"ขมิ้น" ถือว่าเป็นสมุนไพรที่อยู่ติดบ้านและครัวเรือนไทยมานานตั้งแต่สมัยโบราณ นอกจากจะนำมาใช้ปรุงอาหารแล้ว ขมิ้นยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และเกลือแร่ต่าง ๆ รวมไปถึงเส้นใย คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส ผลัดเซลล์เก่าออกอย่างอ่อนโยน ลดการอักเสบของสิว และรักษาปัญหาโรคผิวหนังต่างๆ ได้ด้วย
ประโยชน์ของขมิ้น
- ช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวล ขาวผ่องใส แลดูเนียนขึ้น
- ช่วยรักษาสิวเสี้ยน สิวอุดตัน และสิวผด ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- ช่วยสมานแผลตามร่างกายให้หายเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการนำผงขมิ้นมาผสมกับน้ำแล้วทาลงบนบาดแผล
- มีฤทธิ์ในการต่อต้านและฆ่าเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง
Rainforest of the Sea Deep Sea Collagen Super Serum จาก Tarte (ราคา 1,750 บาท)
เซรั่มบำรุงผิวแบบ Bi-Phase (น้ำและน้ำมันแยกกัน) เนื้อบางเบาซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว พร้อมคุณค่าการบำรุงจาก Vegan Marine Plant Collagen เพื่อผิวกระชับแลดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน และน้ำมันอาร์แกน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวดูอิ่มน้ำ สำหรับผิวแห้ง ให้ใช้ทาก่อนลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ส่วนผิวผสมและผิวมัน แนะนำให้ใช้แทนเซรั่มหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้เลย
Turmeric & Cranberry Seed Energizing Radiance Masque จาก Kiehl's (ราคา 1,600 บาท)
มาสก์คืนความกระจ่างใสให้กับผิวด้วยส่วนผสมของขมิ้น ช่วยคืนความกระจ่างใสให้กับผิวที่แลดูอ่อนล้า หมองคล้ำ พร้อมได้ประโยชน์จากเมล็ดแครนเบอร์รี่ ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างอ่อนโยน วิธีใช้คือ ล้างหน้าให้สะอาดแล้วมาสก์ทิ้งไว้ 5-10 นาทีรอให้มาสก์แห้ง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นโดยนวดวนบนใบหน้าเพื่อให้เมล็ดแครนเบอรี่ช่วยขัดผิวไปในตัว
Starpotion Liquid Charcoal Clarifying Oil จาก GlamGlow (ราคา 1,970 บาท)
ออยล์บำรุงผิวที่ได้ส่วนผสมจากชาร์โคล, ขมิ้น, ว่านหางจระเข้, และกรดซาลิไซลิก ช่วยดีท็อกซ์ผิวให้สะอาดและเนียนขึ้น ลดขนาดรูขุมขนให้เล็กลง พร้อมเพิ่มความชุ่มชื่นให้ในตัว สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน กลิ่นค่อนข้างแปลกสำหรับคนที่เพิ่งเคยใช้ เพราะปราศจากการแต่งกลิ่น สี และสารเคมี ไม่มีการทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์ เป็นวีแกน 100%
Tama Healing Mask จาก Dr.Roebucks (ราคา 780 บาท)
มาสก์เนื้อครีมสีเหลืองเข้มที่ได้สารสกัดจากขมิ้น, น้ำมันอะโวคาโด และน้ำผึ้งมานูก้า ซึ่งเป็นแห่งสารอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย ช่วยปลอบประโลมและป้องกันการอักเสบของผิว พร้อมต่อต้านริ้วรอยก่อนวัยด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
Potent-C Bright & Plump Moisturizer จาก Peter Thomas Roth (ราคา 2,700 บาท)
มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเจลครีม เป็นสูตรที่อุดมด้วยวิตามินซีในปริมาณสูง ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำที่อาจเกิดจากอายุและปัจจัยภายนอกอย่างรังสียูวี ช่วยลดริ้วรอยให้ร่องแก้มและผิวรอบดวงตาดูตื้นขึ้น พร้อมคืนความกระจ่างใสให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น
Turmeric Brightening & Exfoliating Mask จาก KORA Organics (ราคา 1,790 บาท)
เป็นมาสก์ 2-in-1 เพราะเป็นทั้งมาสก์และสครับในตัวเดียวกัน ได้ส่วนผสมหลักจากขมิ้น ช่วยปรับสีผิวให้แลดูกระจ่างใสและลดการอักเสบของสิว ทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างหมดจด พร้อมผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ถูกกับกรด AHA แนะนำว่าให้มาสก์แล้วทิ้งไว้ไม่เกิน 10 นาที เพราะถ้านานกว่านั้นอาจจะเกิดการระคายเคืองได้
C.E.O Glow Vitamin C + Tumeric Face Oil จาก Sunday Riley (ราคา 3,380 บาท)
เฟซออยล์เนื้อบางเบา อุดมด้วยวิตามินซี ปกป้องผิวจากริ้วรอยที่เกิดจากมลภาวะและไลฟ์สไตล์ที่หนักหน่วง และอีกหนึ่งส่วนผสมสำคัญอย่างขมิ้น ซึ่งอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดรอยแดงและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ พร้อมปลอบประโลมผิวให้รู้สึกผ่อนคลาย ใครที่มีผิวแห้งแนะนำให้ใช้ตัวนี้ก่อนแล้วค่อยตามด้วยเซรั่ม จะเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวได้อีกเท่าตัว
สามารถใช้สารเร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA BHA ได้ หรือจะใช้สครับด้วยก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรใช้ทั้งสารเร่งการผลัดเซลล์ผิวแล้วตามด้วยการใช้สครับพร้อมกัน
ผิวแห้ง
ควรใช้เฉพาะสารเร่งการผลัดเซลล์ผิว AHA เท่านั้น เพราะจะทำงานได้ดีที่สุด และช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆได้ดีขึ้น และห้ามใช้สครับเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองหรือบาดแผลได้
ผิวบอบบางแพ้ง่าย
สามารถใช้สารเร่งการผลัดเซลล์ผิว BHA ที่มีความเข้มข้นน้อยลงและอ่อนโยนต่อผิว เพราะว่าผิวหน้าบอบบางและแพ้ง่าย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองเป็นผื่น หรือเกิดอาการแพ้ได้ง่าย และหลีกเลี่ยงการใช้สครับจะดีที่สุด
ผิวมัน
ใช้สารเร่งการผลัดเซลล์ผิวได้ทั้ง AHA และ BHA และใช้สครับได้ด้วยเช่นกัน แต่แนะนำให้ใช้ BHA เพราะว่าสามารถละลายได้ดีในน้ำมันและช่วยปรับรูขุมขนให้เล็กลง ควบคุมความมันได้ดีขึ้น และไม่ควรใช้สารเร่งการผลัดเซลล์ผิวร่วมกับสครับพร้อมกัน
ข้อเสียของการผลัดเซลล์ผิวบ่อยครั้งเกินไป
- เกิดการระคายเคืองและเป็นรอยแดง
- ผิวแห้งมากขึ้น หรือเกิดอาการลอกเพราะสูญเสียความชุ่มชื้น
- ผิวมันมากขึ้น เพราะผิวที่แห้งจากการผลัดเซลล์บ่อยครั้ง จนผิวผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป
- เกิดสิวแพ้ เพราะผิวหนังที่ถูกผลัดออกบ่อยครั้งจนผิวด้านในไม่มีผิวชั้นนอกปกป้อง
เพราะฉะนั้นควรเลือกวิธีการผลัดเซลล์ผิวที่เหมาะกับผิวของคุณ
ควรผลัดเซลล์ผิวบ่อยครั้งแค่ไหน
ถ้าหากใช้วิธีขัดหรือสครับผิวหน้าเพื่อผลัดเซลล์ผิว ไม่ควรทำเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้งเพราะว่าเซลล์ผิวหนังเราก็ต้องการเวลาในการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนเช่นกัน และระมัดระวังในการผลัดเซลล์ผิวด้วยตัวเองทุกครั้ง และหากมีอาการผิดปกติควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันที
ผลิตภัณฑ์ Pro ACNE SOLUTION SCRUB สครับผิวหน้าจากยูเซอริน ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยนด้วยเม็ดบีดกลมแบบละเอียดที่ไม่ขูดลอกทำร้ายผิว พร้อมด้วย Lactic Acid (AHA) ช่วยสลายสิวอุดตันและไม่ระคายเคืองผิว สามารถใช้ได้แม้คนผิวบอบบาง แพ้ง่าย
สำหรับวิธีผลัดเซลล์ผิวหน้าด้วย ผลิตภัณฑ์ที่มีสารที่มีฤทธิ์เร่งผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA สามารถใช้ได้ทุกวัน โดยไม่เป็นการทำให้ผิวบางลง และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวเราด้วยเช่นกัน
ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีสาร BHA, AHA สำหรับแต่ละสภาพผิว
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร BHA หรือ AHA เราควรเลือกให้เหมาะกับผิวเราที่สุด เพราะเมื่อผิวหน้าเราสูญเสียชั้นผิวหนังชั้นบนที่คอยปกป้องผิวเอาไว้ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายขึ้นและอาจจะเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวหรือผด ผื่น รวมไปถึงการสูญเสียความชุ่มชื้นของชั้นผิว ทำให้เซลล์ผิวด้านล่างเกิดการหดตัวซึ่งจะเป็นต้นตอของการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ด้วย
สำหรับคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย เป็นสิว หรือหน้ามัน แนะนำให้ใช้ Eucerin Pro ACNE SOLUTION A.I. MATT FLUID ที่เป็นมอยส์เจอไรเซอร์เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ลดสิวอุดตัน คุมมัน และสามารถลดรอยสิวได้อีกด้วย ใช้นวัตกรรม A.I. Innovation จากสารสกัดธรรมชาติ ลิโคชาลโคนในการลดรอยดำรอยแดง พร้อมฟื้นบำรุงเซลล์ผิวจากภายใน และ Salicylic acid (BHA) จัดการหัวสิว ลดสิวอุดตันได้ลึกถึงชั้นผิว อีกทั้งยังคุมความมันได้ 8 ชม. และลดการสะสมของแบคทีเรียก่อสิว P.Acnes ได้ถึงร่องรูขุมขน ให้ผิวไม่ไวต่อการอุดตันซ้ำด้วย เรียกได้ว่าเป็นการบำรุงผิวและปกป้องผิวไปในตัว
สำหรับคนที่ต้องการลดรอยสิว ให้หน้ากระจ่างใสก็สามารถใช้ Pro ACNE SOLUTION ANTI-ACNE MARK ที่มีสาร Thiamidol สารทรงพลังที่ได้รับการจดสิทธิบัตร เอกสิทธิ์เฉพาะของยูเซอริน สำหรับช่วยลดรอยดำสิวฝังลึกพร้อมลดโอกาสเกิดรอยสิวซ้ำ และ Salicylic acid (BHA) ที่มีความสามารถในการละลายในน้ำมัน และมีความสามารถเป็นตัวช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนโยนนอกจากนี้มีฤทธิ์ Comedolytic สลายสิ่งอุดตันในร่องรูขุมขน ดังนั้นจึงสามารถลดการอุดตันที่เป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบ
สำหรับคนผิวธรรมดา ผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย แต่ไม่มีปัญหาสิว และมีความกังวลเรื่องริ้วรอยแรกเริ่ม สามารถใช้ Eucerin HYALURON-FILLER ADVANCED AOX ESSENCE ที่เป็นเซรั่มเอสเซ้นบำรุงผิว ที่มีคุณสมบัติในการกระชับรูขุมขน ผสานด้วยไฮยาลูรอนิค แอซิดที่จะช่วยเติมเต็มริ้วรอยแรกเริ่มและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆด้วย ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนผสมของ AHA ซึ่งอาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้นควรใช้คู่กับเครื่องสำอางที่ผสมสารป้องกันแสงแดด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน หรือใช้เฉพาะช่วงเวลากลางคืน