สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดตั้งขึ้นจากพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหาร และอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.๒๕๔๕ มาตรา ๔ และมาตรา ๑๒๐ จากบทบัญญัติภารกิจเกี่ยวกับศาสนา และการวัฒนธรรม รวมทั้งอัตรากำลังและข้าราชการของกระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนของ สำนักงานศึกษาธิการเฉพาะที่เกี่ยวกับฝ่ายส่งเสริมการศาสนา และวัฒนธรรม และสำนักงานศึกษาธิการอำเภอเฉพาะที่เกี่ยวข้อง งานส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ได้ถูกตัดโอนมาเป็นสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ตั้งแต่วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๔๕ ซึ่งเป็นวันที่กฎหมายบังคับใช้ประกอบกับกระทรวงวัฒนธรรมมีคำสั่ง ที่ สป.๕๙/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ กำหนดให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด เป็นหน่วยงานเทียบเท่ากองในสำนักงานปลัดกระทรวงทั้งในระดับจังหวัด และอำเภอ โดยมีคำสั่งที่ สป.๕๙/๒๕๔๕ลงวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ มอบหมายให้ข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ปฏิบัติหน้าที่ราชการในจังหวัดต่างๆโดยตำแหน่งเลขที่ลำดับต้น (นักวิชาการวัฒนธรรม ๗ว) ในแต่ละจังหวัดเป็นหัวหน้าสำนักงานและเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการกองโดยให้ข้าราชการทุกคนปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดหรืออำเภอตามที่เคยปฏิบัติอยู่เดิม มีข้าราชการในจังหวัด หรืออำเภอตามที่เคยปฏิบัติอยู่เดิม มีข้าราชการพลเรือนสามัญทั้งหมด ตามหนังสือสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมที่ วธ ๐๒๐๒/๒๒๕ ลงวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๔๙ ได้แจ้งเรื่องสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาค โดยกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวัฒนธรรม เล่มที่ ๑๒๓ ตอนที่ ๖๕ ก ลงวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๔๙ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยกำหนดให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด เป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาค มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(ก) ประสานงานและปฏิบัติหน้าที่ในฐานะของตัวของกระทรวงในส่วนภูมิภาครวมทั้งดำเนินการประสานและสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมในเขตพื้นที่จังหวัด (ข) ส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้และแหล่งเรียนรู้ด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมในเขตพื้นที่จังหวัด (ค) ดำเนินการป้องกันและแก่ไขการเบี่ยงเบนทางวัฒนธรรมโดยประสานหรือร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน (ง) จัดทำแผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับงานด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมในเขตพื้นที่จังหวัด (จ) ส่งเสริม สนับสนุน และประสานดำเนินการงานของสภาวัฒนธรรมจังหวัด สภาวัฒนธรรมอำเภอ และสภาวัฒนธรรมตำบล รวมทั้งหน่วยงานอื่นที่ดำเนินงานด้านศาสนาศิลปะ และวัฒนธรรมในเขตพื้นที่จังหวัด (ฉ) ปฏิบัติงานตามกฎหมายในความรับผิดชอบของกระทรวงซึ่งกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือตามที่ได้รับมอบหมาย (ช) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมาย
Page 268 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
- 268
` 9-22 การส่งเสริมสุขภ าพแ ละการป ้องกันโรค
- การสื่อสารหลายท อด ข้อมูลที่ได้ร ับอ าจข าดห าย ไม่ต ่อเนื่อง บิดเบือน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้
ข้อมูลท ี่ได้ร ับคลาดเคลื่อนผิดไปจ ากข ้อมูลท ี่ผู้ส ่งสารต ้องการสื่อ
- ปญั หาและอปุ สรรคของก ารส อ่ื สาร การสื่อสารห รือการส ื่อความห มาย มีวัตถุประสงค์ในการท ี่จ ะให้ค ู่สื่อสารมีส ่วนร ับร ู้ข้อมูล ข่าวสาร ความค ิด ความเห็น ความรู้ เพ่ือให้มีความเข้าใจตรงกัน แต่เนื่องจากมนุษย์มีความแตกต่างกันทั้งทางด้านประสบการณ์ ขนบธรรมเนียมป ระเพณี วัฒนธรรม ถิ่นที่อยู่อาศัย ตลอดจ นสิ่งแ วดล้อม ทำให้ก ารสื่อสาร หรือการสื่อความห มาย ไม่บ รรลุวัตถุประสงค์ ซึ่งอ าจเกิดจ าก 2.1 ประสบการณเ์ ดิมของบ คุ คล เมื่อบ ุคคลได้รับส ารอย่างใดอย่างห นึ่ง บุคคลจะเอาป ระสบการณ์เดิมของ ตนม าตีค วามหมาย ตัวอย่างเช่น การจ ับหมายเลขพรรคในการส มัครร ับเลือกตั้งในวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 พรรค ประชาธิปัตย์จ ับได้ หมายเลข 10 กลุ่มห นึ่งให้ค วามห มายแปลว่า การตาย และการยกสองมือโบกไปมาแสดงว่า แพ้ แต่มุมมองของคนในพรรคประชาธิปัตย์กับสื่อความหมายแปลว่า เป็นหมายเลขที่แสดงถึงการเป็นผู้นำในการเล่น ฟุตบอลเพราะห มายเลข 10 เป็นหมายเลขข องผ ู้เล่นในตำแหน่งก องหน้า เช่นเดียวกันพฤติกรรมการส ่ายหน้าของช าว อินเดีย สื่อความหมายว่า ใช่ ในข ณะที่ค นไทยเป็นการแ สดงว ่าปฏิเสธ การพูดจ ะสื่อค วามห มายผิดได้ เช่น พยาบาล บอกผ ู้ป่วยว ่า ถอดรองเท้าแ ล้วชั่งน้ำห นัก ผู้ป ่วยก ลับม าบอ กพยาบาลว ่า หนักแปดขีด ทั้งนี้เพราะผ ู้ป่วยน ำเอาร องเท้า ไปช ั่ง ส่วนพยาบาลต ้องการให้ผ ู้ป ่วยช ั่งน ้ำหนักตนเอง 2.2 กระบวนการเลอื กทางจ ติ วทิ ยา โดยท ั่วไปคนเราม ีก ลไกทางจ ิตวิทยาที่ป กป้องตนเอง จากข ้อมูลที่ทำให้ ตนเองร ู้สึก ต่ำต้อย รู้สึกด ้อย หรือไม่ปลอดภัย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ จึงเลือกท ี่จะรับหรือเปิดร ับข้อมูลหรือเลือก ตีความ 2.2.1 การเลอื กท จี่ ะรับ (Selection Exposure) ทุกวันแต่ละค นต ้องม ีการส ื่อสาร และรับข้อมูลข่าวสาร เพื่ออ ยู่ในสังคม ข้อมูลที่ส ่งม าจากกลุ่มเพื่อน การป ระชุมสัมมนา จากโทรทัศน์ สื่อส ิ่งพิมพ์ แต่ค นเลือกท ี่จะร ับข้อมูล ข่าวสารท ี่ตรงกับความต ้องการและประโยชน์ที่จ ะเกิดขึ้นกับตนเอง 2.2.2 เลือกรับข้อมูลที่ตนเองมีความสนใจ (Selection Attention) โดยทั่วไปคนจะเลือกรับข้อมูลที่มี ความเกี่ยวข้อง สอดคล้องก ับความค ิดค วามรู้สึกของตนเอง เช่น ถ้าบ ุคคลเห็นว่า การเมืองส่งผลต่อตนเอง จะเลือก ที่จ ะรับข ้อมูลด ้านการเมือง ถ้าบุคคลมีค วามส นใจต่อส ุขภาพ จะเลือกท ี่จะร ับฟังห รือติดตามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องข อง สุขภาพ 2.2.3 การเลอื กร ับรู้และเลือกต ีความ (Selective Perception and Interpretation) คนมีแนวโน้มที่จ ะรับ รู้แ ละต ีความข ้อมูลให้ส อดคล้อง กับเจตคติ ความเชื่อ หรือค วามต ้องการข องต นเอง คนเลือกท ี่จ ะต ีความข ้อมูล หรือ ให้ค วามห มายข ้อมูลในล ักษณะท ี่ท ำให้ต นเองพ อใจ รู้สึกเป็นสุข ตัวอย่างเช่น การให้ค วามห มายข องเลขท ี่แ ต่ละพ รรค ในวันรับสมัครการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลของประเทศไทย ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 มีการจับสลากเลือกเบอร์ใน การสมัครรับเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์จับได้หมายเลขสิบ พรรคประชาธิปัตย์ ให้ความหมายว่า เป็นเลขที่สำคัญ เพราะเป็นห มายเลขข องผ เู้ ลน่ ในต ำแหน่งศ นู ยห์ น้า ซึง่ เปน็ ต ำแหนง่ ท ีส่ ำคญั ในก ารเล่นฟ ตุ บอล ในข ณะท ีพ่ รรคค ูแ่ ข่งให้ ความห มายเบอร์ 10 ว่า เป็นความหมายแห่งก ารสูญเสียแห่งค วามตายเพราะน ิมนต์พระมาส วดในงานศ พ 10 องค์ 2.2.4 เลอื กท จี่ ะจ ดจำ (Selection Retention) ข้อมูลท ีบ่ ุคคลไดร้ ับในแ ต่ละว ันม มี ากมาย บุคคลท ีร่ ับส าร จึงต้องจดจำเรื่อง/ข้อมูลท ี่มีค วามหมาย มีความเกี่ยวข้องก ับต นเอง หรือม ีความส ำคัญเกี่ยวกับตนเอง เช่น ทุกคนจ ะ จำว ันเกิด วันแ ต่งงานได้แ ม่นยำ หรือว ันท ี่พ บคนร ักเป็นวันแ รก ของข วัญชิ้นแรกที่ได้รับจากส ามี เป็นต้น ลขิ สิทธ์ขิ องมหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช `