เป็นพระราชสวามีของพระนางโสมา พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Hùntián (混塡) หรือ Hùnhuì (混湏) เป็นตำนานพระทอง-นางนาค3
– ศตวรรษที่ 2 – 2ไม่ปรากฏพระนาม4
พระเจ้าฮุน ปัน ฮวง
(พระนามในบันทึกเอกสารจีน)ศตวรรษที่ 2 – พ.ศ. 741พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Hùnpánkuàng (混盤況)5
พระเจ้าปัน ปาน
(พระนามในบันทึกเอกสารจีน)พ.ศ. 741 – 744
(3 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Pánpán (盤盤)6
พระเจ้าศรีมารญะ พ.ศ. 744 – 768
(24 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน ชือม่าน (范師蔓)7
พระเจ้าฟ่าน จินเซิง
(พระนามในบันทึกเอกสารจีน)พ.ศ. 768 – 768
(น้อยกว่า 1 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน จินเซิง (范金生)8
พระเจ้าศรีธรณีนทรวรมัน พ.ศ. 768 – 787
(19 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน จาน (范旃)9
พระเจ้าฟ่าน เฉิง
(พระนามในบันทึกเอกสารจีน)พ.ศ. 787 – 787
(น้อยกว่า 1 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน เฉิง (范長)10
พระเจ้าอัสรชัย พ.ศ. 787 – 832
(45 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน สุน (范尋)11
พระเจ้า ฟ่าน เทียนจู
(พระนามในบันทึกเอกสารจีน)พ.ศ. 832 – 900
(68 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า ฟ่าน เทียนจู12
พระเจ้าเจิน ท่าน
(พระนามในบันทึกเอกสารจีน)พ.ศ. 900 – 953
(53 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Zhāntán (旃檀)13
พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 2 พ.ศ. 953 – 978
(25 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Qiáochénrú (僑陳如)14
พระเจ้าศรีอินทรวรมัน พ.ศ. 977 – 978
(1 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Chílítuóbámó (持梨陀跋摩)15
– พ.ศ. 978 – 981
(3 ปี) ไม่ปรากฏพระนาม16
– พ.ศ. 981 – 1027
(46 ปี) ไม่ปรากฏพระนาม17
พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 3 พ.ศ. 1027 – 1057
(30 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Qiáochénrú Shéyébámó (僑陳如闍耶跋摩) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 218
พระเจ้ารุทรวรมัน พ.ศ. 1057 – 1093
(36 ปี) พระนามในบันทึกเอกสารจีนว่า Liútuóbámó (留陁跋摩) เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรฟูนานพระองค์สุดท้าย และพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรจามปา เป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 3 ที่ประสูติจากพระสนม เมื่อพระราชบิดาสวรรคตพระองค์ก็ทำการแย่งชิงราชสมบัติและสังหาร เจ้าชายกุณณะวรมัน รัชทายาทโดยชอบธรรมที่ประสูติจากพระนางกุลประภาวดี พระอัครมเหสี จึงมีการทำสงครามยืดเยื้อกับพระนางกุลประภาวดี เป็นสาเหตุให้อาณาจักรฟูนานอ่อนแอและล่มสลายลงในที่สุด เมื่อพระเจ้าภววรมันที่ 1 ร่วมกันกับเจ้าชายจิตรเสน (พระเจ้ามเหนทรวรมัน) พระอนุชา ทำสงครามเพื่อชิงราชสมบัติและบุกยึดราชธานีวยาธปุระได้สำเร็จสงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละ (พ.ศ. 1093 – 1170) –
พระเจ้าปวีรักษ์วรมัน พ.ศ. 1093 – 1143
(50 ปี)สงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละ –
พระเจ้ามเหนทรชัยวรมัน พ.ศ. 1143 – 1158
(15 ปี)สงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละ –
พระเจ้านเรนทรวรมัน พ.ศ. 1158 – 1170
(12 ปี)สงครามอาณาจักรฟูนาน – อาณาจักรเจนละ
อาณาจักรเจนละ
(พ.ศ. 1093 – 1345)[แก้]
พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรเจนละ
(พ.ศ. 1093 – 1256)–
พระเจ้าศรุตวรมัน พ.ศ. 1093 – 1098
(5 ปี) ทรงปลดแอกอาณาจักรเจนละจากการปกครองของอาณาจักรฟูนานในศตวรรษที่ 5 พระองค์สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์กัมโพช-สุริยวงศ์ ซึ่งเป็นราชวงศ์ของพราหมณ์กัมพูสวยัมภูวะกับพระนางอัปสรเมราพระองค์ทรงเป็นพระราบิดาในพระเจ้าเศรษฐวรมัน–
พระเจ้าเศรษฐวรมัน พ.ศ. 1098 – 1103
(5 ปี) เป็นพระโอรสของพระเจ้าศรุตวรมัน เป็นผู้สถาปนาเมืองเศรษฐปุระเป็นเมืองหลวง ที่เชิงเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทหินวัดพู พระองค์ทรงเป็นพระราชบิดาในพระนางกัมพุชราชลักษมี–
พระเจ้าวีรวรมัน พ.ศ. 1103 – 1118
(15 ปี)–
พระนางกัมพุชราชลักษมี พ.ศ. 1118 – 1123
(5 ปี) เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าเศรษฐวรมัน ต่อมามอบราชสมบัติให้แก่พระเจ้าภววรมันที่ 1 ซึ่งเป็นพระราชสวามีของพระนาง19
พระเจ้าภววรมันที่ 1 พ.ศ. 1123 – 1143
(20 ปี) เป็นเชษฐาของพระเจ้ามเหนทรวรมัน พระองค์เป็นเชื้อพระวงศ์ในอาณาจักรฟูนานที่ปกครองเมืองภวปุระ พระองค์ได้ร่วมมือกันกับเจ้าชายจิตรเสน ยกกองทัพเข้าชิงราชสมบัติจากพระเจ้ารุทรวรมัน เพราะเห็นว่าพระเจ้ารุทรวรมันขาดความชอบธรรมในการขึ้นครองราชสมบัติโดยหลังจากที่พระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 3สวรรคต พระเจ้ารุทรวรมันก็ทำการสังหารรัชทายาทที่ชอบธรรมที่ประสูติจากพระอัครมเหสี แล้วขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งฟูนาน ซึ่งพระเจ้าภววรมันที่ 1 ก็ได้รับชัยชนะเหนือพระเจ้ารุทรวรมันและยึดราชธานีวยาธปุระได้สำเร็จ20
พระเจ้ามเหนทรวรมัน พ.ศ. 1143 – 1159
(16 ปี) เป็นอนุชาของพระเจ้าภววรมันที่ 121
พระเจ้าอิศานวรมันที่ 1 พ.ศ. 1159 – 1178
(19 ปี) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้ามเหนทรวรมัน22
พระเจ้าภววรมันที่ 2 พ.ศ. 1182 – 1200
(18 ปี)23
พระเจ้าชัยวรมันที่ 1 พ.ศ. 1200 – 1224
(24 ปี) สวรรคตโดยไม่มีรัชทายาทที่เป็นชายหลงเหลืออยู่เลย พระมเหสีของพระองค์ คือ พระนางชยเทวี จึงสืบราชสมบัติต่อ และทำให้เกิดการแบ่งแยกดินแดนออกเป็นภาคส่วนต่าง ๆ 24
พระนางชยเทวี พ.ศ. 1224 – 1256
(32 ปี) เป็นพระมเหสีของพระเจ้าชัยวรมันที่ 1อาณาจักรเจนละ ถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 อาณาจักร คือ อาณาจักรเจนละบกและอาณาจักรเจนละน้ำ[ต้องการอ้างอิง] อาณาจักรเจนละน้ำ
(พ.ศ. 1256 – 1345)25
พระเจ้าพลาทิตย์ พ.ศ. 1256 – 1256
(น้อยกว่า 1 ปี)26
พระเจ้านรีประทินวรมัน พ.ศ. 1256 – 1259
(3 ปี)27
พระเจ้าบุษกรักษา พ.ศ. 1259 – 1273
(14 ปี)28
พระเจ้าสัมภูวรมัน พ.ศ. 1273 – 1303
(30 ปี) ทรงรวมเจนละเข้าเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง[ต้องการอ้างอิง] 29
พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 1 พ.ศ. 1303 – 1323
(20 ปี)30
พระเจ้ามหิปติวรมัน พ.ศ. 1303 – 1345
(42 ปี) สวรรคตจากการโดนพระเจ้าสัญชัยตัดพระเศียร เมื่อ พ.ศ. 1345อาณาจักรศรีวิชัย เข้ายึดครองอาณาจักรเจนละ (พ.ศ. 1345)
อาณาจักรพระนคร
(พ.ศ. 1345 – 1974)[แก้]
พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรพระนคร
(พ.ศ. 1345 – 1974)สถาปนา มเหนทรบรรพต เป็นเมืองหลวง สถาปนา หริหราลัย เป็นเมืองหลวง 31
พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 พ.ศ. 1345 – 1378
(33 ปี) ประกาศอิสรภาพกัมพูชาจากการยึดครองของอาณาจักรศรีวิชัย สถาปนาอาณาจักรพระนคร และรับการอภิเษกเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ณ พนมกุเลนและริเริ่มลัทธิเทวราชขึ้นเป็นครั้งแรกในกัมพูชา32พระเจ้าชัยวรมันที่ 3 พ.ศ. 1378 – 1420
(42 ปี) เป็นพระราชโอรสในพระเจ้าชัยวรมันที่ 233
พระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 พ.ศ. 1420 – 1432
(12 ปี) ภาคิไนยในพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 พระองค์ได้สร้างปราสาทพระโค โดยอุทิศแด่พระราชบิดาและพระอัยกา และสร้างปราสาทบากองสถาปนา ยโศธรปุระ เป็นเมืองหลวง 34
พระเจ้ายโศวรมันที่ 1 พ.ศ. 1432 – 1453
(21 ปี) พระราชโอรสในพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 พระองค์ได้สร้างปราสาทโลเลย ย้ายราชธานีไปตั้งที่กรุงยโศธรปุระล้อมรอบด้วยพนมบาเค็ง อีกทั้งยังทรงโปรดให้ขุดบารายตะวันออก35
พระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 พ.ศ. 1453 – 1466
(13 ปี) พระราชโอรสในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 พระองค์ได้สร้างปราสาทปักษีจำกรุง36
พระเจ้าอิศานวรมันที่ 2 พ.ศ. 1466 – 1471
(5 ปี) พระราชโอรสในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 พระเชษฐาในพระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 พระองค์มีบทบาทในการชิงพระราชบัลลังก์พระมาตุลาของพระองค์เอง (พระเจ้าชัยวรมันที่ 4) พระองค์โปรดให้สร้างปราสาทกระวานสถาปนา เกาะแกร์ เป็นเมืองหลวง 37
พระเจ้าชัยวรมันที่ 4 พ.ศ. 1471 – 1484
(13 ปี) พระราชนัดดาในพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 (ประสูติแต่พระนางมเหนทรเทวี พระธิดาในพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1) พระองค์ได้อภิเษกสมรสกับพระนางชยเทวี พระขนิษฐาในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 พระองค์ทรงราชาภิเษกโดยอ้างสิทธิ์ทางสายพระราชมารดา และเป็นผู้สถาปนาเกาะแกร์เป็นราชธานี38
พระเจ้าหรรษวรมันที่ 2 พ.ศ. 1484 – 1487
(3 ปี) พระราชโอรสในพระเจ้าชัยวรมันที่ 4สถาปนา ยโศธรปุระ เป็นเมืองหลวง 39
พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 พ.ศ. 1487 – 1511
(24 ปี) เป็นพระปิตุลาและพระภาดาของพระเจ้าหรรษวรมันที่ 2 พระองค์ได้ชิงพระราชบัลลังก์จากพระเจ้าหรรษวรมันที่ 2และทรงย้ายราชธานีกลับมาที่เมืองพระนคร ทรงโปรดให้สร้างปราสาทแปรรูปและปราสาทแม่บุญตะวันออก, ทรงเริ่มทำสงครามกับอาณาจักรจามปาในปี ค.ศ. 946สถาปนา พระนคร เป็นเมืองหลวง 40
พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 พ.ศ. 1511 – 1544
(33 ปี) พระราชโอรสของพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 ทรงสถาปนาราชธานีแห่งใหม่คือเมืองชัยเยนทรนครและปราสาทตาแก้ว ให้เป็นศูนย์กลางแทนเมืองศรียโศธรปุระ41
พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 1 พ.ศ. 1544 – 1549
(5 ปี) เป็นยุคแห่งความวุ่นวาย เนื่องจากมีพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ครองราชย์พร้อมกันทำให้เกิดความขัดแย้ง42
พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 พ.ศ. 1549 – 1593
(42 ปี) ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ได้สำเร็จ ดำเนินนโยบายเป็นพันธมิตรกับราชวงศ์โจฬะและสู้รบกับอาณาจักรตามพรลิงก์ โปรดให้สร้างปราสาทพระขรรค์กำปงสวาย พระองค์ได้หันมานับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน43
พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 พ.ศ. 1593 – 1609
(16 ปี) ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ได้สำเร็จ พระองค์สืบราชสันตติวงศ์แต่พระมเหสีในพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 โปรดให้สร้างปราสาทบาปวน โปรดให้ขุดบารายตะวันตกและโปรดให้สร้างปราสาทแม่บุญตะวันตกและปราสาทสด็อกก็อกธม44
พระเจ้าหรรษวรมันที่ 3 พ.ศ. 1609 – 1623
(14 ปี) แย่งราชบัลลังก์จากพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 ตั้งศูนย์กลางพระนครที่ปราศาทบาปวน การรุกรานของอาณาจักรจามปาในปี พ.ศ. 1617 และ 162545
พระเจ้าชัยวรรมันที่ 6 พ.ศ. 1623 – 1650
(27 ปี) พระองค์ชิงราชบัลลังก์จากวิมายปุระ เป็นปฐมกษัตริย์ต้นสายราชสกุลมหิธรปุระ โปรดให้สร้างปราสาทพิมาย46
พระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 1 พ.ศ. 1650 – 1656
(6 ปี) ชิงราชบัลลังก์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 647
พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 พ.ศ. 1656–1688
(32 ปี) ลอบปลงพระชนม์พระปัยกาและแย่งชิงเพื่อขึ้นครองราชสมบัติต่อ และยังโปรดให้สร้าง ปราสาทนครวัด, บันทายสำเหร่, ธรรมนนท์, เจ้าสายเทวดา และ บึงมาลา อีกทั้งยังทำศึกสงครามรุกรานกับอาณาจักรไดเวียต และ จามปา48
พระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 2 พ.ศ. 1693 – 1703
(10 ปี) เป็นลูกพี่ลูกน้องของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 249
พระเจ้ายโศวรมันที่ 2 พ.ศ. 1703 – 1710
(7 ปี) ถูกยึดอำนาจโดยพระเจ้าตรีภูวนาทิตยวรมัน50
พระเจ้าตรีภูวนาทิตยวรมัน พ.ศ. 1710 – 1720
(10 ปี) อาณาจักรจามปาได้เข้ามารุกรานเมื่อปี พ.ศ. 1720 จนกระทั่งเสียพระนครให้แก่จามปาในรัชสมัยพระเจ้าชัยอินทรวรมันที่ 4 กษัตริย์แห่งอาณาจักรจามปา ในอีกหนึ่งปีต่อมา คือเมื่อปี พ.ศ. 1721ถูกรุกรานโดยอาณาจักรจามปา (ว่างเว้นกษัตริย์ พ.ศ. 1721 – 1724) สถาปนา นครธม เป็นเมืองหลวง 51
พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พ.ศ. 1724 – 1761
(37 ปี) เป็นผู้นำกองทัพชาวพระนครในการกอบกู้เอกราชของอาณาจักรพระนครให้พ้นจากการปกครองของอาณาจักรจามปา จนได้รับชัยชนะและเป็นเอกราชอีกครั้งในปี พ.ศ. 1734 หลังจากประสบความสำเร็จจากการทำศึกครั้งนั้นแล้ว จึงได้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่สำคัญเช่น การสร้างอโรคยศาลา พระราชวัง สระน้ำหลวง รวมไปถึงปราสาทองค์สำคัญ เช่น ปราสาทตาพรหม, ปราสาทพระขรรค์, ปราสาทบายน ใน นครธม และ ปราสาทนาคพันธ์ เป็นต้น52
พระเจ้าอินทรวรมันที่ 2 พ.ศ. 1762 – 1786
(24 ปี) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ในรัชสมัยของพระองค์นั้นได้สูญเสียดินแดนทางฝั่งตะวันตกโดยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ได้ทำการฟื้นฟูอาณาจักรสุโขทัยขึ้น และดินแดนทางฝั่งตะวันออกนั้น อาณาจักรจามปา ก็ยังได้ประกาศเอกราชขึ้นมาอีกในรัชสมัยเดียวกัน53
พระเจ้าชัยวรมันที่ 8 พ.ศ. 1786 – 1838
(52 ปี) ถูกชาวมองโกลนำโดยกุบไลข่าน รุกรานในปี พ.ศ. 1826 และทำสงครามกับอาณาจักรสุโขทัย54
พระเจ้าอินทรวรมันที่ 3 พ.ศ. 1838 – 1851
(13 ปี) ลอบปลงพระชนม์พระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ผู้เป็นพระสัสสุระ ทำให้พระพุทธศาสนานิกายเถรวาทเป็นศาสนาประจำชาติ มีการรับนักการทูตชาวจีนหยวน โจว ต๋ากวาน (พ.ศ. 1839 – 1840)55
พระเจ้าอินทรวรมันที่ 4 พ.ศ. 1851 – 1870
(19 ปี)56
พระเจ้าชัยวรมันที่ 9 พ.ศ. 1870 – 1879
(9 ปี) มีพระนามปรากฏในศิลาจารึกภาษาสันสกฤตเป็นพระองค์สุดท้าย สิ้นสุดการปกครองโดยราชสกุลมหิธรปุระหลังจากที่ได้ปกครองอาณาจักรมาอย่างยาวนานกว่า 300 ปี57พระเจ้าแตงหวาน พ.ศ. 1879 – 1883
(4 ปี) ต้นสายราชสกุลตระซ็อกประแอม58
พระบรมนิพพานบท พ.ศ. 1883 – 1889
(6 ปี)59
พระสิทธานราชา พ.ศ. 1889 – 1890
(1 ปี)60
พระบรมลำพงษ์ราชา พ.ศ. 1890 – 1896
(6 ปี)อาณาจักรอยุธยา ตีนครธมแตก แต่ยังคงมีพระมหากษัตริย์ครองราชย์ต่อไป 61
พระบาสาต
(พระบากระษัตร) พ.ศ. 1896 – 1899
(3 ปี)62
พระบาอาต
(พระบาอัฐ) พ.ศ. 1899 – 1900
(1 ปี)63
พระกฎุมบงพิสี พ.ศ. 1900
(น้อยกว่า 1 ปี)64
พระศรีสุริโยวงษ์ พ.ศ. 1900 – 1906
(6 ปี)65
พระบรมรามา พ.ศ. 1906 – 1916
(10 ปี)66
พระธรรมาโศกราช พ.ศ. 1916 – 1936
(20 ปี)อาณาจักรอยุธยา นำโดยสมเด็จพระราเมศวร ตีนครธมแตกครั้งที่ 2 แต่ยังคงมีพระมหากษัตริย์ครองราชย์ต่อไป 67
พระอินทราชา
(พญาแพรก) พ.ศ. 1931 – 1964
(33 ปี)สถาปนา จตุรมุข เป็นเมืองหลวง
อาณาจักรเขมรจตุมุข
(พ.ศ. 1974 – 2083)[แก้]
พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรเขมรจตุมุข
(พ.ศ. 1974 – 2083)พ.ศ. 1974 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งอาณาจักรอยุธยา เสด็จยกทัพมาตีนครธม ได้สำเร็จ และทรงแต่งตั้งพระอินทราชา พระราชโอรสครองเมืองนครธมต่อไป ในฐานะประเทศราช ต่อมาอาณาจักรอยุธยาได้แต่งตั้งให้เจ้าพระยาแพรก พระราชโอรสอีกพระองค์ในสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 มาครองนครธม จนกระทั่งถูกเจ้าพระยาญาติ เชื้อพระราชวงศ์วรมันกอบกู้เอกราชได้สำเร็จ พระองค์ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระบรมราชารามาธิบดีที่ 1 ส่วนเจ้าพระยาแพรกถูกปลงพระชนม์ สถาปนา จตุมุข เป็นเมืองหลวง 68
พระบรมราชารามาธิบดีที่ 1
(พระบรมราชาเจ้าพญาญาติ) พ.ศ. 1916 – 1976
(60 ปี) ย้ายราชธานีมายังกรุงจตุมุข เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรจตุมุขย้ายเมืองหลวงกลับมาที่ พระนคร 69
พระนารายณ์รามาธิบดี
(พระนารายณ์ราชาที่ 1 , พญาคำขัด) พ.ศ. 1976 – 1980
(4 ปี) ย้ายราชธานีกลับมาเมืองพระนคร70
พระศรีราชา พ.ศ. 1980 - 1981
(1 ปี) ถูกพระศรีสุริโยไทยราชา พระอนุชาชิงราชสมบัติ71
พระศรีสุริโยไทยราชา
(เจ้าพญาเดียรราชา) พ.ศ. 1981 – 2019
(38 ปี) เป็นพระราชโอรสเจ้าพญาญาติ กับพระอิทรมิตรา (พระราชธิดาสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งอาณาจักรอยุธยา) ถูกพระพระธรรมราชาชิงราชสมบัติย้ายเมืองหลวงกลับมาที่ จตุมุข 72
สมเด็จพระธรรมราชาธิราชรามาธิบดีที่ 1
(พระศรีธรรมราชาที่ 1) พ.ศ. 2011 – 2047
(36 ปี) เป็นพระราชโอรสพระศรีสุริโยไทยราชา กับธิดาขุนทรงพระอินทร์ (ขุนนางอยุธยาที่ถูกส่งมาเป็นเจ้าเมืองโพธิสัตว์) ถูกพระอนุชาก่อกบฏ แต่สามารถขอกำลังอยุธยาปราบกบฏได้ทัน และย้ายราชธานีกลับมาเมืองจตุรมุขอีกครั้งสถาปนา บาสาณ เป็นเมืองหลวง 73
พระศรีสุคนธบท
(พญางามขัต , เจ้าพระยาฎำขัตราชา) พ.ศ. 2047 – 2055
(8 ปี) สถาปนาบาสาณเป็นราชธานี74
พระเจ้าไชยเชษฐาฐิราช
(เจ้ากน, ขุนหลวงพระเสด็จ) พ.ศ. 2055 – 2068
(13 ปี) ชิงราชสมบัติพระศรีสุคนธบทอาณาจักรเขมรจตุมุข เปลี่ยนมาเป็นอาณาจักรเขมรละแวก และได้ตกเป็นประเทศราชของกรุงศรีอยุธยา
อาณาจักรเขมรละแวก
(พ.ศ. 2083 – 2140)[แก้]
พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรเขมรละแวก
(พ.ศ. 2083 – 2140)สถาปนา ละแวก เป็นเมืองหลวง 75
พระบรมราชาที่ 2
(พญาจันทร์) พ.ศ. 2059 – 2109
(50 ปี) ย้ายราชธานีมายังกรุงละแวก เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรละแวก76
สมเด็จพระบรมราชาที่ 3
(พระยาละแวก, ปรมินทราชา) พ.ศ. 2109 – 2119
(10 ปี) ประกาศอิสรภาพจากกรุงศรีอยุธยา, ทำสงครามและเข้าโจมตีกรุงศรีอยุธยาสมเด็จพระบรมราชาที่ 3ทรงประกาศอิสรภาพจากกรุงศรีอยุธยา อาณาจักรเขมรละแวกได้เอกราชจากกรุงศรีอยุธยา 77
สมเด็จพระบรมราชาที่ 4
(นักพระสัตถา) พ.ศ. 2119 – 2137
(18 ปี) ครองราชย์ร่วมกับพระราชโอรสสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพมาตีกรุงละแวกได้สำเร็จ อาณาจักรเขมรละแวกได้ตกเป็นประเทศราชกรุงศรีอยุธยา) เป็นครั้งที่สอง 78
พระไชยเชษฐาที่ 1
(นักพระสัตถา) พ.ศ. 2127 – 2137
(10 ปี) ครองราชย์ร่วมกับพระราชบิดา และพระบรมราชาที่ 579
(1)
พระบรมราชาที่ 5
(พญาตน) พ.ศ. 2127 – 2137
(10 ปี) ครองราชย์ร่วมกับพระราชบิดา และพระไชยเชษฐาที่ 1
อาณาจักรเขมรศรีสันธร
(พ.ศ. 2140 – 2162)[แก้]
พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรเขมรศรีสันธร
(พ.ศ. 2140 – 2162)สถาปนา ศรีสันธร เป็นเมืองหลวง 80
พระบาทรามเชิงไพร
(พระรามที่ 1) พ.ศ. 2137 – 2139
(2 ปี) ย้ายราชธานีมายังกรุงศรีสันธร เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรศรีสันธร81
พระรามที่ 2
(พญานูร) พ.ศ. 2139 – 2140
(1 ปี)79
(2)
พระบรมราชาที่ 5
(พญาตน) พ.ศ. 2140 – 2142
(2 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 282
พระบรมราชาที่ 6
(พญาอน) พ.ศ. 2142 – 2143
(1 ปี)83
พระแก้วฟ้าที่ 1
(เจ้าพญาโญม) พ.ศ. 2143 – 2145
(2 ปี)84
พระบรมราชาที่ 7
(ศรีสุริโยพรรณ, พระศรีสุพรรณมาธิราช) พ.ศ. 2145 – 2162
(17 ปี)
อาณาจักรเขมรอุดง
(พ.ศ. 2162 – 2384)[แก้]
พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อาณาจักรเขมรอุดง
(พ.ศ. 2162 – 2384)สถาปนา อุดงมีชัย เป็นเมืองหลวง 85
พระไชยเชษฐาที่ 2
(พระชัยเจษฎา) พ.ศ. 2162 – 2170
(8 ปี) ย้ายราชธานีมายังกรุงอุดงมีชัย เข้าสู่ยุคอาณาจักรเขมรอุดง86
พระศรีธรรมราชาที่ 2
(พญาตู) พ.ศ. 2170 – 2175
(5 ปี)87
พระองค์ทองราชา
(องค์ทอง) พ.ศ. 2175 – 2183
(8 ปี)88
พระปทุมราชาที่ 1
(องค์นน) พ.ศ. 2183 – 2185
(2 ปี)89
พระรามาธิบดีที่ 1
(พระยาจันทร์) พ.ศ. 2185 – 2201
(16 ปี)90
พระบรมราชาที่ 8
(นักองค์สูร) พ.ศ. 2202 – 2215
(13 ปี)91
พระปทุมราชาที่ 2
(พระศรีชัยเชษฐ์) พ.ศ. 2215 – 2216
(1 ปี)92
พระแก้วฟ้าที่ 2
(นักองค์ชี) พ.ศ. 2216 – 2220
(4 ปี)93
(1)
พระไชยเชษฐาที่ 3
(นักองค์สูร) พ.ศ. 2220 – 2238
(18 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 194
พระรามาธิบดีที่ 2
(นักองค์ยง) พ.ศ. 2238 – 2239
(1 ปี)93
(2)
พระไชยเชษฐาที่ 3
(นักองค์สูร) พ.ศ. 2239 – 2243
(4 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 295
(1)
พระแก้วฟ้าที่ 3
(นักองค์อิม) พ.ศ. 2243 – 2244
(1 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 193
(3)
พระไชยเชษฐาที่ 3
(นักองค์สูร) พ.ศ. 2244 – 2245
(1 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 396
(1)
พระศรีธรรมราชาที่ 3 พ.ศ. 2245 – 2247
(2 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 193
(4)
พระไชยเชษฐาที่ 3
(นักองค์สูร) พ.ศ. 2247 – 2250
(3 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 496
(2)
พระศรีธรรมราชาที่ 3 พ.ศ. 2252 – 2258
(6 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 295
(2)
พระแก้วฟ้าที่ 3
(นักองค์อิม) พ.ศ. 2258 – 2265
(7 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 297
(1)
พระสัตถาที่ 2
(นักองค์ชี) พ.ศ. 2265 – 2272
(7 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 195
(3)
พระแก้วฟ้าที่ 3
(นักองค์อิ่ม) พ.ศ. 2272 – 2272
(น้อยกว่า 1 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 397
(2)
พระสัตถาที่ 2
(นักองค์ชี) พ.ศ. 2272 – 2280
(8 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 296
(3)
พระศรีธรรมราชาที่ 3 พ.ศ. 2281 – 2293
(12 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 398
พระศรีธรรมราชาที่ 4
(นักองค์อิ่ม) พ.ศ. 2293 – 2293
(น้อยกว่า 1 ปี)99
(1)
พระรามาธิบดีที่ 3
(นักองค์ทอง) พ.ศ. 2293 – 2294
(1 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 197
(3)
พระสัตถาที่ 2
(นักองค์ชี) พ.ศ. 2294 – 2294
(น้อยกว่า 1 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 3100
พระศรีไชยเชษฐ์
(นักองค์สงวน) พ.ศ. 2294 – 2300
(6 ปี)99
(2)
พระรามาธิบดีที่ 3
(นักองค์ทอง) พ.ศ. 2301 – 2303
(2 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 2101
พระนารายน์ราชารามาธิบดี
(นักองค์ตน) พ.ศ. 2303 – 2318
(15 ปี)อาณาจักรเขมรอุดงได้ตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรธนบุรี (หมายเหตุ: สยามในนามอาณาจักรอยุธยาล่มสลายเมื่อ พ.ศ. 2310 และถูกฟื้นฟูขึ้นใหม่ในนามอาณาจักรธนบุรี)102
สมเด็จพระรามราชาธิราช
(นักองค์โนน) พ.ศ. 2318 – 2322
(4 ปี)103
สมเด็จพระนารายณ์รามาธิบดีศรีสุริโยพรรณ
(นักองค์เอง) พ.ศ. 2322 – 2325
(3 ปี)อาณาจักรเขมรอุดงได้ตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรรัตนโกสินทร์ (หมายเหตุ: สยามในนามอาณาจักรธนบุรีสิ้นสภาพจากการสวรรคตของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และมีการสถาปนาอาณาจักรรัตนโกสินทร์ขึ้นแทนที่ใน พ.ศ. 2325)เกิดสงครามขึ้นระหว่างอาณาจักรรัตนโกสินทร์ กับราชวงศ์เหงียน เพื่อแย่งชิงอิทธิพลเหนือกัมพูชา นำไปสู่สงครามอานัมสยามยุทธ 104
สมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี
(นักองค์จัน) พ.ศ. 2349 – 2377
(28 ปี)105
กษัตรีองค์มี
(นักองเม็ญ) พ.ศ. 2349 – 2377
(28 ปี) พระนางได้รับการสนับสนุนจากเวียดนามให้พระนางได้สถาปนาเป็นพระเจ้ากรุงกัมพูชาเพื่อถ่วงดุลกับสยามในช่วงอานัมสยามยุทธ106
สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี
(นักองค์ด้วง) พ.ศ. 2384 – 2403
(19 ปี)ตำแหน่งว่าง พ.ศ. 2383 – 2384 (1 ปี)
รัฐอารักขาของฝรั่งเศส
(พ.ศ. 2406 – 2496)[แก้]
พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ อารักขาฝรั่งเศส
(พ.ศ. 2406 – 2496)กัมพูชาตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และกลายเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2406 (เข้าสู่ยุคกัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส) (หมายเหตุ: กัมพูชาพ้นจากความเป็นประเทศราชของสยาม ทางฝ่ายสยามถือเป็นการเสียอิทธิพลให้ฝรั่งเศส)107
พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร
(นักองค์ราชาวดี) พ.ศ. 2403 – 2447
(44 ปี) พระราชโอรสในสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง)108
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์
(นักองค์สีสุวัตถิ์) พ.ศ. 2447 – 2470
(23 ปี) พระราชโอรสในสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี (นักองค์ด้วง) พระอนุชาต่างพระราชมารดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร (นักองค์ราชาวดี)109
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์
(นักองค์สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์) พ.ศ. 2470 – 2484
(14 ปี) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์)110
(1)
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พ.ศ. 2484 – 2498
(14 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 1 พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์)ในปี พ.ศ. 2496 กัมพูชาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสโดยสมบูรณ์ จึงมีการสถาปนาพระราชอาณาจักรกัมพูชาโดยใช้ระบอบสังคมราษฎรนิยม พ.ศ. 2496 – 2513 กัมพูชาเข้าสู่ยุคสังคมราษฎรนิยม
ราชอาณาจักรกัมพูชาที่ 1
(พ.ศ. 2496 – 2513)[แก้]
พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ ราชอาณาจักรกัมพูชา
(พ.ศ. 2496 – 2513)111
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต พ.ศ. 2498 – 2503
(5 ปี) เป็นพระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร (นักองค์ราชาวดี)เกิดรัฐประหารปี พ.ศ. 2513 ตำแหน่งพระมหากษัตริย์ถูกยกเลิก (หมายเหตุ: ยุบเลิกราชอาณาจักรกัมพูชา เปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นสาธารณรัฐเขมร พ.ศ. 2513 – 2536)
ราชอาณาจักรกัมพูชาที่ 2
(พ.ศ. 2536 – ปัจจุบัน)[แก้]
พระมหากษัตริย์ ครองราชย์ รัชกาล พระรูป พระนาม ระหว่าง หมายเหตุ ราชอาณาจักรกัมพูชา
(พ.ศ. 2536 – ปัจจุบัน)ฟื้นฟูราชอาณาจักรกัมพูชาขึ้นใหม่ พ.ศ. 2536 110
(2)
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พ.ศ. 2536 – 2547
(11 ปี) ครองราชย์ครั้งที่ 2 เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต112
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พ.ศ. 2547 – ปัจจุบัน
(19 ปี+) เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
อ้างอิง[แก้]
- ศานติ ภักดีคำ. "เอกสารกัมพูชากับการศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา" (PDF). ดำรงวิชาการ. สืบค้นเมื่อ 23 มกราคม พ.ศ. 2564.
- "The women who made Cambodia". The Phnom Penh Post. 19 May 2010.
- "C. 87 Stela from Mỹ Sơn B6". Corpus of the Inscriptions of Campā.
- សៀវភៅសិក្សាសង្គម ថ្នាកទី១០ ឆ្នាំ២០១៧ របស់ក្រសួងអប់រំ យុវជន និងកីឡា ទំព័រទី១៣៤
- Jacobsen, Trudy, Lost goddesses: the denial of female power in Cambodian history, NIAS Press, Copenhagen, 2008
- "SPLIT RUN: D_83499_Myova_Orgov_SP_4C.p1.pdf [US only]". Urologic Oncology: Seminars and Original Investigations. 39 (10): IFC. 2021-10. doi:10.1016/s1078-1439(21)00417-8. ISSN 1078-1439.
- Miksic, John N. (2007). Historical dictionary of ancient Southeast Asia. Lanham, Md.: Scarecrow Press. ISBN 978-0-8108-6465-8. OCLC 263614934.
- Coedes, George (2015-05-15). "The Making of South East Asia (RLE Modern East and South East Asia)". doi:10.4324/9781315697802.
- Coedès, George (1968). Walter F. Vella (บ.ก.). The Indianized States of Southeast Asia. trans.Susan Brown Cowing. University of Hawaii Press. ISBN 978-0-8248-0368-1.
- Higham, Charles. Early Mainland Southeast Asia. River Books Co., Ltd. ISBN 9786167339443.
เจ้าพิธีลัทธิเทวราช อยู่สด๊กก๊อกธม จ.สระแก้ว ชุมทางเครือข่ายอำนาจ.สุจิตต์ วงษ์เทศ,มติชนสุดสัปดาห์,2562