ปล. ถ้าใครเคยเล่น Crisis Core ฉากจบหลัง End Credit จะเป็นฉากคลาวด์อยู่บนรถไฟซึ่งเป็นฉากเดียวกับตอนเปิดเกมภาคหลัก แล้วมันก็ปิดท้ายว่า to be continued in Final Fantasy VII ซึ่งตอนนั้นมันก็แปลว่าให้ไปเล่นต่อในภาค PS1 นั่นแหละ แต่วันนี้มันไม่ใช่แค่ภาค PS1 แล้วสินะ /ซึ้งใจ
Tetsuya Nomura ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Famitsu ของญี่ปุ่นฉบับล่าสุด เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมของเกม Final Fantasy VII Remake ซึ่งจากบทสัมภาษณ์ยาวๆ ก็สามารถนำมาสรุปได้เป็นข้อๆดังนี้
• หมอกดำๆ ที่เรียกว่า watchmen of fate เป็นสิ่งที่จะโผล่มาเวลาก่อนที่ผู้เล่นจะเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ ซึ่งเป็นระบบที่เพิ่มมาในภาคนี้ โดยหวังให้ผู้เล่นเก่าก็จะรู้สึกว่ามีอะไรแปลกใหม่ในเกมมากขึ้น
• มีตัวเลือกบทสนทนาในเกมมากขึ้น ซึ่งบทพูดของตัวละครจะต่างกันไป ตามตัวเลือกที่ผู้เล่นเลือก จำนวนบทพูดของตัวละครก็เยอะขึ้นตามไป
• ยืนยันเนื้อเรื่องของ The Honey Bee Inn จะยังมีอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่ง Cloud จะต้องแต่งหญิงเพื่อเข้าไปช่วยทีฟา แต่ว่าก็มีการปรับให้มันเข้ากับกราฟิกแบบใหม่หน่อย เพราะถ้าไม่ปรับมันคงจะดูทุเรศ
• มีการปรับเพิ่มเนื้อเรื่องเสริมเพียบ โดยจะมีพวก new events อะไรให้ทำเพิ่มมากมายนับไม่ถ้วน แต่ว่าเนื้อเรื่องหลักยังคงเดิม นี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเกมต้องมีความจุถึง 2 แผ่นบลูเรย์
• บทของเรื่องจะให้ ทั้ง Aerith และ Tifa เป็นนางเอกทั้งคู่สองแบบสองสไตล์ คนนึ่งเป็นนางเอกแบบตะวันออก อีกคนเป็นแบบตะวันตก
• การดีไซน์ Tifa เวอร์ชั่นนี้ เป็นแบบเน้นให้เป็นเหมือนสาวนักกีฬา ก็เลยออกแบบให้หน้าอกกระชับขึ้น ใส่เป็นสปอร์ตบราสีดำและเข้ากับเสื้อกล้าม (ก็เลยกลายเป็นดราม่า เถียงกันเรื่อง Tifa นมเล็กลงหรือเปล่า)
• เพื่อให้เล่นได้โดยไม่ต้องกังวล รูปแบบการต่อสู้ของภาคนี้จึงเน้นง่ายและรวดเร็ว สามารถใช้คีย์ลัดในการต่อสู้ รวมถึงตอนใส่ Command ก็จะปรับให้เป้นฉาก Slow เพื่อจะได้ไม่เป็นการกดดัน