่ 3: การรับและเข้าถึงข้อมูล AirDropped ใน iOS
กลับไปที่ iPhone หรือ iPad ที่ได้รับข้อมูล AirDropped คุณจะพบว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นเกี่ยวกับตำแหน่งที่ไฟล์ AirDropped ไป:
- หากข้อมูล AirDropped เป็นรูปภาพ รูปภาพ วิดีโอ หรือภาพยนตร์ ข้อมูลนั้นจะปรากฏในแอปรูปภาพใน Camera Roll ดังที่คุณเห็นในรูปภาพ Windows 95 ที่น่าทึ่ง
- หากข้อมูล AirDropped เป็นไฟล์ประเภทอื่น เช่น PDF, เอกสารข้อความ, ไฟล์เก็บถาวร, เอกสาร word, ไฟล์หน้า หรืออื่นๆ ที่คล้ายกัน ป๊อปอัปจะปรากฏขึ้นเพื่อถามว่าคุณต้องการเปิดข้อมูล AirDrop ด้วยอะไร หรือคุณสามารถเลือกได้ Save to iCloud Drive เพื่อจัดเก็บข้อมูล AirDropped ใน iCloud Drive
แค่นั้นแหละ! อย่างที่คุณเห็น AirDrop นั้นใช้งานง่ายและสะดวกมาก มันเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการรับข้อมูลจาก Mac ไปยัง Mac จาก Mac ไปยัง iPhone หรือ iPad ตามที่อธิบายไว้ที่นี่ รวมถึง AirDropping จาก iPhone ไปยัง Mac ด้วย
เมื่อคุณใช้ AirDrop เสร็จแล้ว อย่าลืมปิด AirDrop อีกครั้ง คุณจะได้ไม่ปล่อยให้ AirDrop ของคุณเปิดรับใครๆ และป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่หมดโดยไม่จำเป็น
* โดยทั่วไปใช้ AirDrop กับ Contacts Only ปลอดภัยกว่าและแนะนำ แต่คุณต้องมีผู้ส่งในรายชื่อผู้ติดต่อของอุปกรณ์ iOS เพื่อให้พวกเขาเห็นสัญญาณ AirDrop ของคุณ การใช้ ‘ทุกคน’ สามารถเข้ากันได้มากกว่าและง่ายขึ้นเล็กน้อย แต่โปรดทราบว่าทุกคนสามารถส่งข้อมูล AirDrop ให้คุณ ณ จุดนั้นได้หากคุณเปิดใช้งานไว้ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะปิด AirDrop หลังจากที่คุณใช้งานเสร็จแล้ว
หากคุณประสบปัญหาในการทำงานนี้ อย่าลืมอัปเดต iOS และ Mac OS เป็นเวอร์ชันใหม่ เปิดใช้งาน BlueTooth และ Wi-Fi และตรวจดูให้แน่ใจว่าอุปกรณ์อยู่ใกล้กัน นอกเหนือจากนั้น คุณสามารถทำตามเคล็ดลับการแก้ปัญหา AirDrop สำหรับ iPhone และ iPad ใช้โหมดความเข้ากันได้ของ AirDrop บน Mac และต้องแน่ใจว่าเปิดใช้งาน AirDrop ใน iOS เพื่อให้ปรากฏขึ้น
คุณมีเคล็ดลับหรือลูกเล่นอื่น ๆ ของ AirDrop หรือไม่? แจ้งให้เราทราบในความคิดเห็นด้านล่าง!