เซลล์ไฟฟ้าเคมีและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
เมื่อ :
วันจันทร์, 05 ตุลาคม 2563
เซลล์อิเล็กโตรไลต์ คือ เซลล์ไฟฟ้าเคมีชนิดหนึ่งที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมี กล่าวคือ เมื่อผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปในเซลล์ จะทำให้เกิดปฏิกิริยารีดอกซ์ขึ้นในเซลล์นั้น เซลล์ประเภทนี้จะมีค่า <0(เครื่องหมายติดลบ) และภายในเซลล์จะมีสารอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งสารนี้สามารถจะแตกตัวเป็นไอออนบวก และไอออนลบ และทำให้เกิดนำไฟฟ้าได้
ภาพประกอบบทเรียน เซลล์ไฟฟ้าเคมีและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ที่มา ดัดแปลงจาก //pixabay.com , Clker-Free-Vector-Images
ส่วนประกอบของเซลล์อิเล็กโทรไลต์
- ขั้วไฟฟ้า (Electrode) เป็นโลหะหรือแกร์ไฟต์ที่นำไฟฟ้าได้ โดยทั่วไปมักจะใช้ขั้วเฉื่อยในเซลล์หนึ่ง ๆ จำแนกขั้วตามเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้
การจำขั้วตามสมการการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ก. ขั้วแอโนด (Anode) เป็นขั้วที่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน
ข. ขั้วแคโทด (Cathode) เป็นขั้วที่เกิดปฏิกิริยารีดักชัน
การจำแนกขั้วตามการต่อเข้ากับแหล่งกำเนิดไฟฟ้า
ก. ขั้วบวก เป็นขั้วที่ต่อเข้ากับขั้วบวกของแหล่งกำเนิดไฟฟ้า [ ซึ่งขั้วนี้จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน คือไอออนลบในสารละลายจะให้ อิเล็กตรอนแก่ขั้วไฟฟ้าบวก) ]
ข. ขั้วลบ เป็นขั้วที่ต่อเข้ากับขั้วลบของแหล่งกำเนิดไฟฟ้า [ ซึ่งขั้วนี้จะเกิดปฏิกิริยารีดักชันเกิดขึ้น คือ ไอออนบวกในสารละลายจะมารับอิเล็กตรอนที่ขั้วนี้ ]
- สารอิเล็กโตรไลต์ คือ สารที่มีสถานะเป็นของเหลวประกอบด้วยไอออนที่เคลื่อนที่ และนำไฟฟ้าได้ เช่น
กระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis)
คือ กระบวนการแยกสารอิเล็กโตรไลต์โดยการผ่านไฟฟ้ากระแสตรงลงไปในสารละลาย อิเล็กโตรไลต์ แล้วทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีเกิดขึ้นที่ขั้วบวก และขั้วลบของเซลล์อิเล็กโทรไลต์นั้น
ลักษณะสำคัญของอิเล็กโทรลิซิส
- กระแสไฟฟ้าที่ใช้ผ่านลงไปในเซลล์ ต้องเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (D.C.) คือ กระแสอิเล็กตรอน
- ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้น เป็นปฏิกิริยารีดอกซ์
- ขั้วไฟฟ้าที่ใช้ในเซลล์นี้นิยมใช้ขั้วเฉื่อย เพราะถ้าใช้ขั้วว่องไว ขั้วอาจจะมีส่วนร่วมในการเกิดปฏิกิริยาเคมีก็ได้
ประโยชน์ของกระบวนการอิเล็กโทรลิซิส
ก. การแยกสารประกออบไอออนิกหลอมเหลวด้วยไฟฟ้า เช่น เกลือ NaCl เมื่อถูกทำให้หลอมเหลว จะเกิดเป็นไอออนบวก และไอออนลบ ซึ่งเมื่อผ่านกระแสไฟฟ้าลงไป จะทำให้ ไอออนบวกเคลื่อนที่เข้าหาขั้วลบ เพื่อเข้าไปรับอิเล็กตรอนหรือเกิดปฏิกิริยารีดักชัน ส่วนไอออนลบ จะเคลื่อนที่เข้าหาขั้วบวก เพื่อจ่ายอิเล็กตรอน หรือเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน
ข. การแยกสารละลายอิเล็กโตรไลต์ด้วยไฟฟ้า
สารละลายอิเล็กโตรไลต์จะประกอบด้วยตัวถูกละลายชนิดต่าง ๆ ที่เป็นสารอิเล็กโทรไลต์ และ น้ำ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวทำละลาย เช่น สารละลายของ NaCl (aq) จะมี ไอออนบวกคือ Na+ (aq) และไอออนลบ คือ Cl- (aq) ซึ่งไอออนทั้งสองถูกน้ำล้อมรอบอยู่ (aq = aqueous มีน้ำล้อมรอบ) ดังนั้น ในสารละลายนี้จึงมีองค์ประกอบ 3 ชนิด ได้แก่ น้ำ (ตัวทำละลาย) , Na+ (aq) และ Cl- (aq) (ตัวถูกละลาย)
การแยกสารละลายอิเล็กโตรไลต์ด้วยไฟฟ้า ที่เกิดขึ้นคือ น้ำและไอออนลบของตัวถูกละลายจะเคลื่อนที่เข้าหาขั้วบวก เพื่อไปให้อิเล็กตรอน เกิด ปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งสารใดจะเป็นตัวให้อิเล็กตรอนหรือเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน พิจารณาจากค่า E0 ถ้ามีค่า E0 ต่ำ สารนั้นจะเป็นตัวเกิด ปฏิกิริยาออกซิเดชัน คือ เกิดการให้อิเล็กตรอนที่ขั้วบวกนั้นได้ดีกว่า ที่เหลือก็ไม่เกิดปฏิกิริยาใด ๆ
ส่วนน้ำและไอออนบวกของตัวถูกละลาย จะเคลื่อนที่เข้าหาขั้วบวก ไปรับอิเล็กตรอน เกิดปฏิกิริยารีดักชัน ในทำนองเดียวกัน สารใดจะสามารถรับอิเล็กตรอนได้ก็ให้พิจารณาจากค่า E0 โดยถ้ามีค่า E0 สูงกว่าสารนั้นก็จะสามารถรับอิเล็กตรอนได้ดีกว่า สารที่เหลือก็จะไม่เกิดปฏิกิริยา
ตัวอย่างอิเล็กโทรลิซิส
- การแยกเกลือ NaCl หลอมเหลวด้วยไฟฟ้า
ภาพอิเล็กโทรลิซิสโซเดียมคลอไรด์ที่หลอมเหลว ที่มา : //il.mahidol.ac.th/e-media/electrochemistry/web/electrolysis.htm
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเป็นดังนี้
ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นคือ
ที่ขั้วแอโนด เกิด Cl2 ที่ขั้วแคโทด เกิด Na (s)
ในอุตสาหกรรมเตรียมโซเดียม ก็ใช้วิธีการอิเล็กโทรลิซิสโซเดียมคลอไรด์หลอมเหลว โดยใช้เซลล์
อิเล็กโตรไลต์ที่สร้างขึ้นเฉพาะ เรียกว่า Downs cell ดังรูปที่ 2
ภาพ เซลล์อิเล็กโตรไลต์เฉพาะ เรียกว่า Downs cell ที่มา : //corrosion-doctors.org/Electrowinning/Sodium.htm
- การแยกสารละลายโซเดียมซัลเฟตด้วยไฟฟ้า
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นอธิบายได้ดังนี้
ที่ขั้วแอโนด (ขั้วบวก) โมเลกุลของน้ำและ S2O82- เคลื่อนที่เข้าไปให้อิเล็กตรอน สารใดจะสามารถให้ได้พิจารณาจากค่า E0 ดังนี้
S2O82- (aq) + 2e- > 2SO42- (aq) E0 = +2.01 V …………… (1)
O2 (g) + 4H+ (aq) + 4e- > 2H2O (l) E0 = +1.23 V …………… (2)
จากการพิจารณาค่า E0 พบว่า E0 ของปฏิกิริยาในสมการ (2) ต่ำกว่าปฏิกิริยาในสมการ (1) แสดงว่า เกิดสารตามสมการที่ (2) ได้ง่ายกว่าเกิดสารในสมการที่ (1) ดังนั้นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นที่ขั้วบวก หรือขั้วแอโนดคือ
2H2O (l) > O2 (g) + 4H+ (aq) + 4e- E0 = -1.23 V …………… (3)
ที่ขั้วแคโทด (ขั้วลบ)
โมเลกุลของน้ำและ Na+ เคลื่อนที่เข้าไปรับอิเล็กตรอน สารใดจะสามารถรับอิเล็กตรอนได้พิจารณาจากค่า E0 ดังนี้
Na+ (aq) + e- > Na (s) E0 = -2.71 V …………… (4)
2H2O (l) + 2e- > H2 (g) + 2OH- (aq) E0 = -0.83 V …………… (5)
จากการพิจารณาค่า E0 พบว่า E0 ของปฏิกิริยาในสมการ (5) สูงกว่าปฏิกิริยาในสมการ (4) แสดงว่า เกิดสารตามสมการที่ (5) ได้ง่ายกว่าเกิดสารในสมการที่ (4) ดังนั้นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นที่ขั้วบวก หรือขั้วแอโนดคือ
2H2O (l) + 2e- > H2 (g) + 2OH- (aq) E0 = -0.83 V …………… (6)
(5) x 2 ; 4H2O (l) + 4e- > 2H2 (g) + 4OH- (aq) E0 = -0.83 V …………… (6)
นำสมการที่ (3) + (6) จะได้
4H2O (l) + 2H2O (l) >2H2 (g) + O2 (g) + 4OH- (aq) + 4H+ (aq)
6H2O (l) >2H2 (g) + O2 (g) + 4H2O (l) E0 รวม = (-0.83)+(-1.23) = -2.06 V
2H2O (l) >2H2 (g) + O2 (g) E0 รวม = -2.06 V
เพราะฉะนั้นผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นเป็นดังนี้
ที่ขั้วแคโทด เกิด ก๊าซไฮโดรเจน ที่ขั้วแอโนด เกิดก๊าซออกซิเจน
แหล่งที่มา
แฟรงค์ เดวิด วี. (2547). ชุดสำรวจโลกวิทยาศาสตร์องค์ประกอบพื้นฐานทางเคมี. กรุงเทพฯ: เพียร์สัน เอ็ดดูเคชัน อินโดไชน่า.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.). (2551).หนังสือเรียนเคมีพื้นฐานและเพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เล่ม 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว.