แคลเซยี ม เปนแรธาตุทมี่ ีปริมาณมากทสี่ ดุ ในรางกาย โดยเปนองคประกอบของโครงสรางกระดกู และฟน คิดเปน
ปรมิ าณ 1.5 % ของนา้ํ หนกั รางกาย แคลเซยี มในรา งกายจะอยใู นกระแสเลือดไมถึง 1% เม่อื เทยี บกบั ปรมิ าณแคลเซียมท้ังหมด โดยอยูใน
รูปแบบตา งๆดังน้ี 1) complex calcium เปน รูปทีแ่ คลเซยี มไอออนจบั อยกู บั สารประกอบอน่ื เชน carbonate, sulfate โดยสารเหลา น้ีจะ
เปน สารประจุลบโดยมาก 2) ionized calcium ซงึ่ จะเปน รูปที่ physiologically active แคลเซียมอยูใ นรปู นม้ี ากสดุ ถึงกวา 50% 3) protein-
bound calcium ซึ่งเปน รปู ที่ inactive
เม่ือพจิ ารณาถึงสมดุลของแคลเซยี มในรา งกายแลว แรธาตทุ ม่ี ีความสําคญั และสัมพันธอยางใกลชดิ ไดแก ฟอสฟอรัส
และแมกนเี ซียม จะตองถกู นํามาพิจารณาโยงความสมั พันธท้ังในระดับขบวนการควบคมุ และการทาํ งานของแรธาตุ เพ่ือความเขาใจที่ลึกซึ้ง
มากขึน้
การควบคมุ : พิจารณาโดยภาพรวมแลว ระดับของ 1. Calcium แคลเซียมในเลือดจะถูกควบคุมโดยอวัยวะที่สําคัญ
ในรางกาย ไดแ ก 1) กระดกู ท่ีเปนแหลงสะสมใหญ
ของแคลเซียม, ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียมใน
รา งกาย 2) ลําไสเ ลก็ ท่ีเปนอวยั วะท่ีสําคัญในการ
ดดู ซมึ แคลเซยี ม, ฟอสฟอรสั และแมกนเี ซยี ม 3) ไต
ซง่ึ ชว ยในการดูดซึมและขบั ออกของแคลเซียมและ
เปนอวยั วะหลกั ในการขบั ออกของฟอสฟอรสั และ
แมกนเี ซยี มที่สาํ คัญ 4) ตอมพาราธัยรอยด ท่ีหล่ัง
ฮอรโมน PTH (Parathyroid hormone) ซงึ่ มีบทบาท
สาํ คัญในการควบคมุ สมดุลของแรธ าตุแคลเซียม
และฟอสฟอรสั ผานอวยั วะทั้งสามที่กลาวมาแลว
- parafollicular c-cell ในตอมธัยรอยด ท่ีมี
บทบาทในการหลั่ง calcitonin ชว ยในการลดระดบั
แคลเซียม
สาํ หรบั กลไกโดยรวมในการทาํ งานของ
ฮอรโ มนและอวยั วะแตละชนดิ จะไมข อกลา วถึงใน
Fig.1 : Overall control of calcium homeostasis (1) ท่นี ้ี (นักศึกษาเรียนมาแลวจากสรรี วิทยา) แตจ ะเนน
ในการทํางานระดบั โมเลกุลเพื่อความเขาใจที่ลึกซึ้ง ดังนี้
1
เอกสารประกอบการเรยี นวชิ า minerals สําหรบั นศพ.ปท ี่ 2 ปก ารศกึ ษา 2552 ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตรศ ิรริ าชพยาบาล
จากแผนภาพ (Fig.1) เมื่อ ระดับ calcium ในเลือดลดลง จะทําใหปรมิ าณ calcium ion ทจ่ี ะไปกระตุน calcium Sensing Receptor (CaSR) ที่ตอมพาราธัยรอยดม ปี รมิ าณลดลง ทาํ ใหสญั ญาณยับย้งั (inhibitory signal) ท่ีจะปลดปลอยฮอรโมน PTH ลดลงเชนกัน จึงเกิดการปลดปลอย granule ทม่ี ฮี อรโ มน PTH ออกมาและกระตุนใหเกดิ การดูดซึมแคลเซียมมากข้ึนท่ีไตและลาํ ไสเล็ก (แต ลดการดดู ซมึ ฟอสเฟตท่ไี ต) และเกิด bone resorption ขึน้ ที่กระดูก นอกจากนย้ี งั กระตนุ การสราง active form ของ vitamin D โดย active form ของ vitamin D น้ีจะไปกระตุน ใหเ กิดการดูดซมึ ของแคลเซียมและฟอสฟอรสั เพิม่ ข้ึนท่ีลําไสเลก็ และไต(3) การทาํ งานของ vitamin D ทีก่ ระดกู และลําไส :
1. ลาํ ไสเ ล็ก : Active form ของ vitamin D ชว ยเพ่ิมการดูดซมึ calcium ทางลําไส โดยการจบั กับ Vitamin D receptor-retinoic acid x-receptor complex (VDR-RXR) เพื่อเพิ่มการ expression ของ calcium channel TRPV6 ที่ gut epithelium (Fig.2)
2. กระดูก : Active form ของ vitamin D จบั กับ Vitamin D receptor-retinoic acid x-receptor complex (VDR-RXR) ท่ีอยบู น osteoblast เพอ่ื เพิม่ การ expression ของ RANKL (Receptor Activator of Nuclear factor-κB Ligand) ซ่งึ จะไปจบั กบั receptor ของมันบน preosteoclast เพ่ือกระตุนใหกลายเปน mature osteoclast เพือ่ ทําหนาท่ี Bone resorption (Fig.2)
Fig.2 : Molecular effect of active form vitamin D (2)
กลไกดงั กลาวมีความสาํ คัญในการใชทําความเขาใจในการเรยี นทางช้นั คลนิ ิกตอ ไป โดยตอ งทราบวา แทจรงิ แลว ขบวนการ bone resorption และ bone mineralization ท่ีดําเนนิ การโดย osteoclast และ osteoblast น้นั การทํางานของเซลลท ้ังสองมี ความสมั พันธอ ยางใกลชิด เนื่องจาก VDR-RXR นนั้ ปรากฏเฉพาะบน osteoblast ทําใหก ารทาํ งานของ osteoclast ทุกคร้ังนั้นตองเกิด สัญญาณกระตุนผาน osteoblast เสมอ การทาํ งานท่ีสัมพนั ธก ันน้ีเองทาํ ใหขบวนการ bone remodeling สามารถเกิดข้ึนไดอยางเหมาะสม 2. Phosphorus :
แรธาตุฟอสฟอรัสถูกดูดซมึ จากอาหารผา นทางลําไสเล็กสว น jejunum และ ileum เปนสวนใหญ โดยขบวนการที่ใชด ูด ซมึ เปนหลักคอื passive & paracellular absorption และถูกขับออกทางไตผานทางปส สาวะเปน หลกั
2
เอกสารประกอบการเรยี นวชิ า minerals สําหรบั นศพ.ปที่ 2 ปก ารศกึ ษา 2552 ภาควชิ าชวี เคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
3. Magnesium :
แรธ าตนุ ไี้ มมฮี อรโ มนเพ่ือชว ยควบคมุ การดูดซึมแตอยางใด แตใชขบวนการ simple passive diffusion ผานผนงั ลําไส
เลก็ สวน duodenum เปน หลกั และมกี ารดูดซมึ เพิ่มเตมิ ท่ีทอ ไตสวน Thick ascending limb (65%) และ Proximal tubule (35%) สาํ หรับ
ขบวนการขับออกที่สาํ คัญเกิดผานทางไตเชนกัน
ปจ จัยทมี่ ีผลตอ การดูดซึมและขับออกของแรธาตุ :
Calcium Phosphate Magnesium
- Vitamin D, physiological - Vitamin D - Low Mg2+ diet
Increased absorption conditions ie. pregnancy, - non-absorbable complex - non-absorbable complex formation ie. Ca2+, Mg2+ formation ie. Ca2+, Mg2+ androgen,drug, acidity in GI - calcitonin - GI problems - PTH, acidosis, steroid - ECF expansion, acidosis, - Type of food ie. phytate, - calcitonin drugs - Renal dysfunction - Renal dysfunction Decreased absorption phosphate rich diet -steroid
- Elderly - calcitonin
Increased excretion - Affected GI system drugs
- calcitonin
Decreased excretion none
** Only clinical relevant key factors were shown
Biochemical function of calcium-phosphorus-magnesium :
1. เปนสว นประกอบของกระดูกและฟน : ท้งั 3 แรธาตมุ ีบทบาทสําคัญในการเปนองคป ระกอบหลักของโครงสรางกระดูกและฟน
โดยจะมสี ารอนินทรยี ม าจับอยูในรปู ผลึกของ hydroxyapatite [Ca10H(PO4)6(OH)2] 2. Neuromuscular function : ทัว่ ไปแลวมีแรธ าตหุ ลายชนิดท่ีสง ผลตอการทาํ งานของระบบประสาทกลามเน้อื โดยสงผลตอ
neuromuscular irritability (ความยากงายในการท่รี ะบบประสาทจะถกู กระตุน และสง nerve firing ไปทกี่ ลา มเน้ือใหเ กดิ การหดตัวทาํ งาน)
โดยมคี วามสัมพันธดังน้ี neuromuscular irritability α [K+]+[Na+]
[Ca2+]+[Mg2+]+[H+]
โดยการเปล่ียนแปลงความเขมขนของแรธ าตุเหลานใี้ นกระแสเลอื ดจะทําใหเ กดิ การเปล่ียนแปลงของ threshold ของ nerve firing สําหรับกลามเนือ้ เชน หากมรี ะดบั แคลเซียมลดตา่ํ ลงในกระแสเลือดจะทาํ ให threshold ลดตาํ่ ลงหรอื เกิดการเพิ่ม neuromuscular irritability ข้นึ นั่นเอง ทําใหเ กดิ อาการกลา มเน้ือกระตุก (tetany or spasm)
3. บทบาทเปน second messenger ในขบวนการ signal transduction : ในการที่จะเกิดการสอ่ื สารระหวา งเซลลใ นรางกายขึน้ ได รา งกายจําเปนตองมรี ะบบ signal transduction ซ่ึงหนึ่งในระบบน้นั คอื ระบบ IP3 –PLC ซึ่งหากมีสัญญาณจากภายนอกเซลลมากระตนุ ที่ receptor ท่ี coupled กับ Gq protein แลว จะเกิดการกระตนุ phospholipase C เพอื่ สลายให PIP2Æ DAG + IP3 ซงึ่ IP3 นเ้ี องจะไป กระตุนใหเ กิดการปลดปลอย Ca2+ จาก sarcoplasmic reticulum (SR) เพอ่ื นําไปใชเปน co-factor ของเอนไซม protein kinase C ซงึ่ ถกู กระตนุ โดย DAG เพ่ือ phosphorylate เอนไซมตางๆในเซลลใหทํางานตามตอ งการ (Fig.3)
4. Blood coagulation : แคลเซียมมบี ทบาทในชบวนการแขง็ ตวั ของเลือด ซึ่งเปน factor IV ในขบวนการนัน่ เอง โดยถูกใชใ นการ
กระตุน การเปล่ียน FXIÆFXIa, FXÆFXa, FIIÆFIIa และเปลยี่ น fibrinogen เปน fibrin นอกจากน้ยี งั ชว ยยดึ γ-carboxyglutamate (GLA) กับ phospholipid membrane ดว ย
3
เอกสารประกอบการเรียนวชิ า minerals สําหรับนศพ.ปท ่ี 2 ปก ารศกึ ษา 2552 ภาควิชาชวี เคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
Fig.3: Ca2+ as 2nd messenger Æ
5. ชว ยในการยอยโปรตนี ในน้ํานม : โปรตีน casein ในน้ํานม
ซ่งึ มี high proline peptide และไมมี disulfide bonds จงึ ไมมีการ
สรางเปน tertiary structure นอกจากนี้ยังไมสามารถละลายน้าํ ได
จึงมคี วามจําเปนตอง form เปน micelle ซงึ่ ปจจุบันโครงสรา งทีแ่ ท
จริงของ micelle นยี้ ังเปน ท่ีถกเถียงกันอยู จะเกดิ การแปลงรปู เปน
paracasein ซึ่งละลายน้ําไดและเกิดการผา นทางเดนิ อาหารอยาง
รวดเร็ว แคลเซียมจะชวยเขาไปสราง complex เปน calcium-
paracaseinate ทาํ ใหมันเปน insoluble form อีกครงั้ และเกิดเปน
ลิ่มไหลผา นทางเดนิ อาหารไดช าลง การยอยโปรตนั ดงั กลา วจงึ เกิดไดส มบรู ณ กลไกดงั กลา วลดความสาํ คญั ลงในผูใหญท ีม่ ีกรดในกระเพาะ
มากพอทจี่ ะชวยทําให casein ตกตะกอน แตมีความสําคัญในเด็กเลก็ ที่หนาท่ขี องกระเพาะยงั เจริญไมสมบูรณ
6. มบี ทบาทในการสังเคราะห, คัดหลง่ั , การทํางานของฮอรโมนและสารส่อื ประสาท : บทบาทน้ีพบทง้ั ในแคลเซียมและแมกนีเซยี ม
7. ควบคมุ สมดุลกรดเบสในรางกาย : บทบาทน้พี บชดั เจนในฟอสฟอรัส โดยการทํางานของคูบฟั เฟอร
HPO42- + H+ Æ H2PO - 4
8. เปน สวนประกอบของสารชีวโมเลกุลในรางกาย : สาย DNA และ RNA จะมฟี อสฟอรสั เปน องคประกอบใน phosphate
backbone เชือ่ มตอกรดนวิ คลีอิกแตล ะตวั เขาดวยกัน, ATP เปน สารพลงั งานสูงทีใ่ ชในปฏกิ ิรยิ าตา งๆในรางกาย เปนตน
9. ชว ยควบคุมการทํางานของเอนไซมต า งๆในรางกายผา นขบวนการ phosphorylation/dephosphorylation บทบาทนย้ี งั พบในแร
ธาตุแมกนเี ซยี มทชี่ วยจบั กับเอนไซมแลว เกิดการเปลยี่ นแปลง conformation ใหเ หมาะสมกับการทํางานดวย
10. บทบาทในการทาํ งานของปฏิกริ ิยาตางๆระดบั เซลล เชน การสราง DNA ที่ตอ งการ Mg2+ ในการ recombination ของสาย DNA
หรอื การสรา งโปรตีนท่ตี องการ Mg2+ ในการเกดิ ribosome aggregation เปน polysome
11. บทบาทในการเกดิ programmed cell death (apoptosis) : ขบวนการ apoptosis นัน้ เกิดขึ้นไดจ ากการเปลย่ี นแปลงของสมดุล
calcium ion ระหวาง ER (Endoplasmic Reticulum) และ mitochondria หากเกิดความผิดปกติข้ึนจะนําไปสกู ารกระตนุ apoptotic
signal และนํามาซงึ่ การตายของเซลล(3)
ความเช่อื มโยงของ แคลเซยี ม – ฟอสฟอรสั – แมกนเี ซียม :
แรธาตแุ มกนเี ซียมมคี วามสัมพันธอยางใกลชิดกับ
แรธ าตแุ คลเซยี มและโปแตสเซียมในรางกาย ทําใหเมอื่ เกดิ
พยาธิสภาพขนึ้ จะสงผลกระทบตอแรธาตุเหลา น้ี โดยสวน
ใหญแลวแรธาตุแมกนีเซียมไมใ ชแ รธ าตุท่ีแพทยจ ะเจาะตรวจ
เปน ประจาํ ในการตรวจผูปว ย แตม รี ายงานวาผูปว ยหนักใน
ICU พบอุบตั ิการณข อง magnesium disturbance ถงึ กวา
40% และอาการหรอื อาการแสดงไมจ าํ เพาะ ทําใหแ พทย
พลาดการวนิ ิจฉัยและรักษา การจะตรวจพบจึงตองอาศยั
high index of suspicious ของแพทยเ ปน หลัก
สาํ หรบั ความสัมพนั ธด งั กลาวมีสาเหตอุ ธิบาย ดังนี้
Fig.4 : Mechanism of hypomagnesemia induced hypokalemia (4)
4
เอกสารประกอบการเรยี นวชิ า minerals สําหรบั นศพ.ปท ่ี 2 ปการศกึ ษา 2552 ภาควชิ าชวี เคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
1. ความผดิ ปกติของแมกนเี ซยี มทมี่ ากหรอื นอ ยเกินทาํ ให เกิดภาวะแคลเซียมต่ํา : เนอ่ื งจากแมกนีเซยี มมีความจาํ เปน ตอการหล่งั ฮอรโมน PTH ดังนั้น ในภาวะ severe hypomagnesemia จะทําใหเกิด hypocalcemia รว มดว ย ซ่ึงหากไมทาํ การตรวจแมกนีเซียมและให การรกั ษาแต calcium supplement กจ็ ะไมส ามารถแกไขความผดิ ปกติได สาํ หรับในภาวะที่แมกนีเซยี มมากเกินกจ็ ะสามารถทําใหก าร หลงั่ ของ PTH ลดลงไดเ ชน กัน เนื่องจาก แมกนีเซียมเองสามารถกระตนุ calcium sensing receptor ได
2. ภาวะแมกนเี ซียมตา่ํ ทาํ ใหเกิดภาวะ hypokalemia : เน่อื งจากแมกนีเซียมจาํ เปน สําหรับการทํางานของ Na+/K+ ATPase pump ท่ี basolateral membrane ของเซลล จากรูป (Fig.4) จะพบวาปกติแมกนีเซียมจะดูดซึมเขาสูร างกายรว มดวย(นอกจากลําไสเ ลก็ )ท่ีไตสว น Thick ascending limb แบบ paracellular (เขา ไปตามรอยตอ ของเซลลสูก ระแสเลือดโดยตรง) ซึง่ การทจี่ ะนํา Mg2+จาก lumen เขา เซลล ไดจําเปนตอ งมี positive gradient ผลักมนั เขา มา ซง่ึ ตัวท่ีสราง positive gradient น้ีก็คอื K+ นัน่ เอง (ผา น ROMK ในรูป) ดงั นั้นเมอ่ื รางกายขาด Mg2+ จะมกี ารพยายามนาํ Mg2+เขา มามากขน้ึ สง ผลใหต องมี K+ loss ไปใน lumen มากขึ้น ดังน้ัน Na+/K+ ATPase ที่ basolateral membrane จะทํางานมากผิดปกติ ทําใหเ กิดการดึงK+จากกระแสเลอื ดเขาเซลลมากขึ้น จึงเกิดภาวะ hypokalemia ตามมา
ท้ังหมดนี้เปนสาเหตทุ ่ีทําใหในเวชปฏบิ ัติ มกั มีการเจาะตรวจเลอื ดไปพรอ มกันเสมอสําหรับแคลเซยี มและแมกนเี ซยี ม (ตรวจ ฟอสเฟตเพม่ิ เติมดวยเพื่อพจิ ารณาควบคกู ับแคลเซียม และตรวจโปรตีน albumin เพ่อื ใชห าคา total calcium ทถี่ ูกตอ ง)
Clinical Correlation(5) : 1. Hypocalcemia : ภาวะแคลเซยี มตาํ่ พบไดบอ ยในเวชปฏิบัติ อาการขึน้ กบั ระดบั ความรนุ แรงของแคลเซียมทีล่ ดลง อาการที่
คอนขา งพบบอ ย คอื ชารอบปาก (perioral numbness), มอื เทาเกรง็ (carpopedal spasm) จากระบบ neuromuscular system ที่เพ่ิม irritability แพทยส ามารถตรวจอาการแสดงไดโดยการเคาะท่ี facial nerve แถวๆ temperomandibular joint จะเกดิ การกระตุกของริม ฝป ากดานนั้น เรียกวา Chvostek’s sign (พบไดใ นคนปกติประมาณ 10%) หรือ ทาํ การพนั cuff วดั ความดันรอบแขนผูป ว ยและบบี ความ ดันใหเหนือกวาระดบั systolic BP. 20 mmHg. นานประมาณ 3 นาที จะพบการงอจีบของมอื เรยี กวา Trousseau’s sign ซึง่ การทดสอบน้ี มี sensitivity กวา 80% แตอ าจพบไดในภาวะอนื่ เชน hypomagnesemia, hyperkalemia เปนตน
สําหรบั สาเหตุของการเกดิ โรค นักศึกษาจะไดเรยี นรายละเอียดในชน้ั คลินกิ สาเหตุหนง่ึ ท่ีพบบอยคอื massive blood transfusion( รบั เลือดมากกวา total blood volume ใน 24 ชม.) ท่เี กิดจากการไดร ับสารกันเลอื ดแข็งตวั คือ citrate ในปริมาณมาก ทําใหแคลเซยี มถูกจบั เปนสารเชิงซอ น สง่ิ ท่ตี องระวงั ทกุ ครงั้ คือ หากผลตรวจเปนคา total calcium ในเลือดจะตองคดิ คา corrected total calcium เสมอ เพ่ือพิจารณาวา แคลเซยี มตํา่ จรงิ หรือไมด วยความสัมพนั ธ corrected total calcium = measured total calcium + 0.8( 4- albumin ) โดยหนวยเปน mg/dL
2. Hypercalcemia : ภาวะแคลเซียมสงู อาการข้นึ กบั ระดบั ความรนุ แรงของแคลเซียมที่เพ่มิ ขึน้ โดยมกี ลุมอาการ ทางระบบทางเดิน อาหาร (ทองผกู , คลื่นไสอ าเจยี น) การทาํ งานของประสาทกลามเนือ้ และหัวใจผิดปกติ ปวดกระดูกและเพ่ิมความเสย่ี งตอ การเกิดน่ิว ความ ดันโลหติ สงู แตเ ดิมสาเหตทุ ่พี บมากท่ีสุดคือ เนื้องอกของตอม parathyroid แบบไมรนุ แรง แตปจ จุบันแนวโนม ของสาเหตุจากมะเรง็ กาํ ลงั เพิ่มมากข้นึ เรอ่ื ยๆ โดยมะเรง็ ท่สี ามารถหลง่ั PTH-related peptide ออกมาไดจ ะทาํ ใหเ กดิ bone resorption จนเกดิ ภาวะ hypercalcemia การรกั ษาข้นึ กบั สาเหตุของความผดิ ปกติ
3. Hypophosphatemia : ภาวะฟอสเฟตต่ํา มกั พบในผปู ว ยในอาการหนกั โดยจะเพมิ่ ความเส่ยี งในผูปวยสรุ าเรอื้ รงั ปญหาท่ีพบใน ผูปว ยคอื กลามเน้อื ออ นแรง, เม็ดเลอื ดแดงแตกงา ย นอกจากนี้ยังพบภาวะดังกลาวมากในผูปว ย DKA (Diabetic Ketoacidosis) ท่มี ี osmotic diuresis ทาํ ใหเ กดิ การสูญเสียฟอสเฟตทางปสสาวะมาก รักษาดวยการใหฟ อสเฟตเสริมและแกไ ขสาเหตุ
4. Hyperphosphatemia : ภาวะ persistent hyperphosphatemia ท่ีนานเกินกวา 12 ชม.พบไดเกอื บจะจาํ เพาะกับภาวะไตวายท้ัง แบบเฉียบพลันและเรอ้ื รงั เนอื่ งจากไมส ามารถขบั ออกได สาเหตอุ ื่นทีพ่ บบอยคือภาวะทีม่ กี ารสลายของเซลลและเน้อื เยือ่ อยา งรวดเร็ว เชน
5
เอกสารประกอบการเรียนวชิ า minerals สําหรบั นศพ.ปท ่ี 2 ปก ารศกึ ษา 2552 ภาควชิ าชีวเคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
ผูปวยมะเร็งที่รบั ยาเคมีบาํ บัด ทําใหเ กิด tumor lysis syndrome ภาวะ hyperphosphatemia น้มี ักไมทาํ ใหเ กิดอาการ ยกเวนมรี ะดบั สงู มากจนไปจับกับแคลเซียมจนเกิด secondary hypocalcemia หรือทาํ ใหเ กดิ ภาวะไตวาย
5. Hypomagnesemia : เชน เดียวกบั ภาวะ hypophosphatemia จะพบบอยในผปู ว ยหนกั และตดิ สรุ าเรื้อรงั อาการปรากฏไดท ั้ง ระบบประสาท (ซมึ เศรา, ชัก), ระบบการทาํ งานกลามเน้อื (กระตกุ ) และการเตนของหัวใจผดิ ปกติรุนแรงเสียชีวิตได จุดสําคญั ของภาวะน้ี คือ ตอ งคิดถงึ เสมอหากพบ refractory hypocalcemia และ hypokalemia (แคลเซยี มหรอื โปแตสเซียมต่าํ ท่ีแกไขไมหาย) การรักษาคือ ให แมกนเี ซียมเสริมและแกไ ขสาเหตุ
6. Hypermagnesemia : พบนอยมาก เน่ืองจากไตมคี วามไวในการตอบสนองตอระดับแมกนีเซยี มทีเ่ พมิ่ ขน้ึ ไดอยา งรวดเร็ว หาก พบมกั เปนผลแทรกซอนจากการใชยาทีส่ งผลตอระดับแมกนีเซียมมากกวา การรักษาคอื หยุดยาท่เี ปน สาเหตุ
2. เหลก็ (iron) :
ธาตเุ หล็กมีบทบาทและความสาํ คัญเกีย่ วขอ งกบั ขบวนการตา งๆในรางกายมากมาย เชน เปนองคประกอบของ
ฮีโมโกลบนิ และมยั โอโกลบิน เพ่ือขนสง ออกซเิ จนไปยงั เนอ้ื เย่อื ตาง, ขบวนการเปลยี่ นรปู ตางๆของอนุมลู อิสระ เปนตน ทัว่ ไปรางกายจะมี
ปรมิ าณเหลก็ สะสมอยปู ระมาณ 40-50 mg/kg โดยมีความตอ งการในแตล ะวนั ประมาณ 20 mg/day ซ่งึ คาดังกลาวเปน คาประมาณของ
ปริมาณเหล็กท่ีจะสูญเสียไปในการทําลายของเม็ดเลอื ดแดงในแตล ะวนั น่นั เอง
การควบคมุ : ปกตแิ ลว รางกายของมนษุ ยไมม ีระบบการควบคุมการขบั เหล็กออกจากรา งกายทแ่ี นนอนเหมือนแรธาตอุ กี หลายชนิด โดย
เหลก็ จะถูกขับออกไปนอกรา งกายดวยระบบขับถา ย ดว ยการหลุดลอกออกไปของผนังเยอ่ื บุลําไสในแตล ะวนั (enterocyte shedding) หรอื
หลดุ ลอกออกทางประจาํ เดอื นในเพศหญงิ คดิ เปน ปริมาณประมาณ 1-2 g/day ดังน้ันจะเหน็ ไดว า ปริมาณเหลก็ ในรา งกายจะข้ึนกับการ
ดูดซึมเขา รา งกายเปน หลัก ซึ่งรางกายมีขบวนการในการควบคุมการดดู ซึมดงั นี้
3 กลไกหลักท่ีควบคมุ เก่ียวกบั การดูดซึมธาตุเหล็ก :
3.1 Recent dietary iron intake
อาจเรยี กกลไกนี้อีกอยางหนงึ่ วา “mucosal block” เชอ่ื วา เกดิ ขนึ้ หลงั มอ้ื
อาหาร โดยหากปริมาณธาตุเหล็กในอาหารมมี ากถึงระดับหน่งึ หลงั รับประทาน
อาหารน้นั เปน เวลาหลายวัน รางกายจะเกดิ การควบคมุ ท่ีทําใหเ กิดการลดการดูด
ซึมธาตุเหลก็ ท่ี enterocyte กลไกนี้เกิดข้ึนแมใ นขณะน้ันกําลงั อยใู นภาวะขาดธาตุ
เหลก็ (iron deficiency) กต็ าม
3.2 Iron body store
อาจเรียกอีกชื่อหนึง่ วา “stored regulator” โดยรา งกายควบคมุ ท่รี ะดับ apical
membrane ของ enterocyte ซ่งึ มี DMT1(Divalent Metal Transporter 1) อยู โดย
DMT1 จะลดลงทผ่ี วิ ดาน apical membrane ของ enterocyte เพ่ือตอบสนอง ตอ
ความอิ่มตัวของเหลก็ ใน transferrin ทาํ ใหมีปริมาณเหล็กผา นเขามาทาง DMT1สู
ภายในเซลลเยือ่ บผุ นังลําไสลดนอยลง
3.3 State of erythropoiesis
เชอื่ วา กลไกนเี้ ปนกลไกทม่ี ีความสําคญั มากทีส่ ดุ เนอ่ื งจากสามารถอธิบาย
การตอบสนองโดยตรงตอการสรางเมด็ เลอื ดแดงที่เปน แหลง สําคัญของการใช
เหล็กในรางกาย นอกจากน้ี ขบวนการดังกลา วยังสามารถอธบิ ายพยาธิสภาพที่เกดิ
ภาวะเหลก็ เกนิ ในโรคหลายชนิดได เชน ธาลัสซีเมยี
Fig 5: Balance of iron in the body(6) Hepcidin(7) คอื 25-amino acids peptide ท่ีสามารถถูกกระตนุ ใหส รา งได
6
เอกสารประกอบการเรยี นวชิ า minerals สาํ หรบั นศพ.ปท ี่ 2 ปการศกึ ษา 2552 ภาควิชาชวี เคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
มากข้นึ ในหลายภาวะ เชน inflammation, iron overload. โดยในภาวะตา งๆเหลา น้จี ะทําใหเ ซลลต างๆในรา งกายทสี่ ามารถรับรูไดถึงการ เพิ่มขึ้นของเหล็กในเลอื ดสรา งสัญญาณทแ่ี ตกตา งกนั มากระตนุ เซลลต ับ เชน Kupffer cells หรอื sinusoidal cells ดังภาพขา งลาง (Fig.6) ซงึ่ hepcidin ทถ่ี ูกสรางขึ้นมาจะทําหนาที่ยับย้ังการดูดซึมธาตเุ หล็กท่ี duodenal villi และยับย้ังการปลดปลอยของธาตเุ หลก็ ที่สะสมใน macrophage เขา สกู ระแสเลอื ด
จากองคค วามรูดังกลาว ศ.นพ.สุทัศน ฟูเจรญิ และคณะ(9) ไดทําการทดลองเพื่อพยายามอธบิ ายถึงพยาธิสรีรวิทยาของภาวะเหลก็ เกนิ (secondary hemochromatosis) ในรางกายของผูปวยธาลัสซเี มีย ท่ีไมไ ดเ กิดจากการใหเลือดบอ ยๆ ซ่งึ สามารถอธิบายจาก ภาวะซีดเรื้อรงั และ ineffective erythropoiesis ทําใหเ กดิ การสรา งเม็ดเลอื ดแดงเพ่มิ มากขึ้นในไขกระดูก โดยมกี ารเพม่ิ ขน้ึ ของการแสดงออกของยนี สาํ หรบั โปรตนี ตระกูล TGFB (Transforming Growth Factor-β superfamily) ซงึ่ มอี ยูหลายชนิด โดยหน่งึ ในน้ันทีส่ ําคญั คือ GDF15 (Growth Differentiation Factor 15) ซ่ึงพบวา มีระดับสงู ข้ึนในผปู วยธาลัสซีเมีย
โดยท่วั ไปแลว GDF15 ในระดบั ทไี่ มม ากเกนิ ไป (100- Fig.6: Hepcidin function H=hepatocyte/S=sinusoid/K=Kupffer cell(7) 1000 pg/ml) สามารถกระตุนใหเ กดิ การเพิ่ม hepcidin mRNA expression ในเซลลต ับได แตในภาวะท่มี ี GDF15 มากผิดปกติ (10,000-100,000 pg/ml) ของผูปว ยธาลัสซเี มีย จะเกดิ ขบวนการตรงขา ม คือเกดิ การลดลงของ hepcidin mRNA expression ซ่งึ นาํ ไปสูการดูดซึมธาตเุ หล็กทม่ี ากขึน้ ของเย่อื บผุ นังลําไสและนาํ มาซ่งึ ภาวะเหล็กเกนิ ในท่สี ุด สามารถสรปุ เปนกลไกไดดงั ภาพ (Fig.7)
ขบวนการดดู ซมึ เหล็ก : 7 เมอ่ื อาหารท่ถี ูกยอ ยแลวผา นมาถึงลําไสเ ล็กสว น duodenum จะมี iron absorbing cells อยูท่ี apical membrane ของ enterocyte ซ่ึงเกิดจากการ maturation มาเร่ือยๆจาก crypt of Lieberkuhn ท่ดี าน apical side ของ iron absorbing cells จะมเี อนไซม ferric reductase เพ่อื ทําการเปลย่ี น Ferric (Fe3+) ให กลายเปน ferrous (Fe2+) กอนท่ีจะผานเขา สูใ นเซลลทาง DMT1 (Divalent Metal Transporter1) ซึ่งยอมใหท ั้งธาตอุ ่ืนทม่ี ปี ระจุ2+ เชน Ca2+, Mg2+ผา นไปไดเ ชน กัน จากน้ัน ธาตุเหล็กอาจสะสมอยใู นเซลลใ นรปู ของ ferritin (Fe3+) หรือเขาสกู ระแสเลอื ดทางดา น basolateral membrane โดยหลงั จากผานออกมาแลวจะถูก Hephaestin ทีม่ ี โครงสรา งคลายคลึงกบั ceruloplasmin ทาํ การ oxidize ให กลายเปน ferric (Fe3+) อกี ครง้ั เพอื่ จะไดจ บั กับ apotransferrin ในเลอื ดเปน transferrin ซงึ่ จะมีท้ังรปู ทีจ่ ับกบั เหล็ก 1 อะตอม และ 2 อะตอมชว ยขนสง เหล็กในกระแสเลือดตอ ไป ดงั ภาพ (Fig.8) Fig.7: Model for iron regulation in Thalssemic patient(8) เราเรยี กปริมาณเหลก็ ท่จี ับเพิ่มที่ transferrin ซึ่งไมมี เหลก็ จับหรอื จับแคอะตอมเดียววา unsaturated Iron Binding Capacity (UIBC) จึงไดวา TIBC (Total) = serum iron + UIBC
เอกสารประกอบการเรียนวิชา minerals สาํ หรบั นศพ.ปท ่ี 2 ปก ารศกึ ษา 2552 ภาควิชาชวี เคมี คณะแพทยศาสตรศ ิรริ าชพยาบาล
เมื่อ transferrin มาถึงเซลลท ต่ี องการธาตเุ หล็ก จะทําการจับกับ transferrin receptor ท่ีอยทู ่ผี วิ เซลลแ ลว เกิดการหวําของ
เยอื่ หมุ เซลลเขาไปกลายเปน endosome (Fig.9) ทมี่ ี proton pump อยดู วย โดย pump น้ีจะทาํ ใหเ กดิ influx ของ proton เขามาใน
endosome เม่ือมี pH เปล่ยี นจะทาํ ใหเ กิด conformation change ท่ีโปรตนี transferrin ทําใหเ กิดการปลดปลอย free iron ออกมาใน
endosome และเกดิ efflux ออกจาก endosome ไปสู cytoplasm ของเซลลเพือ่ นาํ เหล็กไปใชตอ ไป
Fig.8 : iron absorption at enterocyte(6) ปจจยั ที่มผี ลตอ การดูดซมึ ธาตเุ หลก็ :
1. ปจ จยั เพ่มิ การดดู ซึม - Stomach acidity : ภาวะความเปนกรดในกระเพาะอาหารจะ
ทําใหมี proton rich milieu ทําให ferric iron (Fe3+) อยูในรูป ไอออน สามารถเกิดปฏกิ ริ ยิ ากับ ferrireductase ไดด ียงิ่ ขึ้น - Reducing agent : เชน vitamin C, glutathione จะชวยใน การ reduce ferric iron ไปเปน ferrous iron - Increased iron demand : ในภาวะทร่ี างกายตองการธาตุ เหลก็ มากข้นึ เพื่อนาํ ไปใชเสรมิ สรา งสว นประกอบท่ีจาํ เปนของ รา งกาย เชน pregnancy, anemia 2. ปจจัยลดการดูดซมึ - intestinal basidity - phosphate, phytate and oxalate : ประจลุ บในสารเหลา นี้ จะทําใหเ กดิ การ form complex ขนึ้ กับ iron atom ทาํ ใหการ ดดู ซมึ เกิดขึ้นไดนอ ยลง
Fig.9.: What happen at the cellular level in iron uptake(6)
8
เอกสารประกอบการเรียนวิชา minerals สําหรับนศพ.ปท ี่ 2 ปก ารศกึ ษา 2552 ภาควชิ าชวี เคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
Biochemical function of iron : Heme enzymes 1. เปน สารประกอบชวี โมเลกุลของรา งกาย Cytochromes - Electron transport
Heme proteins Cytochrome P450 - Oxidative degradation of drugs Hemoglobin - ลาํ เลยี งออกซเิ จนไปสเู น่อื เยือ่ ตา งๆของรางกาย Myoglobin - ลําเลยี งและสะสมออกซเิ จนทกี่ ลามเน้ือ Catalase - H2O2 O2 and H2O
Transport and storage proteins Nonheme enzymes Transferrin - Transport iron and other minerals Fe-S and Metalloproteins - Oxidative metabolism Ferritin - Storage Hemosiderin - Storage Iron-dependent enzymes Tryptophan pyrolase - Oxidation of tryptophan
2. บทบาทเก่ยี วของกับ oxidative radicals generation : ขบวนการ Fenton reaction ทําใหเ กิด oxidative stress ข้ึนภายในรางกาย ดว ยปฏกิ ริ ยิ า ดงั นี้
Fenton reaction : ประกอบดวย Fe2+ + H2O2 Æ Fe3+ + .OH + OH- - (1) Fe3+ + H2O2 Æ Fe2+ + .OOH + H+ - (2) Ferrous iron (II) จะถกู oxidized โดย H2O2 ทาํ ใหได hydroxyl radical และ hydroxyl anion สําหรบั ferric iron(III) ที่
เกิดขึน้ มาจะกลับมาทําปฏกิ ิรยิ าตอ กบั H2O2 ไดเ ปน peroxide radical และ proton ซึ่ง reactive oxygen species ตางๆท่ีเกิดข้ึนนน้ั ทาํ ให เกดิ ภาวะ oxidative stress ขนึ้ ปฏกิ ิรยิ าดงั กลา วปจ จุบันไดน ํามาใชทางอตุ สาหกรรมเพอื่ ยอ ยสลาย water pollutant บางชนิดได Haber-Weiss reaction : สรา ง •OH (hydroxyl radicals) จาก H2O2 (hydrogen peroxide) และ superoxide (•O2-) ทาํ ใหเกิด oxidative stress เชนกัน โดยปฏกิ ิริยาเกิดไดด ว ยการใชเหล็กเรง ปฏกิ ิริยา
Fe3+ + •O2− → Fe2+ + O2 แลว จึงเกิดปฏกิ ิรยิ าทสี่ องตามมา คือ Fenton reaction จงึ ได net reaction คือ •O2- + H2O2 → •OH + HO- + O2 ซ่งึ ก็มบี ทบาทในการทาํ ใหเ กดิ oxidative stress เชน กนั
3. มบี ทบาทในการเจรญิ ของ T-cell lymphocyte ในระบบภูมิคมุ กันรา งกาย
Clinical Correlation : 1. ภาวะซีดจากการขาดธาตุเหลก็ (iron deficiency anemia) ธาตเุ หล็กมีความสําคญั ตอการสรา งเมด็ เลอื ดแดง โดยเปน องคประกอบที่สําคัญของ heme เพอ่ื ใชในการจับปลอ ย
oxygen ใหแ กเ นื้อเยื่อของรา งกาย การขาดธาตุเหล็กจึงเสมอื นการขาดวตั ถุดบิ ทจี่ ะนาํ มาใช ทาํ ใหเ มด็ เลอื ดแดงทสี่ รางไดยอ มติดสซี ีดลง ขนาดเม็ดเลือดแดงเล็กลงและไมส มา่ํ เสมอ ผปู วยจึงมอี าการออนเพลีย ไมมีแรง เหนื่อยงา ยกวาปกติ ชอบทานสงิ่ แปลกๆ (pica) เชน น้ําแข็ง, ดนิ หากเกิดภาวะนีร้ ุนแรง โดยเฉพาะในผูป ว ยท่ีมีปญหาโรคหวั ใจอยเู ดิม อาจนําปสภู าวะหัวใจลม เหลวได (heart failure)
สาเหตุของการเกดิ ภาวะดังกลา วอาจมาจาก ภาวะทพุ โภชนาการ, physiologic condition ทม่ี ีความตอ งการธาตเุ หลก็ ใน รางกายเพม่ิ ขึน้ เชน ต้งั ครรภ, ทารกท่ีดืม่ แตน มมารดาท่ีมธี าตเุ หลก็ อยูปริมาณนอ ยเมือ่ เทยี บกับนมววั ,ติดเช้ือพยาธบิ างชนิด หรือ ภาวะเสีย เลือดเรอื้ รงั เชน แผลในกระเพาะอาหารเรื้อรงั
การรกั ษามีความจาํ เปน ตอ งใหธาตุเหลก็ เสริมนานถงึ 3 เดือน เพอื่ ชดเชยธาตเุ หล็กสํารองท่มี ีอยูในรา งกายดว ย นอกเหนือจากธาตุเหล็กทห่ี มุนเวยี นใชเ ปนปกติของรางกาย
9
เอกสารประกอบการเรยี นวชิ า minerals สาํ หรับนศพ.ปท่ี 2 ปการศกึ ษา 2552 ภาควชิ าชีวเคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
2. ภาวะเหลก็ เกนิ ในรา งกาย (hemochromatosis or hemosiderosis) ภาวะนเ้ี กดิ จากการท่รี า งกายเพ่ิมการดดู ซึมธาตุเหล็กเขารา งกาย โดยสาเหตุความผดิ ปกตสิ ามารถเกิดไดจากท้ังความ
ผิดปกติของยีนที่ควบคมุ หรอื เปนภาวะแทรกซอนจากโรคอื่น เชน ธาลัสซีเมีย เหลก็ ทีม่ ีมากเกินจะเกิดการสะสมตามเน้อื เยอื่ ตางๆของ รา งกาย ทําใหเกิดปฏิกริ ยิ า oxidative stress ในเนื้อเยอื่ น้นั ๆและนาํ มาซึ่ง organ dysfunction ในท่สี ุด เชน สะสมทต่ี อมใตสมอง ทําใหพ บ ลกั ษณะการเติบโตทีไ่ มสมวยั ในผูปว ยธาลัสซีเมีย, สะสมทีห่ ัวใจ ทาํ ใหก ารนาํ ไฟฟา ของหัวใจผิดปกติ นาํ มาซงึ่ ภาวะหวั ใจเตน ผดิ จงั หวะ (arrhythmia) หรอื ทาํ ใหห ัวใจคลายตัวไดไมด ีนําไปสภู าวะหัวใจลมเหลว ซงึ่ เปนสาเหตุการเสียชวี ิตอนั ดับแรกในผปู วยกลมุ น้ี
การรักษาปจจบุ ันมยี าขับเหลก็ ในรปู แบบตา งๆ ทม่ี ปี ระสิทธภิ าพและรปู แบบการใชต า งๆกันไปทั้งรปู รบั ประทานและฉีด ทําใหผ ลการรกั ษาเปนทีน่ าพอใจ
3. ภาวะ infection (9) เม่อื มกี ารติดเช้อื ในรา งกาย ระบบภูมคิ มุ กัน จะทํางานและเกิดการหลัง่ cytokine เชน interferon-gamma, TNF-alpha, interleukin-1,6,10 (IL-1,6,10) ซึ่งจะไปกระตนุ acute-phase protein ทต่ี ับสรางขึ้น คอื hepcidin ใหม จี าํ นวนมากขึ้น ซ่ึงจะชว ยในการยบั ยั้งการดดู ซมึ ของ เหลก็ ท่ีลําไสเ ล็กและยังมีการกระตนุ ใหเกิดการสรา ง DMT1(Divalent Metal Transporter1) บน cell macrophage ใหมากขน้ึ เพือ่ ใหเ กดิ การ uptake ferrous iron เขาไปในเซลลมากข้ึน และ IL-10 ยงั กระตุนใหเกดิ การเพมิ่ expression ของ transferrin receptor ใหมากขนึ้ ทาํ ให transferrin-bound iron เขา ไปใน monocyte ใหม ากขึน้ นอกจากน้ี ยงั พบการ down-regulation ของการเกิด expression ของ iron transporter ferroportin1 ท่ี macrophage ทําใหเ หลก็ ไมสามารถออกไปจากเซลลม นั ไดและถกู เก็บไวใ นรูป ferritin ในเซลล ขบวนการที่ เกดิ ขนึ้ ชว ยจํากัดไมใหม ธี าตเุ หล็กทแี่ บคทีเรียจะนําไปใชในการสราง nucleoprotein ของมัน
3. ไอโอดีน (iodine) :
ธาตไุ อโอดีนในรางกายมปี ระมาณ 20-50 mg. โดยมคี วามเขม ขน ทีม่ ากทสี่ ุดอยูท ่ตี อ มธัยรอยด ดงั น้ันบทบาทหลักจึง เกย่ี วของกบั ขบวนการสรางธัยรอยดฮ อรโมนเปนหลกั พบมากในอาหารทะเล
Metabolism of iodine : ธาตุไอโอดีนทไ่ี ดจากสารอาหารจะถูกดดู ซึมเขา สูกระแสเลือดผา นทางลําไสเล็กในรปู iodide และจะถูก pump มาเกบ็ ไว
ในตอมธยั รอยดผา นขบวนการ 2° active transport ที่ basolateral membrane ของ follicular cell และผานเขา colloid ของตอมทาง apical membrane ที่มี TPO (Thyroid Peroxidase) ซ่งึ เปน heme-containing glycoprotein เกาะยึดอยู ซ่ึงจะถูกแปลงใหเปน oxidized form ดว ย H2O2(Fig.10) เพ่ือทาํ ปฏิกริ ิยากบั iodide เกดิ การสราง iodinating intermediate (TPO-Iox) (Fig.11,12)
Fig.10 : Iodide uptake at thyroid gland(10) iodinating intermediate ดงั กลาวจะทําปฏิกิริยา กับ tyrosine residue ของ thyroglobulin เพอ่ื สรา ง monoiodotyrosine และ diiodotyrosine (Fig.13) จากนั้น monoiodotyrosine และ diiodotyrosine จะเกดิ coupling reaction ดงั น้ี
MIT + DIT = triiodotyronine (T3) DIT + DIT = tetraiodotyronine (T4) แลวจะเกิด pinocytosis เขา มาเก็บไวข า งใน cytoplasm ของตอม โดย endosome ท่เี กบ็
10
เอกสารประกอบการเรยี นวชิ า minerals สําหรบั นศพ.ปท ี่ 2 ปก ารศกึ ษา 2552 ภาควิชาชวี เคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
ฮอรโมนเอาไวน ้ีจะเกดิ การรวมตัวกับ lysosome เพือ่ ใหเ กิดการยอยเอากรดอะมิโนออก ไดเปน T3 และ T4
T3 จากภาพจะเห็นวา T3 และ T4 แตกตา งกนั ที่
Iodide ทเี่ กาะอยูตําแหนง 5’ ของ outer ring จะ หายไปใน T3 ทาํ ให T3 เปนรูปทม่ี ี activity มากกวา T4 (more active)
T4
** หากตาํ แหนงท่ี I- หายไปคอื ตําแหนง 5 บน inner ring จะเรียกรปู น้วี า “reverse T3”(rT3) ทไี่ มมี activity
Fig.11: Peroxidation(10)Æ
ธยั รอยดฮอรโ มนท่ขี นสง ในรางกายจะจับกับโปรตนี globulin เรียกวา thyroid binding globulin (TBG) ซ่งึ คาท่ีเรา ตรวจฮอรโมนจากพลาสมาผูปวยจะคือคา total form นัน่ หมายถึงหากมภี าวะทท่ี ําใหม ีการสรา ง TBG เพ่มิ ขนึ้ เชน ใชยา คมุ กาํ เนดิ จะทําใหตรวจไดร ะดบั ฮอรโ มนสงู กวาปกติ ในทาง กลับกนั หาก TBG นอ ยลงก็อาจทําใหตรวจไดต ํ่ากวา ปกติ เชน มี การใชยา steroid ปจ จุบันจงึ มีการตรวจ free form ของ ฮอรโมนเหลาน้ี เพ่อื ใหการวินิจฉัยเปนไปอยางถูกตอง
Fig.12 : TPO-Iox formation(10)
Fig.13 : Iodination(10)
Clinical Correlation : 1. Hyperthyroidism : ภาวะท่มี ีธยั รอยดฮอรโมนในรางกายมากผดิ ปกติ ทําให basal metabolic rate ในรางกายเพมิ่ มากขน้ึ จากอิทธพิ ลของ
ฮอรโ มน ผปู วยจะมีอาการข้ีรอ น, หงุดหงดิ งา ย, ทานอาหารมากแตน้ําหนกั ลด, ทองเสยี ในบางสาเหตอุ าจทําใหเ กดิ การสะสมของสารและ เน้ือเยื่อทีล่ ูกตา เกดิ เปน exophthalmos (ตาโปน) สาํ หรบั รายที่มอี าการรนุ แรงมาก โดยเฉพาะเมอ่ื ผูป ว ยเจอ stress รนุ แรง เชน ตดิ เชื้อใน กระแสเลือด อาจทาํ ใหเกิดภาวะหวั ใจลมเหลว, ระบบประสาทสว นกลางผิดปกติ, ฯลฯ เรียกวา “thyroid storm” การรักษาขน้ึ กับสาเหตุ ปจจบุ ันมที ั้งการรกั ษาดวยยา, การผา ตัดและกลืนแรร งั สี ซึ่งจะไดเรียนตอไปในชั้นคลินิก
11
เอกสารประกอบการเรียนวิชา minerals สําหรบั นศพ.ปท ี่ 2 ปก ารศกึ ษา 2552 ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตรศ ิรริ าชพยาบาล
2. Hypothyroidism :
ในกรณที ต่ี รงกนั ขา มคือ ธัยรอยดฮ อรโ มนในรางกายลดตา่ํ ลง จะทําให metabolism ในรางกายลดลง ผปู ว ยมีอาการเฉ่อื ย
ชา, ไมท นตอความหนาวเยน็ , ทองผูก, น้าํ หนกั เพมิ่ , เสียงแหบ ภาวะดงั กลาวมาจากสาเหตใุ ดๆท่ีทาํ ใหการทํางานของตอ มลดลง เชน มี
สาร goitrogen จากกะหลํา่ ปลีหรอื มนั สําปะหลังตานไอโอดนี สาร thiocyanate ยบั ยัง้ การจบั ไอโอดนี ของตอมธัยรอยด หรืออาจเกดิ หลัง
การผาตัดตอ มธัยรอยดอ อก การรักษาใชการใหธยั รอยดฮ อรโมนเสรมิ
4. ทองแดง (Copper) :
ทองแดงเปนธาตุทพี่ บมากท่ีตบั , สมอง, หวั ใจ และไต ทองแดงที่ขนสงอยใู นกระแสเลือดจะจบั กับโปรตีน albumin เปน หลกั บางสวนจะจับกับ alpha-2 globulin (apoceruloplasmin) ในตับอยางแนน เรยี กวา ceruloplasmin ซงึ่ มบี ทบาทชวยในการเปน antioxidant และชวยเปนแหลงเก็บธาตุทองแดงเอาไวใ หอ ยใู นรูปท่ไี ม เปน พษิ เพื่อขบั ออกทางนาํ้ ดีสูลําไสต อ ไปรว มกับรปู ทจ่ี ับอยู กบั metallothionein (Fig.14)
การดูดซึมจากสารอาหารเกดิ ข้นึ มากที่ กระเพาะอาหารและลําไสเ ล็กสว น duodenum และขบั ทงิ้ จากรางกายเปน หลกั ทางอุจจาระ
Fig.14 : transportation of copper in body (11)
Biochemical function of copper : 1. Structure of enzymes and proteins : ทองแดงเปนธาตทุ ่ีเปนองคป ระกอบที่สาํ คญั ของเอนไซมและโปรตนี หลายชนดิ ในรางกาย
และยังเปน co-factor ท่ีสําคญั ดวยเชน กนั ไดแก cytochrome oxidase ใน respiratory chain, lysyl oxidase ทมี่ บี ทบาทในขบวนการ collagen synthesis และ tyrosine oxidase ทมี่ ีบทบาทใน melanin synthesis
2. ชว ยรา งกายในการดดู ซึมธาตุเหล็กที่ระบบทางเดนิ อาหาร 3. มบี ทบาทในขบวนการสรา งฮีโมโกลบินในรางกาย
ดังนั้นผปู ว ยโรคโลหิตจางทีว่ ินิจฉยั วาเกดิ จากการขาดธาตุเหล็ก หากรกั ษาดว ยการใหธ าตุเหล็กเสรมิ แลว อาการไมด ขี ึ้น ควรพจิ ารณาถึงภาวะขาดธาตุทองแดงในรา งกายดวยเชนกัน Clinical Correlation :
1. Menkes disease : เปน ภาวะทีเ่ กิดจากความผดิ ปกตขิ องยีน ทําใหก ารกระจายของธาตุทองแดงในรางกายมคี วามผิดปกติ บาง อวัยวะอาจมีการสะสมของทองแดงมาก เชน ไต, ลําไส แตโดยรวมเนื้อเยื่อและอวัยวะอืน่ ๆจะขาดแคลนทองแดงที่มบี ทบาทในการทาํ งาน ของเอนไซมในไมโตคอนเดรีย ทําใหเกดิ อาการ กลา มเน้ือออนแรง, ชัก, สติปญ ญาไมเตบิ โตสมวยั และเน่อื งจากทองแดงมีบทบาทในการ เปน co-factor ของ lysyl oxidase ทาํ ใหเ นื้อเยื่อหรอื อวัยวะท่ีมี collagen เปน องคป ระกอบมคี วามผดิ ปกติ ไดแ ก ผมเปราะบาง, หยิกและ สซี ดี อาจมปี ญ หากระดกู เปราะบางหักงาย
2. Wilson disease : กลุมนี้มกั เปน ผปู วยอายนุ อ ย เกดิ จากความผิดปกติของยนี ทาํ ใหเ กิดการสะสมของทองแดงในเนือ้ เยอื่ ผิดปกติ ผูปวยจะมาพบแพทยดว ยอาการทางระบบประสาท เชน สับสน, สั่น, ล้นิ แข็ง ฯลฯ เนอ่ื งจากทองแดงสะสมท่ีสมองสวน lenticular nucleus นอกจากนี้ยังมีการสะสมของทองแดงทต่ี บั ทาํ ใหน าํ ไปสูภาวะตบั วายในที่สุด ทองแดงท่ีสะสมที่ตาจะทาํ ใหแพทยส ามารถตรวจ พบวงแหวนสีน้าํ ตาลรอบๆกระจกตา เรียกวา Kayser-Fleischer ring การวินิจฉยั ปจจุบันนิยมทําเปน therapeutic diagnosis ดว ยการให penicillamine แกผ ปู วยแลว สังเกตการเปลย่ี นแปลงของอาการทีด่ ขี ้ึน
12
เอกสารประกอบการเรยี นวิชา minerals สาํ หรบั นศพ.ปที่ 2 ปการศกึ ษา 2552 ภาควชิ าชวี เคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
5. ฟลูออไรด (Fluoride) :
ธาตุนีพ้ บไดม ากที่กระดูกและฟน โดยรางกายไดจากสารอาหารจําพวกอาหารทะเล และแหลง น้ําตามธรรมชาติ ซ่ึงใน
ปจ จบุ ันมขี อ กาํ หนดปรมิ าณฟลูออไรดใ นนา้ํ ที่นาํ มาใชสําหรับประชาชนใหม ีความเหมาะสม (1 ppm หรอื 1 mg/L) หากแหลง น้ําใดมกี าร
ขาดแรธ าตชุ นิดน้จี ะมีการเติมฟลูออไรดใ หไดต ามมาตรฐานดังกลา วเพ่อื ลดฟน ผุ
Clinical Correlation :
1. Fluorosis : หากเด็กในวัย 1-4 ปไ ดร ับธาตฟุ ลูออไรดม ากเกนิ ไป จะทําใหเกดิ เปนคราบสะสมที่ฟน ปญหาท่เี กิดจะเปน เฉพาะเร่ือง
ของ cosmetic รักษาไดด วยการขดู ฟน หรอื ฟอกฟน ในรายท่ีรุนแรงมากอาจมกี ระดกู งอกท่เี อน็ และกลามเนื้อ เกิดการกดทับเสนประสาทได
เรยี ก skeletal หรือ bone fluorosis
2. NaF : เปน สารกนั เลือดแขง็ ตัวชนิดหน่ึง นิยมใชก ับเลอื ดท่ีเจาะสงตรวจกลูโคสในพลาสมา เนือ่ งจาก NaF สามารถยบั ยง้ั เอนไซม
enolase ในขบวนการ glycolysis ซง่ึ เปน แหลงพลงั งานท่ีสาํ คัญของเม็ดเลือดแดงได
3. Toothpaste : ดว ยประสิทธภิ าพของการยับย้ังเอนไซมดงั กลาว จึงสามารถฆาเชื้อแบคทเี รียในชอ งปากทเี่ ปน สาเหตขุ องฟนผไุ ด
6. กาํ มะถนั (Sulfer) :
ปกตเิ ปนธาตุทไ่ี ดร ับอยา งเพยี งพอจากอาหารจําพวกโปรตีนอยูแลว โดยธาตนุ จ้ี ะเปน องคประกอบทส่ี าํ คญั ของกรดอะมิโน
สามชนิด ไดแ ก cysteine, cystine และ methionine รางกายจะดูดซึมธาตดุ ังกลาวในรูปของ sulfide แลว จึงเกิดการ oxidized เพอ่ื แปลง
เปน sulfate ที่ตบั เพื่อใหพรอ มกับการเกดิ สารประกอบตา งๆตอไป
Biochemical function of sulfer : 1. เปน พันธะท่ที าํ ใหเ กดิ การสรางเปน tertiary structure ของโปรตนี ดว ยพนั ธะ disulfide bond
2. มีบทบาทเปน antioxidant โดยทาํ งานเปนสวนหนึง่ ของระบบ glutathione reductase system
3. เปน สวนหน่งึ ของโครงสรางสารที่สาํ คัญในรา งกาย เชน bile acid, insulin, melanin,etc.
4. ทําหนา ท่ีขจัดพิษ (Detoxification) ซ่งึ เปนบทบาทเดน ของการทํางานของตบั โดยหลงั เกิดการยอ ยและดูดซึมสารอาหารจําพวก
โปรตีนแลว แบคทเี รียในลาํ ไสใหญจ ะทาํ การสลายกรดอะมโิ นใหกลายเปน indole, phenol, cresol, etc. ท่มี ีความเปน พิษ ซง่ึ บางสวนจะ
ถูกดดู ซึมกลับเขา รางกาย เมื่อสารน้ีผานตับก็จะเกิดการแปลงเปนสารประกอบ ester และรวมกบั sulfate ไดกลายเปน ethereal sulfate
แลว เกิดการขับทง้ิ ทางปสสาวะ ดงั ตัวอยาง
Oxidized K+ + SO42- K In liver
Indole Indoxyl K.Indoxyl sulfate (Indican)
Clinical Correlation : ภาวะมกี ํามะถนั มากเกินหรอื นอยเกนิ ในรา งกายทางคลนิ กิ พบไดนอยมาก อาจพบไดบ า งในผูปว ยทท่ี ุพโภชนาการรุนแรง
ภาวะพิษจากกาํ มะถันอาจพบไดใ นผทู ่หี ายใจเอาไประเหยของสารประกอบหรอื กรดที่มีกาํ มะถันเปน องคป ระกอบเขา ไป ทําใหระคายเคอื ง ตอระบบทางเดินหายใจ
13
เอกสารประกอบการเรยี นวิชา minerals สําหรบั นศพ.ปท่ี 2 ปก ารศกึ ษา 2552 ภาควิชาชวี เคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
7. สงั กะสี (Zinc) :
เปนธาตุทพ่ี บสวนใหญอยูภายในเซลล (>95%) ดูดซมึ จากอาหารเขาสรู า งกายท่ีลาํ ไสเล็กสว น duodenum โดยเกิดการ
จบั กบั กรดอะมโิ น histidine เปน Zn-histidine complex โดยแรธ าตุพวกแคลเซียม, ฟอสเฟต หรอื สาร phytate จะรบกวนการดูดซึมเพราะ
เกิดการสรางเปนสารประกอบท่ีไมล ะลายนา้ํ
ธาตุสงั กะสีจะอยใู นเซลลเรยี กวา zinc pool (Fig.15) โดยจากรูปจะพบวาไมวา ดา น apical หรือ basolateral membrane
กจ็ ะดงึ เอาสงั กะสีมาเกบ็ ไวใ นเซลลโดยจับกบั thionein ที่ถูกกระตุน ใหมี gene expression ทม่ี ากข้ึน กลายเปน metallothionein ซงึ่ เปน
รปู ทีส่ ังกะสอี ยูภายในเซลล มีบทบาทชว ยทําลายสารพษิ โลหะหนักอนื่ ๆไดดว ย
Biochemical function of sulfer :
1. สังกะสมี ีบทบาทในการทํางานของระบบภมู ิคุมกันในรา งกาย
เนื่องจากการเจริญของ T-cell lymphocyte ตอ งการสงั กะสีรวม
ดว ย
2. ชวยใหการซอมแซมบาดแผลเปนไปไดเรว็ ข้ึน
3. มบี ทบาทในเมตาบอลิสมของ RNA, DNA
4. มีสวนรว มในขบวนการ signal transduction และ gene
expression รวมไปถึงขบวนการ apoptosis.
ปจ จุบันมีการคนพบโปรตีนทีเ่ ก่ียวขอ งกบั สังกะสีใน
Fig.15 : Zn pool in cell การทาํ งานกวา 2,367 ชนดิ
5. ในระบบประสาท สังกะสีทีถ่ ูกเก็บไวใ น synaptic vesicle ของระบบประสาททใี่ ชส ารสอ่ื ประสาทจาํ พวกกลตู าเมท จะมีบทบาทใน
ขบวนการ plasticity (การปรับตัวยดื หยนุ ตอ การทํางานของสมองท่ีเสยี หาย ) และ excitability (ความไวในการกระตุน ของระบบประสาท)
Clinical Correlation :
1. acrodermatitis enteropathica : เปนโรคทางพันธุกรรมทที่ าํ ใหเ กดิ ความบกพรอ งของการดูดซึมสงั กะสีที่ลาํ ไส อาการจึงเกิดตาม
ระบบทีม่ ีความจําเปนตอ งใชส งั กะสี เชน ระบบภูมคิ ุมกนั บกพรองจาก T-cell dysfunction, ระบบประสาทรบั รูกล่นิ และรสชาติไมท าํ งาน
(ขาดโปรตนี gustin) และมคี วามผดิ ปกตขิ องเยื่อบตุ า งๆ เชนทล่ี ําไส ทําใหเ กดิ การถายเหลว, ผวิ หนงั อักเสบแพแสงงา ย เปนตน
2. zinc paste : เนอ่ื งจากสังกะสีมีบทบาทในการซอ มแซมเนอื้ เย่ือของบาดแผล ปจ จุบนั จงึ มีการใช zinc paste มาชว ยทาบาดแผลท่ี
รุนแรงเพื่อชว ยสงเสรมิ การซอมแซม
3. metal fume fever : ผปู วยท่ีไดสูดดมไอของ ZnO dust เขาไปในระบบทางเดนิ หายใจ จะทําใหเกิดอาการไอ, ปวดศรี ษะ, นํ้าลาย
ไหล คลายคลงึ กับไขห วดั ใหญ บางรายหากสูดเขา ไปปริมาณมากอาจมีอาการคลายติดเช้อื ในปอด การรักษาปจ จุบันใช chelating agent
เชน EDTA ชว ยในการขจดั สารพิษในรางกาย
เนือ่ งจากสงั กะสีเปนแรธาตทุ อี่ ยูภายในเซลลเ ปนหลกั ดังนน้ั จงึ ไมมีการตรวจทางหองปฏิบตั ิการที่นาเช่อื ถอื
ชวยในการวนิ จิ ฉยั ตองอาศยั ประวตั ขิ องการทาํ งานผูปว ยเปน สําคญั
8. ซลี ีเนยี ม (Selenium) :
เปนธาตทุ ีม่ ีความตอ งการเพียงเลก็ นอ ย โดยปกติจะไดรับเพียงพอจากอาหารโดยดูดซึมเขาทางลาํ ไสเล็กในรูป
selenocysteine และขบั ออกทางปส สาวะเปนหลกั ธาตนุ ี้ไมมีกลไกควบคมุ ในเร่ืองการดูดซึมและขบั ออกเปน พเิ ศษ
Biochemical function of selenium : 1. เปน co-factor ของ glutathione peroxidase ทาํ งานรวมกบั reduced glutathione ในการสลาย H2O2 ดังน้ัน เราอาจใช
activity ของเอนไซมด ังกลา วเปน ตวั บงชีภ้ าวะของ selenium ได
14
เอกสารประกอบการเรยี นวิชา minerals สําหรับนศพ.ปท ี่ 2 ปการศกึ ษา 2552 ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
2. selenoprotein ซึ่งมี selenocysteine จะมบี ทบาทในการเปน antioxidant 3. มีความสาํ คัญในขบวนการ deiodination ซ่ึงทาํ ใหเกดิ การสลาย MIT และ DIT ใหไ ดธ าตไุ อโอดนี หมุนเวยี นกลับมาใชใ หม ดังนั้น หากขาดธาตุน้ี อาจทาํ ใหผูปวยเสย่ี งตอ ภาวะธยั รอยดต า่ํ (hypothyroidism) Clinical Correlation :
ปกติพบการขาดของธาตุดังกลาวนอยมาก ยกเวนในพืน้ ทที่ ีม่ ีการขาดธาตุน้ใี นแหลง ดนิ และน้าํ จะทําใหพ ืชและสัตวขาด ธาตุนี้ไปดวย มนุษยท่ีบริโภคพชื และสัตวเ หลา นจี้ ึงขาดแคลนธาตุดงั กลาว เชน ทางตอนเหนอื ของประเทศจีน ที่เมอื ง Keshan มีรายงาน ผูปวยที่เกิดจากการขาดธาตดุ ังกลา ว พบหวั ใจโต บบี และคลายตวั อยา งผดิ ปกติและมีเม็ดเลอื ดแดงแตกงา ย เรียก “Keshan disease” โรค ดงั กลาวอาจเกิดในบุคคลทีม่ ีปญหาดา นการบริโภคแมไ มไดอยูในพ้นื ท่ีทขี่ าดแคลนกไ็ ด
9. Supplementary :
9.1 Calcium, zinc or copper needed enzymes or proteins :
Enzyme Functions
Calcium
-Pancreatic α-amylase -dietary starch hydrolysis
-Trypsinogen -promote trypsin activation and stabilization
-Phosphorylase kinase -glycolysis
-Calmodulin -cell signaling pathway
-Troponin -signal for muscle contraction
-Phospholipase C / Protein kinase C -intracellular signaling pathway
Zinc
-Alcohol dehydrogenase -alcohol catabolism
-Alkaline phosphatase -phosphate group hydrolyzation
-Angiotensin-converting enzyme -regulation of blood pressure
-Aminolevulenic acid (ALA) -heme biosynthesis
-Insulin vesicle -packaging of insulin in vesicle
-Fructose-1,6-bisphosphate -gluconeogenesis pathway
Copper
-Cytochrome c oxidase -respiratory chain
-Lysyl oxidase -collagen synthesis
-Dopamine β-hydroxylase -dopamine synthesis (neurotransmitter)
-Tyrosine oxidase -melanin synthesis
-Superoxide dismutase (SOD) -toxic oxygen removal
-Metallothionein -copper storage and detoxification
15
9.2 Other minerals : เอกสารประกอบการเรียนวิชา minerals สาํ หรับนศพ.ปท ี่ 2 ปการศกึ ษา 2552 Manganese ภาควิชาชวี เคมี คณะแพทยศาสตรศ ริ ริ าชพยาบาล
Chromium - จบั กับ β1- globulin เรียก transmanganin สง ผลตอการทาํ งาน Molybdenum ของเอนไซมห ลายชนดิ ในสตั วทดลองพบวา สําคัญตอ glucose tolerance ไมพบการขาดในมนุษย - ชวยเสรมิ ฤทธิ์ insulin เรียก glucose tolerance factor และชวย ใหระดับ HDL-C ลดลง - เปน สว นประกอบของ xanthine oxidase, sulfite oxidase และ aldehyde oxidase ในมนษุ ย
10. Frequently Asked Questions :
1. ทานแคลเซียมเสริมอยา งไรจึงจะดที สี่ ุด ? แคลเซยี มเสรมิ ปจ จบุ ันมีหลายรูปแบบ ไดแ ก calcium lactate, calcium carbonate, calcium citrate,etc. ซ่งึ รปู ท่ีนยิ มใช
คือ แคลเซยี มคารบ อเนต ปกติแลวการดูดซึมจะเกิดขึน้ เพยี งแค 40% เทา นนั้ ของปริมาณ calcium ทท่ี านเขาไป ดังนัน้ การรับประทาน พรอมอาหารจะทําใหเ พิม่ การดดู ซมึ ใหดียิ่งข้ึนเนื่องจากภาวะความเปน กรดในกระเพาะอาหาร แตปจ จบุ ันจะพบวาแพทยแ นะนําใหท าน หลงั อาหารกเ็ พื่อความสะดวกเทา น้ันเอง
2. นํา้ อัดลมทาํ ใหเ สีย่ งตอภาวะกระดูกบางและพรุนจริงหรอื ไม ? นา้ํ อัดลมในปจจุบนั ไดรบั การยนื ยันแลววา เปน เครือ่ งด่มื ทม่ี อี งคประกอบของฟอสเฟตสงู มาก ทาํ ใหเ กิด secondary
hypocalcemia ตามมาจากกลไกของ solubility product ( [Ca2+]x[PO43-] ) ทีต่ องคงที่ประมาณ 50-55 ทําใหเ รงการเกดิ bone resorption เพ่ือชดเชยภาวะ hypocalcemia และสงผลใหผ ูด่มื เสี่ยงตอ ภาวะกระดูกบางและพรุนในทีส่ ุด
3. ทาํ ไมจึงมกี ารนํา PTH มาใชในการรกั ษา osteoporosis ? เนื่องจาก PTH ทําใหเ กิด bone resorption ดงั นน้ั ปรัชญาการรักษาดังกลาวจึงดูขดั แยง กับเหตผุ ล แตพ บวาในคนไข
osteoporosis การให PTH ในขนาดทเ่ี หมาะสม จะมฤี ทธกิ์ ระตุนท้ัง bone formation และ bone resorption ทําใหเ กดิ bone remodeling ผลลพั ธสุทธิจะไดเ ปน bone formation มากกวา จึงใชรักษา osteoporosis ได อยางไรก็ตาม PTH ไมใ ชยาตัวแรกทพ่ี ิจารณา ใหใชในการรกั ษาภาวะ osteopororsis
4. ธยั รอยดฮ อรโมนสมั พนั ธอยางไรกับแคลเซยี ม ? ความผิดปกติ thyroid hormone ทไ่ี ปทางมากเกิน ทาํ ใหเพิม่ ระดับ calcium ในรางกายโดยเพิ่ม bone resorption
เพราะฉะนน้ั ในผปู ว ย subclinical hyperthyroidism (TSH ต่ําอยางเดยี ว แตT3&T4ปกต)ิ จะเหน็ วาบางคนไดร บั การรักษา บางคนก็ไมไ ด รักษา ท้งั น้เี พราะจะเลือกรกั ษาเฉพาะคนทม่ี ีความเสี่ยงตอ การเกดิ complicationเชน หวั ใจเตน ผดิ จังหวะ กระดูกพรนุ ฯลฯ ซ่ึงกลมุ คนไขที่ เส่ียงตอ ภาวะ เหลาน้ี เชน หญิงหมดประจาํ เดือน ก็จะไดรับการรกั ษาเวลาเจอภาวะ subclinical hyperthyroidism รว มดวย ผิดกับถา subclinical hyperthyroidism เกดิ ในชายหนุมปกติ กจ็ ะไดรับการ follow up โดยยงั ไมไ ดย ารักษาแตแ รก เปน ตน
5. ยาสีฟน ทมี่ ีฟลูออไรดห ากใชแลว จะทําใหเซลลเย่อื บชุ องปากตายจากการถกู ยับยั้งเอนไซม enolase หรือไม ? ผลโดยตรงจาก NaF ตอ เยอื่ บชุ องปากทกี่ งั วลกันนี้ เคยมกี ารทดลอง in vitro พิสจู นซ ่งึ ก็พบวา NaF ทเ่ี ขมขน มากกวา 4
mmol/L ทําใหเ กิดพิษตอ oral mucosal fibroblast โดยสามารถยบั ยง้ั ขบวนการสรางโปรตนี และการทาํ งานของ mitochondria ไดดว ย
ยา Ferrous Sulfate กินตอนไหน
ยา Ferrous Fumarate สามารถดูดซึมได้ดีหากรับประทานในขณะที่ท้องว่าง จึงควรรับประทานอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนมื้ออาหารหรือ 2 ชั่วโมงหลังมื้ออาหาร หากมีอาการระคายเคืองกระเพาะอาหารสามารถรับประทานยาพร้อมกับมื้ออาหารได้
Ferrous Sulfate กินยังไง
กินยาครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร • กินยานี้พร้อมกับน้า ห้ามหักแบ่งหรือเคี้ยวเม็ดยา เพื่อ หลีกเลี่ยงการระคายเคืองทางเดินอาหาร
Ferrous sulfate 200 mg คือยาอะไร
ยานี้ใช้เพื่ออะไรใช้รักษาโรคโลหิตจางที่เกิดจากการขาดธาตุเหล็กในผู้ใหญ่
Fer In Sol กินยังไง
เฟอร์รัสซัลเฟท ชนิดเม็ด เม็ดละ 300 มิลลิกรัม มีเหล็ก 60 มิลลิกรัม ชื่อการค้า เช่น เฟอร์-อิน-ซอล (Fer-ln-sol), ซอร์บิเฟอร์ (Sorbifer) เฟอร์รัสซัลเฟท (Ferrous sulfate) รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง