สาธารณสุข
แพทย์แผนไทยเผย “สมุนไพรไทย” ช่วยลดอาการปวดเกาต์ ช่วงเทศกาลตรุษจีน
01 ก.พ. 2565 เวลา 14:34 น.1.3k
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำ 2
สมุนไพรลดกรดยูริก บรรเทาอาการปวดเกาต์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ชูสมุนไพรไทย เช่น ย่านาง หญ้าหนวดแมว ซึ่งสามารถปรุงเป็นอาหารและเครื่องดื่มรับประทานเพื่อบรรเทาอาการได้
นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลสำคัญของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน วันตรุษจีนในปีนี้ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 วันดังกล่าว ครอบครัวชาวจีนหรือชาวไทยเชื้อสายจีนจะเตรียมอาหารคาวหวาน
เพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และกราบไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว โดยอาหารส่วนใหญ่มักจะเป็นอาหารประเภทที่มีแป้ง ไขมัน
และมีน้ำตาลค่อนข้างสูง ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ อาหารทะเล ขนมต่างๆ และสุราจีน เป็นต้น อาหารดังกล่าวถ้ารับประทานมากอาจจะก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการรับประทานสัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด การรับประทานเนื้อสัตว์ เนื้อแดง เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล ยอดผัก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่ผสมฟรุกโตส และนมที่มีไขมันสูง
ซึ่งอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้จะเพิ่มระดับกรดยูริกในเลือด ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์ โดยตรง
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ขอแนะนำ 2 สมุนไพรไทย ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเกาต์ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ ย่านาง ซึ่งเป็นสมุนไพรในกลุ่มลดไข้ ขับปัสสาวะ และช่วยล้างพิษ ตามองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย จากข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์ยังพบว่า น้ำใบย่านางมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต และลดการอักเสบในร่างกายได้ หญ้าหนวดแมว มีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ไขมัน และน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังช่วยลดกรดยูริกในเลือด ช่วยลดนิ่วที่เกิดจากกรดยูริกได้ ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการปวดเกาต์ได้ แต่มีข้อห้ามสำหรับผู้ที่มีการทำงานของหัวใจหรือไตบกพร่อง โดยสมุนไพรทั้ง 2 ชนิดนี้ สามารถนำมาปรุงเป็นอาหาร หรือเครื่องดื่มในรูปแบบชาสมุนไพรเพื่อบรรเทาอาการปวดข้อจากโรคเกาต์ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้
นายแพทย์ธิติ กล่าวในตอนท้ายว่า ผู้ป่วยโรคเกาต์ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน ควรลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ซึ่งจะช่วยลดระดับกรดยูริกและลดความเสี่ยงจากโรคอื่นๆที่จะตามมา อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันในเลือดสูง ผู้ที่มีโรคประจำตัวดังกล่าว ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งควรดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับศาสตร์การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์ทางเลือก หรือการใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรคฯ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามโดยตรงได้ที่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 2149 5678
หรือช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊ค //www.facebook.com/dtam.moph และ ไลน์แอดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก [email protected]
ยาชงสมุนไพร หญ้าหนวดแมว อภัยภูเบศร
นานมาแล้วที่โรงพยาบาลแผนปัจจุบันในต่างประเทศ รู้จักนำหญ้าหนวดแมวมาใช้เป็นยาขับปัสสาวะ และใช้รักษาคนไข้ที่เป็นโรคไตควบคู่กับโรคหัวใจได้ ฝรั่งจึงได้ตั้งชื่อหญ้าหนวดแมวว่า “ชาสำหรับโรคไต” ความจริงหมอแผนไทยและจีนรู้จักใช้หญ้าหนวดแมวรักษาโรคไตมานานแล้ว แต่เพิ่งจะมาเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2528 โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์วีระสิงห์ เมืองมั่น แห่งภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ค้นคว้าวิจัยนำหญ้าหนวดแมวมาใช้รักษาผู้ป่วยในโรคนิ่วในระบบทางเดิน ปัสสาวะ เช่น นิ่วในท่อไต และนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นสาเหตุของการปัสสาวะขัด ฉี่กะปริบกะปรอย
การจากทดลองพบว่าหญ้าหนวดแมวมี “เกลือโปแตสเซียม” เป็นสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ขับปัสสาวะและช่วยขยายหลอดไตให้กว้างขึ้น สามารถลดอาการปวดของท่อไต ผู้ป่วยที่เป็นนิ่วขนาดเท่าเม็ดมะละกอหรือเม็ดถั่วเขียว ชาสมุนไพรตัวนี้จะช่วยขับก้อนนิ่วออกมาได้สบายมาก หลังจากดื่มเพียง 3-5 วัน บางคนกินคืนนี้ พรุ่งนี้เช้านิ่วก็หลุดแล้ว ชาสมุนไพรหญ้าหนวดแมว สามารถรักษาโรคนิ่วได้ทั้งนิ่วจากแคลเซียมและนิ่วจากกรดยูริก เนื่องจากหญ้าหนวดแมวทำให้ปัสสาวะเป็นด่าง จึงรักษานิ่วจากกรดยูริกซึ่งเป็นนิ่วของคนรวยได้ดีกว่าเพราะชนิดนี้สามารถ สลายได้ดีในด่าง
สรรพคุณ : แก้ขัดเบา ขับปัสสาวะ บำรุงไต ขับกรดยูริกอันเป็นสาเหตุของโรคเกาต์
วิธีใช้ : ใส่ชา 1 ซองลงในแก้ว เติมน้ำเดือดตั้งทิ้งไว้ให้ชาละลายออกมา ดื่มขณะอุ่น ๆ วันละ 2 เวลา ก่อนอาหารเช้า เย็น
ส่วนประกอบหลัก : ทั้งต้นหญ้าหนวดแมว ยกเว้นรากและดอก
ขนาดบรรจุ : 1 ห่อบรรจุ 10 ซองชา / 1 ซองชาน้ำหนักสุทธิ 2 กรัม
ข้อห้ามใช้/ข้อควรระวัง : ระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคไต เนื่องจากหญ้าหนวดแมวมีโปแตสเซียมสูง
อาการไม่พึงประสงค์ : ยังไม่มีรายงานเรื่องอาการไม่พึงประสงค์
ข้อมูลความเป็นพิษ : ในขนาดรับประทานปกติไม่ก่อให้เกิดพิษ
ข้อเสนอแนะ : หากรับประทานในช่วงเย็นแล้วทำให้ ปัสสาวะบ่อยเกินไปในเวลากลางคืนจนรบกวนการนอนหลับ สามารถเปลี่ยนเวลารับประทานมาเป็นมื้อกลางวันได้
อายุผลิตภัณฑ์ : 3 ปี (นับจากวันผลิต)
การเก็บรักษา : เก็บในที่แห้ง อุณหภูมิไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส ห่างจากแสงแดด